ASEAN Growth ประจำครึ่งปีแรก (2019): ไทยและเวียดนามปรับตัวขึ้น รอลุ้นแนวโน้มน่าสนใจในอนาคต

ASEAN Growth ประจำครึ่งปีแรก (2019):

* ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต *

ผ่านมา 2 เดือนกับพอร์ต ASEAN Growth ที่มองระยะยาวกับภูมิภาคที่กำลังเติบโต โดยออกแบบพอร์ตให้ผลตอบแทนล้อไปกับดัชนี แต่ลดความผันผวนของพอร์ตให้ไม่มากเกินไป ถือแล้วสบายใจ

ASEAN Growth ประจำครึ่งปีแรก (2019):

* ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต *

โดยรายละเอียดของพอร์ตจะประกอบไปด้วยสินทรัพย์สามส่วนคือ Property Fund สัดส่วน 40% กองทุนดัชนี SET50 30% และกองทุนหุ้นเวียดนาม 30%

ในช่วงเดือนพฤษภาคม SET ได้รับผลกระทบจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวได้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทั่วโลก

เห็นได้จาก SET TRI ที่ปรับตัวลดลงในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่ตลาดปรับตัวลดลง ได้ส่งผลให้เงินไหลเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกองทุนอสังหาฯ ทำให้พอร์ตโดยรวมเคลื่อนไหวลดลงน้อยกว่าดัชนี SET ได้

และในเดือนมิถุนายน ตลาดโลกเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเข้ามาด้วยความคาดหวังว่า ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา จะมีมาตรการผ่อนคลายเศรษฐกิจ โดยการปรับลดดอกเบี้ย ทำให้เงินไหลเข้ามาในตลาดเพื่อเก็งกำไรมากขึ้น ประกอบกับประเทศไทยมีการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้เงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทย นำ SET50 ขึ้นไปด้วย

นอกจากนั้นผลของดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก ทำให้หลายประเทศโดยเฉพาะยุโรป และญี่ปุ่นที่มีภาวะดอกเบี้ยติดลบ ได้ส่งผลให้เงินไหลเข้ามาในหุ้นกลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์

ASEAN Growth ประจำครึ่งปีแรก (2019):

อ้างถึงใน บริษัททหลักทรัพย์ ASP (2019)

สำหรับกองทุนเวียดนาม ผลตอบแทนปรับตัวขึ้นตามตลาดเช่นกัน แม้ยังไม่มากเท่าไรนัก แต่ในอนาคตมีแนวโน้มที่น่าสนใจในหลายด้าน จากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ASP (โหลดบทวิเคราะห์ได้ที่ท้ายบทความครับ) ทั้ง ประโยชน์จากสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศจีนทำให้หลายประเทศย้ายฐานการผลิตมาที่เวียดนามมากขึ้น ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มีโอกาสที่ MSCI จะปรับเป็นประเทศ Emerging Market ในปีหน้า โดยขึ้นกับการที่เวียดนามจะสามารถปรับลดข้อจำกัดการลงทุนได้หรือไม่ นอกจากนี้เศรษฐกิจของประเทศเวียดนามยังเติบโตได้อยู่ในขณะที่เงินเฟ้อไม่ได้สูงมากนัก

ปัจจัยความเสี่ยง

สำหรับปัจจัยความเสี่ยงสิ่งทีต้องติดตามในการลงทุนมีดังนี้โดยจะพูดถึงความเสี่ยงของการลงทุนในกองทุนเวียดนาม กองทุนอสังหาฯ และกองทุนดัชนี ครับ

ประเด็นแรกคือเรื่องสงครามการค้า เพราะประเทศเวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่ได้ประโยชน์จากสงครามการค้า จากการที่หลายประเทศไหลเข้ามาย้ายฐานการผลิต อาจทำให้ตกเป็นเป้าในการขึ้นภาษีนำเข้าเพื่อลดการขาดดุลการค้าได้

ประเด็นที่สองคือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน การลงทุนในต่างประเทศถ้าค่าเงินผันผวน อาจทำให้ไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตามที่คาดหวังได้ ได้กำไรจากการลงทุนแต่อาจขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนแทน

ประเด็นที่สามคือ เรื่องการควบคุมภายในและมาตรฐานบัญชีของบริษัทในประเทศเวียดนาม เนื่องจากประเทศเวียนนามเป็นประเทศในกลุ่ม Frontier market ที่อาจมีเรื่องการควบคุมภายในที่ยังไม่ได้มาตรฐานนัก จุดนี้จะเป็นความเสี่ยงในเรื่องของคุณภาพงบการเงินอาจไม่สะท้อนความเป็นจริง แต่ปัจจุบันทางภาครัฐเร่งพัฒนาตรงจุดนี้อยู่

ประเด็นที่สี่ เข้ามาที่กองทุนอสังหาฯ กันบ้าง แม้ว่ากองทุนอสังหาจะเป็นกองทุนที่รายได้สม่ำเสมอ แต่ความเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กรณีเลวร้ายที่สุดคือผู้เช่าอสังหาเริ่มปิดตัวและได้ค่าเช่าลดลง ดังนั้นการซื้อกองทุนที่กระจายความเสี่ยงไปยังอสังหาหลายชนิดจะช่วยให้ความเสี่ยงจุดนนี้ลดลงได้

และประเด็นสุดท้ายในส่วนของกองทุนดัชนี SET50 ซึ่งปัจจุบันได้ประโยชน์จากเงินทุนที่ไหลเข้า ทำให้ดัชนีเป็นขาขึ้นและราคาเพิ่มสูงขึ้น สิ่งที่ต้องติดตามในปีนี้คือ การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนว่าจะฟื้นตัวจากปีก่อนหน้าได้ตามคาดหรือไม่ เพราะการเพิ่มขึ้นของกำไรจะทำให้เพิ่ม upside ของกองทุนดัชนีได้

สำหรับพอร์ต ASEAN Growth โดยรวมจะเหมาะกับนักลงทุนที่อยากลงทุนในหุ้น และลดความผันผวนของพอร์ตส่วนหนึ่งด้วยการถือ Property fund ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ หากสนใจลงทุนใน ASEAN Growth สามารถคลิกที่ https://www.finnomena.com/port/investidea/

อ้างอิง

บริษัทหลักทรัพย์ASP,ASP Next Door,2019, https://www.assetfund.co.th/home/assetplus/upload/Flashnote%20ASP-VIET%2020190611_1560414080.06656.pdf


คำเตือน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน