อ่านกลยุทธ์การลงทุนกองทุนระดับโลก

ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ถือเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่อันดับสามของโลก รองจากธุรกิจพลังงานและเกมส์ ทำให้มีผู้เล่นที่อยู่ในธุรกิจนี้จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นธนาคาร บริษัทประกัน กองทุนบำเหน็จบำนาญ รวมถึงเฮดจ์ฟันด์ ที่เข้ามารุมเม็ดเงินหลักล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ไหลเวียนอยู่ทั่วโลก หากเทียบกับนักลงทุนหรือเทรดเดอร์รายย่อยแล้ว เปรียบได้กับเรือเดินสมุทรกับเรือหาปลาเท่านั้น

แต่ต่อให้เป็นเรือเล็กก็ต้องออกหาปลา กลยุทธ์ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งคือไปหาปลาในแหล่งที่มีเรือขนาดใหญ่รวมอยู่ด้วยกัน แต่ท่ามกลางมหาสมุทร (ตลาดการเงิน) อันกว้างใหญ่ การที่เราจะตามกลิ่นของเงินไปจนเจอ เราควรจะอ่านพฤติกรรมนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้ให้ออก เราไปดูกันว่าพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไรกันบ้าง

หนึ่ง..พวกเขามองหาสินทรัพย์ที่เสี่ยงต่ำถึงปานกลางไม่ใช่เสี่ยงสูง

พูดแบบนี้แล้วเราอาจจะงงได้ เพราะไหนว่ากองทุนระดับโลกต่างแสวงหาตัวเลขผลตอบแทนสูงสุด จริงแล้วมันก็เป็นเช่นนั้น แต่พวกเขาจะไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะการถือเงินของเหล่ามหาเศรษฐี ลูกค้าเหล่านี้ไม่ได้ต้องการผลตอบแทนสูงสุด แต่ต้องการที่จะ “ไม่ขาดทุน” และได้ผลตอบแทนในระดับที่ดีกว่าฝากเงินในธนาคารเฉยๆ ทั่วไปแล้วระดับ 5-10% ถือเป็นตัวเลขที่รับได้ เราจึงไม่มีทางเห็นกองทุนระดับโลกเข้ามาลงทุนใน Crypto Currency ในเร็วๆ นี้ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเกินไป

สอง..พวกเขามองหาวิธีการลงทุนที่ไม่ซับซ้อน

พูดแบบนี้ก็อาจจะงงอีก เพราะเข้าใจไปว่ากองทุนระดับโลกจะต้องมีโมเดลการลงทุนที่ซับซ้อน ในความเป็นจริงก็ไม่ผิด เพียงแต่พวกเขามักจะมองหาสินทรัพย์ที่เข้าใจง่ายและมีรูปแบบการลงทุนที่เป็น Pattern ชัดเจน ตัวอย่างเช่น Forex ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ที่ซื้อขายกันทั่วโลก แม้จะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคามากมาย แต่ทั่วไปแล้วการเคลื่อนไหวของจะเป็นแบบ Sideway ไม่มีเทรนด์ที่ชัดเจน จึงมีกองทุนจำนวนมากที่เทรด Forex ด้วยกลยุทธ์แบบ Channel Trade มากกว่าไปไล่กะเก็งทิศทางราคา

สาม..เน้นกระจายความเสี่ยงเสมอ

สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้าที่ถือเงินจำนวนมากที่ต้องการความชัวร์มากกว่าผลตอบแทนสูงสุด กองทุนระดับโลกจะไม่เสี่ยงกับการถือสินทรัพย์ใดๆ เพียงอย่างเดียว เพราะจะถือเป็นความเสี่ยงเกินไป แม้ว่าหากกะเก็งทิศทางถูกจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมากแต่หากเกิดสิ่งที่คาดการณ์ไม่ถึง อาจเกิดความเสียหายที่ไม่สามารถเรียกคืนมาได้ นั่นจะส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของกองทุนแน่นอน

สี่..เกลียดความ “ไม่แน่นอน” สุดๆ

นี่คือคอนเซบท์สำคัญที่สุดของกองทุนระดับโลก จะไม่เข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความคลุมเครือหรือลงทุนในประเทศที่มีความเสี่ยงในเชิงนโยบาย หากไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ก็จะชะลอการลงทุนหรือขายสินทรัพย์ออกมา ตัวอย่างของความไม่แน่นอนเช่น ประเด็นทางการเมือง ประเด็นด้านนโยบายเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติ ในยุคสมัยที่เครื่องมือการเงินมีความหลากหลายสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง กองทุนระดับโลกสามารถเลือกกลยุทธ์ทำกำไรได้แต่จะไม่ตัดสินใจลงทุนในสิ่งที่ไม่แน่นอน

นี่คือหัวใจสำคัญก่อนตัดสินใจลงทุนของบรรดาผู้เล่นระดับโลก สรุปใจความสั้นๆ คือ ความไม่แน่นอนคือความเสี่ยงและพวกเขาจะไม่ลงทุนในสิ่งที่เสี่ยงสูงแต่เน้นความชัวร์เป็นหลัก นักลงทุนรายย่อยอย่างเราก็สามารถนำแนวคิดไปปรับใช้ได้นะครับ

โดย นเรศ เหล่าพรรณราย