จุดเริ่มต้นความขัดแย้งรัสเซีย – ยูเครน EP4 สรุปเหตุการณ์สงครามรัสเซีย VS ยูเครน
นับตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือนแล้ว วันนี้อินเตอร์โกลด์จึงขอมาสรุปเหตุการณ์สงครามรัสเซียยูเครนทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

สัปดาห์แรกเปิดม่านสงคราม

สงครามระหว่างยูเครนรัสเซียได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวานที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 โดยในวันแรกนั้นปูตินได้สั่งปฏิบัติการทางการทหารเข้ายึดดอนบาสหลังจากเซ็นว่าทั้ง 2 รัฐเป็นรัสอิสระ ทำให้ยูเครนประกาศกฎอัยการศึกโดยทันที พร้อมทั้งตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย และยกหูหาโจ ไบเดนให้นำเข้าการประชุม G7โดยด่วนเพื่อคว่ำบาตรรัสเซีย และขอแรงสนับสนุนยูเครน วันแรกนั้นรัสเซียมุ่งเน้นการโจมตีที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารเป็นหลัก และจบลงที่ยูเครนประกาศว่ากองกำลังรัสเซียได้ยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลได้แล้วซึ่งอยู่ตอนบนของยูเครนโดยกำลังพลอีกฝั่งจากเบรารุสบุกลงมา และได้ครองบางส่วนของดอนบาสได้ด้วยเช่นกัน ทางด้านประเทศต่าง ๆ ก็ได้ลงประณามกันถ้วนหน้าจากการกระทำนี้ ที่ทำให้ประชาชนต้องย้ายถิ่นฐาน และเกิดความเสียหาย
ช่วงเช้าของวันต่อมาสหรัฐฯ ได้ประกาศเคลื่อนพล 7000 นายไปยังยุโรปเพื่อรอดูท่าที ตามมาด้วย EU ประกาศคว่ำบาตรชนชั้นนำรัสเซีย และแบนการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการบิน และให้เงินสมทบยูเครน 336 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน ทางรัสเซียเองก็ยังคงเคลื่อนพลปิดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่สองนี้ ปธน.ฝรั่งเศส ออกมาเตือนรัสเซียเสี่ยงต่อการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ หากไม่หยุดยิง ในอีกด้านสีจิ้นผิงต่อสายหาปูติน หนุนแก้ปัญหายูเครนผ่านเจรจา และในวันนั้นเองที่รัสเซียก็ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์นี้ว่า ไม่ใช่การบุกยึด แต่เป็นการปลดกำลังทหาร อ้างความชอบธรรมแบบเดียวกับตะวันตกแทรกแซงยูโกสลาเวีย โดยการแถลงการณ์ของเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้กล่าวถึงนาโต้ละเมิดคำมั่นสัญญาและปฏิเสธที่จะดำเนินการตามข้อตกลงมินต์ฉบับใหม่ และฝ่าฝืนมติความมั่นคงสหประชาชาติ 2022
เข้าสู่วันที่สามของสงคราม เริ่มต้นด้วยทางผู้นำยูเครนได้วิงวอนอิสราเอล ช่วยเป็นตัวกลางเจรจากับรัสเซียที่เยรูซาเล็ม โดยก่อนหน้ารัสเซียได้ยื่นข้อเสนอถึงการเจรจาครั้งแรกที่เบลารุสแต่ล้มเหลวเนื่องจากปธน.ยูเครน ไม่เชื่อมั่นความปลอดภัย โดยสงครามวันนี้กลับปะทุดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ จากที่รัสเซียเคยบอกแค่ว่าเข้ามาปลดกำลังทหารในแคว้นดอนบาส แต่กลับมีเสียงระเบิดดังที่กรุงเคียฟและเมืองอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยรัสเซียอ้างไม่ใช่เป็นฝีมือของตน
