invest-man-top-charoen

คนไทยที่ใส่แว่น 10 คน จะมี 7 คนที่ใส่แว่นของท็อปเจริญ คำนี้กล่าวโดย คุณ นพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ เจ้าของร้านแว่นท็อปเจริญที่มีจำนวนสาขามากถึง 1,758 สาขาทั่วประเทศ (เซเว่นมี 10,000 สาขา)

แล้วธุรกิจร้านแว่นตากำไรดีแค่ไหน?

ปี 2559 บริษัทร่วมเจริญพัฒนา เจ้าของร้านแว่นท็อปเจริญ มีรายได้ 4,086 ล้านบาท ต้นทุนขาย 975 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 2,898 ล้านบาท เหลือกำไรสุทธิ 168 ล้านบาท

ถ้าให้เห็นภาพง่ายๆ ถ้าราคาแว่น 100 บาท ต้นทุนแว่นคือ 24 บาท ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการขาย 71 บาท และเหลือกำไร 4 บาท

ทำไมต้นทุนแว่น 24 บาท แต่เหลือกำไรแค่ 4 บาท?

เรื่องนี้ถ้าผู้อ่านติดตามบทความลงทุนแมนมาตลอด จะเข้าใจว่าธรรมชาติของร้านค้าปลีกโดยทั่วไป ต้นทุนที่มากที่สุดไม่ใช่ต้นทุนสินค้า

แต่กลับเป็น “ค่าเช่าพื้นที่” และรองลงมาคือค่าพนักงาน ค่าตกแต่งร้าน

นี่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ท็อปเจริญออกโปรโมชั่น 1 แถม 1 ได้ตลอดเวลา เพราะต้นทุนสินค้าเป็นสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ท็อปเจริญทำธุรกิจแว่นตามา 60 ปี แล้ว โดยเริ่มแรกที่จังหวัดสระบุรี ตอนแรกเป็นหน่วยรถขายแว่นตา ชื่อ เจริญการแว่น

คุณพ่อของคุณ นพศักดิ์ ชื่อเจริญ และ ท็อป แปลว่าดีที่สุด สุดท้ายจึงเป็นแบรนด์ชื่อ “ท็อปเจริญ”

เจ้าของใช้วิธีทำธุรกิจแบบป่าล้อมเมือง อยู่ในต่างจังหวัดเป็นหลัก พอสำเร็จจึงเริ่มขยายสาขาเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพ

คุณนพศักดิ์ยังเป็นเจ้าของร้านแว่นบิวตี้ฟูลอีกด้วย เพราะเขาเชื่อในกลยุทธ์การตลาดที่บอกว่าทุกอย่างต้องมีคู่ ถ้าเราไม่เปิดแบรนด์ที่สอง ก็จะมีคนอื่นเข้ามาแข่งอยู่ดี

เขาจึงเปิดร้านบิวตี้ฟูลเพื่อให้มาแข่งกับท็อปเจริญเอง

แต่จริงๆแล้วท็อปเจริญยังมีอีกหลายแบรนด์ เช่นแบรนด์ระดับบนชื่อ อายไบรท์ และ อายคลาส

ตอนที่คุณนพศักดิ์เปิดร้านท็อปเจริญใหม่ๆ เคยถูกร้านแว่นอื่น ดูถูกว่าไปไม่รอดแน่ถ้าไม่ลงไปคุมเอง

แต่วันนี้เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าร้านแว่นไม่จำเป็นต้องมีเจ้าของมาคุมเอง ถ้ามีระบบที่ดี

เทคนิคในการขยายสาขาเยอะๆของท็อปเจริญคือการเช่า แทนที่จะเซ้งตึก เพราะจะประหยัดต้นทุนไปได้มาก ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น

แล้วรายได้ท็อปเจริญมากขนาดไหนเมื่อเทียบกับเซเว่น?

เฉลี่ยแล้วท็อปเจริญมีรายได้สาขาละ 190,000 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 6,456 บาทต่อวัน

เมื่อเทียบกับเซเว่น รายได้ต่อสาขาของเซเว่น คือ 78,706 บาทต่อวัน ซึ่งจะเห็นได้ว่ายอดขายของเซเว่นมากกว่าท็อปเจริญเกิน 10 เท่า

ในขณะที่อัตรากำไรต่อยอดขายของเซเว่นอยู่ที่ 5% ใกล้เคียงกับ ท็อปเจริญที่อยู่ที่ 4%

จึงสรุปได้ว่า 1 สาขาของเซเว่นน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 10 สาขาของท็อปเจริญเสียอีก

ทุกคนน่าจะเคยเดินผ่านร้าน ท็อปเจริญ ดูร้านเงียบๆ ไม่น่าจะอยู่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วตัวเลขที่ออกมามีอะไรให้น่าศึกษา

ถ้าคิดว่ากำไร 4% จากยอดขาย 6,456 บาทต่อวัน แปลว่า ท็อปเจริญมีกำไรเพียงสาขาละ 258 บาทต่อวันเท่านั้น!

ตัวเลขนี้ยังน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำของพนักงาน 1 คนเสียอีก

แต่จริงๆแล้ว..

โมเดลธุรกิจของท็อปเจริญน่าสนใจที่ว่า ท็อปเจริญเน้นขยายสาขาเยอะๆไว้ก่อน ถึงแม้ว่ากำไรต่อสาขาจะน้อย แต่ผลลัพธ์เมื่อรวมกันทุกสาขา ก็ทำให้มีกำไรมาก

เมื่อรวมทุกสาขาของท็อปเจริญรวมกัน จะทำให้เจ้าของมีกำไรมากถึง 453,564 บาท ต่อวัน..

ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, isranews

ที่มาบทความ : http://longtunman.com/1013