สงครามก็ยืดเยื้อต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 4 สื่อรายงานถึงการอพยพจากถิ่นฐานถึง 8.5 แสนราย โดยกองทัพรัสเซียกลับขยายอาณานิคมขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานระบุว่าขบวนพาหนะกองทัพได้เคลื่อนตัวสู่เมืองใหญ่อันดับที่ 2 อย่างคาร์คีฟเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นไม่นานนาโต้ ประกาศสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ช่วยเหลือยูเครนตามคำร้องของ ปธน. เซเลนสกี้ มูลค่าราว 8.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง ณ วันนี้ทางรัสเซียได้รับความกดดันครั้งใหญ่จากประชาคมโลกจากการคว่ำบาตร นำโดยสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ขับธนาคคารใหญ่รัสเซียออกจากระบบการเงินโลก (SWIFT) ซึ่งเป็นสื่อกลางในการโอนเงินระหว่างธนาคาร ยิ่งไปกว่านั้นยุโรป และสมาชิกนาโต้หลายประเทศประกาศสั่งห้ามเที่ยวบินบางเที่ยวจากรัสเซียลงจอด และวันนี้ก็จบลงที่เรื่องน่าเหลือเชื่อครับ ปูตินสั่ง กองกำลังป้องปรามนิวเคลียร์ เตรียมพร้อมในระดับสูงเพื่อตอบโต้นาโต้ (สร้างกระแสการจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 )
ต่อมาผู้นำยูเครนประกาศยอมแพ้ที่จะเจรจาในสถานที่ที่ตนต้องการและพร้อมเจรจาบนพรมแดนยูเครน-เบลารุส โดยหลายประเทศได้มีการเริ่มให้ประชาชนอพยพกลับถิ่นกันอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นก็คือไทยเราด้วยเช่นกัน เงินบริจาคยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่องสู่ยูเครนเพื่อแก้ปัญหาสงครามครั้งนี้ โดยแหล่งข่าวกล่าวว่ามีเงินในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 300 ล้านบาทได้ถึงยูเครนแล้ว ภาวะสงครามยังคงตึงเครียด และเวลานี้เองเบลารุส ได้ประกาศแก้รัฐธรรมนูญยกเลิกสถานะปลอดนิวเคลียร์ พร้อมส่งทหารช่วยกองทัพรัสเซีย โดย ปธน.เซเลนสกี้แห่งยูเครนประณามและกล่าวถึงการบุกของรัสเซียถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประชาชนไม่สามารถหลบหนีได้ทัน และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยรัสเซียออกมาปัดข้อกล่าวหาและบอกว่าตนนั้นได้ชะลอมากแล้วโดยสุดท้ายแล้วการเจรจาครั้งแรกไม่ได้ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์อะไรกลับมา
เหตุการณ์ต่อมานี้เองที่ทำให้เรารู้ว่าฟุตบอล กีฬา และการเมืองนั้นไม่ได้แยกออกจากกัน เมื่อฟีฟ่า ประกาศแบนสโมสรและทีมชาติรัสเซียยิ่งไปกว่านั้นสหพันธ์เทควันโดโลก ได้ถอดสายดำกิตติมศักดิ์ ของปูติน พร้อมบอกสันติภาพเป็นสิ่งล้ำค่ากว่าชัยชนะ รัสเซียได้รับความกดดันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การกระทำของเขานั้นกลับตรงกันข้าม โดยสื่อรายงานว่ารัสเซียบอมบ์เป้าหมายในเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน อย่างคาร์คีฟ มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 ราย และรัสเซียประกาศเตือนประชาชนในกรุงเคียฟเมืองหลวงยูเครนให้ย้ายถิ่น ระบุจะโจมตีโครงสร้างพื้นฐาน 2 หน่วยเพิ่มเติม
เริ่มมีเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างมากที่อยากให้ยูเครนได้เข้าสู่ EU ปธน.โจ ไบเดน ร่วมวอนพลเมืองอเมกันทั่วโลกกดดันรัสเซีย จนรัสเซียต้องออกนโยบายสั่งประชาชนนำเงินออกประเทศได้ไม่เกิน 10000 ดอลลาร์ รวมถึงออกนโยบายต่าง ๆ เพื่อประคับประคองสถานะทางการเงิน โดยรัสเซียประกาศจะไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดดันการคว่ำบาตร และนำกองกำลังทางอากาศรัสเซียมุ่งสู่เมืองคาร์คีฟของยูเครน และเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านมาจนครบ 1 สัปดาห์สถานการณ์ความตึงเครียดดูจะยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง

เริ่มสัปดาห์ที่ 2 ของสงคราม

หลังจากสู้รบกันจนเข้าสู่วันที่ 8 ชาติสมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติลงประณามรัสเซีย 141 ประเทศ จาก 193 ประเทศ จากสงครามครั้งนี้ทำให้มีผู้ลี้ภัยจากยูเครนทะลุ 1 ล้านคนแล้ว พลเรือนเสียชีวิตกว่า 2000 คน ปธน.เซเลนสกี้ออกมากล่าว รัสเซียอยากลบยูเครนให้หายไป และในวันนี้เองมีการเจรจารอบ 2 ซึ่งความคาดหวังของประชาชนก็คืออยากให้สงครามจบลงในเร็ววัน
มีการพูดคุยระหว่าง ปธน.ฝรั่งเศส กับปูติน โดยระบุว่ารัสเซียจะดำเนินการในยูเครนต่อและกล่าวอีกว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในยูเครนยังมาไม่ถึง โดยผลการเจรจารอบสองจบลงที่ดีกว่ารอบแรก โดยผลลัพธ์ยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ แต่มีความเห็นร่วมกันถึงการตกลงสร้างเขตฉนวนเพื่อมนุษยธรรม สงครามวันนี้ยังคงทวีความรุนแรงจากการบุกรุกคืบของรัสเซีย โดยสื่อข่าวระบุ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียหนึ่งในโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและยูเครน โดยผลิตไฟราว 25% ของปริมาณการใช้ทั่วประเทศตกเป็นเป้าโจมตีของรัสเซีย และวันนี้จบลงที่ยูเครนไม่สามารถรักษาโรงไฟฟ้านี้ไว้ได้
สถานการณ์ภายในรัสเซียเองก็มาถึงจุดเลวร้ายเช่นกันในเรื่องของการคุมสื่อและความอลหม่านภายในรัสเซียเอง ปูตินจึงได้สั่งออกกฎหมายจำคุกสูงสุด 15 ปีสำหรับผู้ที่ปล่อยข่าวปลอมเกี่ยวกับกองทัพรัสเซีย ทำให้สำนักข่าวหลายแห่งถอนตัว หรืออาจจะบอกได้ว่าปูตินกำลังจะปิดตาคนในประเทศนั่นเอง และวันนี้เองเขตฉนวนเพื่อมนุษยธรรมก็ได้เริ่มขึ้นที่มาริอูโปลและวอลโนวาคาซึ่งอยู่ตอนใต้ของยูเครนและเป็นเมืองท่าสำคัญ แต่แล้วสื่อเผยเจ้าหน้าที่ในเมืองมาริอูโปล กล่าวว่าการอพยพพลเรือนเป็นไปอย่างล่าช้า เหตุกองทัพรัสเซียฝ่าฝืนการหยุดยิง
ปูตินเริ่มโต้กลับจากการคว่ำบาตรของนานาประเทศและขู่ ประเทศใดมีส่วนร่วมในการกำหนดเขตห้ามบินในยูเครน ถือเป็นผู้มีส่วนร่วมความขัดแย้งทางการทหาร ไม่ใช่เพียงแค่ยุโรปเท่านั้น แต่เขาเตือนถึงทั่วโลก หรือบอกเป็นนัยว่าถ้าไม่อยากก่อสงครามกับรัสเซียอย่ามายุ่งเลยดีกว่า ปธน.ยูเครน เซเลนสกี้สร้างบทบาทผู้นำที่เหนือชั้นโดยยังคงติดต่อและรายงานภาพความเป็นไปของสงครามอย่างต่อเนื่องในสนามรบจริงผ่าน Social Media ซึ่งเขาได้ใช้สื่ออย่างมีประโยชน์และกดดันรัสเซีย รวมถึงให้กำลังใจชาวยูเครนเองด้วย โดยในวันนี้เขาก็ได้คุยกับนายโจ ไบเดนถึงการขอเงินทุนเพิ่มในการช่วยเหลือชาวยูเครน โดนในวันนี้มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 1.5 ล้านคนเข้าไปแล้ว
การอพยพพลเรือนรอบสองในมาริโอโปล ล้มเหลวอีกครั้ง โดยปูตินโต้ถึงการอพยพล่าช้าและล้มเหลวในเมืองมาริอูโปล เหตุยูเครนผิดคำมั่นหยุดยิง (เนื้อเรื่องกลับซะงั้น)
มีการเจรจารอบ 3 เกิดขึ้นซึ่งก็จบด้วยความล้มเหลวอย่างเคย มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยความคืบหน้านั้นเป็นเพียงการปรับปรุงด้านการขนส่งพลเรือนออกจากฉนวนมนุษยธรรม แต่ในด้านสงครามนั้นก็ยังรุนแรงต่อเนื่อง เรามาดูกันในโลก Social กันบ้าง ณ วันนี้กำลังเป็นกระแสวิพากวิจารณ์รัสเซียอย่างต่อเนื่อง โซเฟีย อับราโมวิช บุตรสาววัย 26 ปีของ โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียเจ้าของทีมฟุตบอลเชลซี เรียกร้องถึงการหยุดสงครามครั้งนี้ และยังมีผู้ประท้วงอีกมากมายที่ชู หรือขึ้นรูปภาพคำว่า No War (ไม่ต้องการสงคราม)
เข้าสู่สงครามในวันที่ 13 ของยูเครน โดยการอพยพยังคงมีต่อไป และไม่มีท่าทีหยุดยั้ง และวันนี้เองที่ปูตินได้ ออกมาประกาศลิสต์ประเทศ ดินแดนที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย ตอบโต้การทำประชามติและการคว่ำบาตรรัสเซียก่อนหน้านี้และยิ่งไปกว่านั้นระบบการเงินโลกอาจต้องสั่นสะเทือนจากแรงเคลื่อนที่ปูตินได้ทำการขู่เพิ่มที่จะระงับท่อส่งก๊าซไปยังเยอรมัน ซึ่งพลังงานกว่า 40-60% ของฝั่งยุโรปนั้นได้นำเข้ามาจากรัสเซียและหนึ่งในประเทศที่นำเข้ารายใหญ่สุดก็คือเยอรมันนั่นเอง ถ้าถูกตัดท่อส่งก๊าซจะทำให้ซัพพลายในตลาดไม่เพียงพอโดยปูตินออกมาบอกว่าเขาอาจดันไปได้ถึง 300$ ต่อ บาร์เรลเลยทีเดียว และราคาน้ำมันวันนี้ทะลุไปถึง 100$ ต่อ Barrel เป็นที่เรียบร้อย ณ ตอนนี้เราคงไม่สามารถพูดได้แล้วว่าเป็นสงครามของที่ใดที่หนึ่ง เพราะผลกระทบมันกำลังส่งมาถึงประชาชนทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น อาหาร หรือพลังงานที่แพงขึ้นอย่างทันตาเห็น
ในวันที่ 15 ของสงคราม เป็นวันแห่งความเลวร้ายเมื่อโรงพยาบาลเด็กในมารีอูปอล ถูกรัสเซียทิ้งระเบิดใส่ โดยยูเครนระบุมีผู้เสียชีวิตในเมืองนี้แล้วกว่า 1170 รายตั้งแต่เริ่มรุกราน วันนี้เองสัญญาณการเจรจารอบใหม่เหมือนจะมีหวังมากขึ้นซึ่งเป็นการเจรจาใหญ่ตั้งแต่เริ่มสงครามกันเลย โดย รมว.ต่างประเทศรัสเซีย-ยูเครน ร่วมประชุมอย่างเป็นทางการ และมีตัวกลางคือตุรกี ในมุมตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวสูงขึ้นหวังข่าวดี และมีข่าวท่าทีเยอรมันเริ่มออกมาส่งสัญญาณถึงการต่อต้านการแบน SWIFT และไม่เห็นด้วยกับการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้พอมีหวังในเรื่องราคาและทรัพยกรณ์น้ำมันอาจจะไม่ขาดแคลนและส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคนทั่วโลก แต่แล้ววันนี้ก็ไม่ใช่วันดีอีกต่อไป เนื่องจาก การเจรจาล้มเหลว และสงครามยังคงดำเนินต่อ
บริษัทชั้นนำมากมายที่ประกาศถอนตัวออกจากประเทศยูเครนชั่วคราว เช่น McDonald’s, Starbucks, Coca-Cola, Pepsi และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยปูตินประกาศก้าว จะแข็งแกร่งขึ้น มาตรการคว่ำบาตรททั้งหลายจะสะท้อนกลับไปหาชาติตะวันตก ต้องเข้าใจก่อนเลยว่าก่อนหน้านี้หลังโซเวียตล่มสลายรัสเซียก็ถูกคว่ำบาตรมาอย่างต่อเนื่อง แต่รัสเซียก็ยังสามารถยืนได้ ครั้งนี้ปูตินบอกก็จะเป็นเช่นเดิม และจะแข็งแกร่งขึ้นดั่งเดิม ในมุมสงครามเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว สงครามกำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยทัพรัสเซียเริ่มปิดล้อมเมืองหลวงอย่างกรุงเคียฟ โดยขบวนทัพรัสเซียยาวกว่า 64 กม. กระจายตัวนอกเมือง เหลือแค่รอสัญญาณการบุกโจมตีเท่านั้น
วันที่ 17 ยอดผู้ลี้ภัยทะลุสูงกว่า 2.5 ล้านรายแล้ว
เข้าสู่สงครามวันที่ 18 รัสเซียยังคงบุกและปิดล้อมเมืองหลวงอย่างต่อเนื่องเพื่อบีบให้ยูเครนยอมจำนน เสียงดังสนั่นรอบเมืองเคียฟ
เข้าสู่สงครามวันที่ 19 การปิดหูปิดตาประชาชนในรัสเซียยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ผู้ประท้วงกว่า 14,000 คนถูกจับกุม โดยสาเหตุคือการให้ข่าวสารเกี่ยวกับสงครามที่ขัดต่อข้อมูลของรัฐบาล
เข้าสู่สงครามวันที่ 20 เซเลนสกี้ ปธน ยูเครนเผยการเจรจารอบ 4 อาจจัดขึ้นในวันนี้ และยังกล่าวถึงกฎอัยการศึกขยายเวลาออกไปอีก 30 วัน ณ วันนี้เองเซเลนสกี้ ได้ออกมาพูดถึงสงครามที่ยูเครนได้ทำลายเครื่องบินรบรัสเซียไปกว่า 80 ลำ และเฮลิคอปเตอร์รัสเซียจะถูกยิงตกถึง 100 ลำเร็ว ๆ นี้ รวมถึงบอกเล่าแก่ทหารรัสเซียให้ยอมจำนน ยูเครนพร้อมจะรับคุณในแบบที่รัสเซียไม่เคยให้พวกคุณได้ ที่ปรึกษา ปธน.ยูเครน คาดสงครามอาจจบ ในเดือนพฤษภาคมพร้อมความพ่ายแพ้ของรัสเซียจากการขาดทรัพยากร และจบลงที่วันนี้ผู้ลี้ภัยสูงถึง 2.82 ล้านคนกำลังจะทะลุยอด 3 ล้านแล้ว

ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของสงคราม

เซเลนสกี้ระบุ ยูเครนควรยอมรับว่าจะไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต้ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการยอมรับเงื่อนไขทางรัสเซียไปแล้ว 1 ข้อ โดยการเจรจายังคงดำเนินต่อไป ณ มุมผู้ประท้วงต่อสงคราม ยังคงมีอย่างต่อเนื่องโดยวันนี้เอง บ.ก. ชาวรัสเซียชูป้าย No War กลางรายการข่าวสด ซึ่งบ่งบอกถึงประชาชนในรัสเซียเองก็ต่อต้านการบุกของปูตินในครั้งนี้เช่นกัน โดยวันนี้จบลงที่ปูตินเอาคืนประกาศคว่ำบาตร ไบเดน สหรัฐฯ และ ทรูโด แคนาดา รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน
ปูตินลั่นไม่ก้มหัวให้ชาติตะวันตก ชี้ปฏิบัติการทหารประสบความสำเร็จและจะบรรลุเป้าหมายในยูเครน ณ วันนี้การปะทะในกรุงเคียฟยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยูเครนยังคงต้านไว้ได้ สำนักงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุมีลี้ภัยทะลุ 3 ล้านรายแล้ว โดยวันนี้เอง สก๊อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเตือนจีนอาจเผชิญการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ หากสนับสนุนรัสเซีย
เข้าสู่สงครามวันที่ 25 UN เผยมีผู้เสียชีวิตในยูเครน 847 คน หรืออาจมากกว่า และผู้ลี้ภัยไปกว่า 3.3 ล้านคนแล้ว
เข้าสู่สงครามวันที่ 26 ปธน. เซเลนสกี้ แห่งยูเครนเปิดบทบาทผู้นำ วอนนาโต้ชัดเจนต่อยูเครน จะรับหรือไม่รับเป็นสมาชิกเขายังคงกล่าวว่าถ้ายูเครนได้เป็นสมาชิกก่อนเกิดสงคราม รัสเซียจะไม่บุกเข้ามา แต่ในมุมมองของนาโต้ และสหพันธ์ยุโรปกลับมองต่าง หากรับยูเครนอาจกล่าวได้ว่าคือการประกาศสงครามโลกครั้งที่ 3 วันนี้เองยูเครนได้ปฏิเสธข้อเสนอรัสเซียถึงการวางอาวุธที่มารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญ
สัปดาห์ที่ 4 ของสงคราม รัสเซียได้เพิ่มกำลังพลทางอากาศในยูเครน โดยระบุโจมตีกว่า 300 เที่ยวใน 24 ชม. ในด้านญี่ปุ่นถูกปฏิเสธการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย รัสเซียบ่งชี้ ไม่เจรจากับญี่ปุ่นเนื่องจากร่วมกดดันรัสเซียกับพวกตะวันตก และวันนี้เอง เซเลนสกี้ ปธน.ยูเครน ให้สัมภาษณ์สื่อถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าร่วมนาโต้ ต้องมาจากมติประชาชน รวมถึงตัดพ้อกลุ่มนาโต้ ว่าเกรงกลัวรัสเซียถึงไม่กล้ารับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก พร้อมบ่งบอกถึงยูเครนจำเป็นต้องรับประกันความมั่นคงเรื่องอื่น ๆ โดยเขายังระบุถึงการยุติสงครามครั้งนี้นั้นเขาจำเป็นต้องพูดคุยกับปูติน เท่านั้นเพื่อหาทางออก
แต่ทางปูตินก็ยังไม่มีวี่แววถึงการตอบรับ และยังคงบุกโอบล้อม เคียฟอย่างต่อเนื่อง และจากแหล่งข่าวนั้น คาดว่าคงจะไม่กี่วันก็จะสามารถยึดเคียฟได้ในที่สุด โดยสถานการณ์ของสงครามครั้งนี้ยังดูไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ แต่นักลงทุนหรือประชาชนทั่วไปก็ควรจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าสุดท้ายแล้วสงครามจะออกมาในทิศทางใน แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะออกมาทางไหนสงครามครั้งนี้ก็มีแต่ความสูยเสียแน่นอน

สิ่งที่รัสเซียต้องการคืออะไร ?

ปูตินเอง ได้ออกมาบอกตลอดเวลาที่ผ่านมาว่า สิ่งที่รัสเซียพยายามเจรจาให้โลกตะวันตกเข้าใจมาตลอดว่าสิ่งที่รัสเซียต้องการคือ
  • นาโต้ปฏิเสธไม่รับยูเครนเข้า
  • นาโต้ถอดกองทัพออกจากโปแลนด์ โรมาเนีย และบัลกาเรีย
  • ยูเครนต้องยอมรับอาณาเขตดอนบาส และไครเมีย ว่าเป็นของรัสเซียแล้ว
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย เช่นเดียวกับนาโต้ที่ปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ยกเลิกคำมั่นสัญญาในปี 2008 ซึ่งระบุว่าจะให้ยูเครนเป็นสมาชิกในสักวันหนึ่ง โดยนาโต้ยืนยันว่าจะมีการพิจารณาคำขอเข้าร่วมของยูเครน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และรัสเซียไม่สามารถยับยั้งการตัดสินใจของนาโต้ได้

ด้านการลงทุนเอายังไงดี ?

จะเห็นได้ว่าปีนี้มีหลายปัจจัยมากจริง ๆ หากไม่นับเรื่องสงคราม ด้านเศรษฐกิจก็หนักอยู่แล้วทั้งโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (โอไมครอน) ที่ยังไม่จบ ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วโลกที่ขึ้นสูงจนกระทบกับค่าครองชีพ บางคนบอกว่าด้วยภาวะไม่แน่นอนเช่นนี้หากเป็นเมื่อก่อนคงเลือกที่จะถือเงินสด แต่ด้วยภาวะแบบนี้ถ้าจะถือเงินสดทั้งหมดแต่เงินเฟ้อขนาดนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกลดทอนกำลังซื้อไปเรื่อย ๆ ในตอนนี้สิ่งที่ควรทำก็คือควรหาสินทรัพย์ที่ป้องกันทั้งภาวะเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งสินทรัพย์ ที่ตรงกับตั้ง 2 ปัจจัยนี้ก็หนีไม่พ้นทองคำนั่นเอง ดังนั้นการมีทองคำติดพอร์ตในช่วงนี้นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดครับ

Intergold

iran-israel-war