“Block Trade” ในปัจจุบันกลายเป็นคำที่นักลงทุน และ นักเก็งกำไรเกือบทุกคนน่าจะเคยได้ยินผ่านหู คุ้นตา กันมาบ้างแล้ว หากใครผ่านมาผ่านไป แล้วยังไม่เคยได้ยินคำว่า Block Trade หละก็… Mr. Leverage จะขอสรุปให้ภายใน 3 บรรทัด ก่อนที่เราจะไปเปิดประเด็นกันต่อว่าในปี 2017 ที่จะถึงนี้ หน้าตาของ Block Trade จะพัฒนาไปในทางใด
Block Trade คือ การซื้อหุ้นโดยวางเงินเพียงส่วนหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลทำให้สถาณะหุ้นที่เราถือ มีอัตราทดอยู่ที่ 5-25 เท่า โดยที่มี 69 หลักทรัพย์อ้างอิงเป็นตัวเลือกให้ซื้อ-ขาย ทำ Block Trade ได้
**อ่านเพิ่มเติม : BLOCK TRADE สิ่งที่ควรรู้ ก่อนลงทุนในตลาดอนุพันธ์
เรามาติดตามประเด็นใหม่กันว่าทิศทางของการซื้อ-ขาย Block Trade น่าจะเป็นอย่างไรในปีหน้า 2017 โดยจะขอแบ่งเป็น 2 ประเด็นดังนี้
ประเด็นที่ 1 : ตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นในการทำ Block Trade
ประเด็นที่ 2 : แนวโน้ม และ ผลที่จะตามมา
เรื่องมันเริ่มมาจากว่าทีมงานของ Mr. Leverage ได้ไปเข้าร่วมประชุมกับสมาคม TFEX และได้ข้อมูลมาว่า ทิศทางการปรับเพิ่มจำนวนหุ้นที่สามารถซื้อ-ขาย ด้วย Block Trade ได้จาก 69 หลักทรัพย์ที่มีแต่เดิม จะมีการบวกเพิ่มเติมเข้ามาอีก “26 หลักทรัพย์” ทำให้ในปีหน้า จะมีหลักทรัพย์อ้างอิงทั้งหมด “95 หลักทรัพย์” ซึ่งพอ Mr. Leverage เองมาดูลิสต์รายชื่อแล้วก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย เพราะมีหุ้นฮอทฮิทอยู่หลายตัวเลยทีเดียวที่นักเก็งกำไร น่าจะให้ความสนใจกันไม่น้อย ลิสต์ของหุ้นน้องใหม่ในสนาม Block Trade มีดังนี้
BEC, BEAUTY, CHG, DELTA, EGCO, EPG, GL, GLOBAL,GLOW, GPSC, GUNKUL, KCE, KTC, MTLS, PLANB, PTG, S, SPCG, STPI, TASCO, TISCO, TTW, UNIQ, VNG, WHA, WORK
หลายคนอาจจะมีคำถามคาใจว่า… แล้วเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นเข้ามาทำธุรกรรม Block Trade ได้มันต้องเป็นหุ้นลักษณะไหนกัน? Mr. Leverage รวบรวมเกณฑ์มาให้ดูประกอบกันไปเรียบร้อย
พอเรานำ 26 ตัวเลือกใหม่นี้ เข้ามารวมกับลิสต์เดิมแล้ว ปีหน้าเราก็จะมีหุ้นตัวเลือกในการทำ Block Trade รวมกัน 95 หลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกเก็งกำไร
**หมายเหตุ : ตรวจสอบลิสต์ตัวเลือกเดิมได้ที่นี่ : https://goo.gl/BxLYJy
ตรวจสอบลิสต์ทั้งหมด 95 หลักทรัพย์ได้ที่นี่ : https://goo.gl/6dZ582
ด้วยเหตุนี้เองจะทำให้นักเก็งกำไร รวมถึงนักลงทุนที่มีการเตรียมตัวมาดี จะสามารถวางกลยุทธ์ได้เพิ่มเติมหลากหลายจากตัวเลือกที่มากขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการ LONG และ SHORT ในตัวเลือก 95 ตัวเลือกดังกล่าว
แน่นอนว่า จากการเพิ่มตัวเลือกนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะผลักดันยอดการซื้อ-ขาย Block Trade ที่ปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 1 แสนกว่าสัญญาต่อวัน ให้เพิ่มมากขึ้น (จากเดิมปีที่แล้วค่าเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 7 หมื่นสัญญาต่อวันเท่านั้น) ซึ่งการเพิ่มขึ้นในปีหน้า มีโอกาสจะไปแตะ ที่ราวๆ 1.2-1.5 แสนสัญญญาต่อวันก็ได้ หากว่าหุ้นตัวเลือกใหม่ๆ เป็นที่นิยม การเพิ่มขึ้นนี้ Mr. Leverage คาดการณ์กันว่าน่าจะมีผลกระทบที่ตามมาดังนี้
เชื่อว่าในปีหน้า จะมีผู้ให้บริการ Block Trade ทยอยกันเพิ่มวงเงินในการรองรับธุรกรรมที่จะขยายตัว ซึ่งปัจจุบันเท่าที่พอทราบมาวงเงินอยู่ที่ 1.0-1.5 หมื่นล้านบาทนั้น อาจจะมีการขยับขยายมากขึ้นตามแนวโน้มปริมาณการซื้อขายที่มากขึ้นโดยทีมงาน Mr. Leverage เชื่อว่า ตัวเลขวงเงินนี้ เพิ่มขึ้นแน่ๆ เพราะทุกค่ายจะต้องมีการเสนอแผนประจำปี 2017 กันใหม่ ซึ่งจะทำให้การซื้อ-ขาย Block Trade ขยายตัวมากขึ้น และ จำนวนผู้เล่นเก็งกำไร และ ลงทุนผ่าน Block Trade ก็น่าจะเพิ่มตามกันขึ้นมา
คาดการณ์ว่า หุ้นอ้างอิงที่มีธุรกรรม Block Trade เข้ามาเกี่ยวข้อง จะมีความผันผวน (volatility) ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การเก็งกำไรหุ้นทั้งในกระดานหุ้นหลัก และ กระดาน Block Trade มีเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย นั่นจะทำให้นักเก็งกำไร และ นักลงทุน ที่เตรียมตัวมาดี หาโอกาสจากความผันผวนของราคาได้มากขึ้น เพราะ Block Trade เองเปิดโอกาสให้ซื้อ-ขาย ได้ทั้งฝั่ง LONG และ SHORT นั่นเอง
กลุ่มผู้เล่นเหล่านี้ จะสามารถวางแผน วางกลยุทธ์ได้เพิ่มขึ้น จากเดิมการ SHORT หุ้นบางตัวต้องไปทำในกระดาน DW ซึ่งหุ้นหลายนักลงทุนอยากเก็งกำไรในขาลงแต่หุ้นตัวนั้นดันไม่มี PUT DW ให้เล่น หรือแม้กระทั่งไม่มี CALL DW ให้นักลงทุนช่วยใช้อัตราทดในการทำกำไร …ดังนั้นแล้วการเพิ่มตัวเลือกขึ้นเป็น 95 หลักทรัพย์นี้แล้ว จะทำให้ทางเลือกในการ Short หุ้นมีมากขึ้นอีกทางหนึ่งนั่นเอง
สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักกับ Block Trade ให้มากขึ้น ลองย้อนมาดูบทความที่เพจเทคนิค DW ได้เคยลงไปแล้วดูครับ
ที่มาบทความ : https://www.facebook.com/TechniqueDW/posts/1696712610657386
Block Trade, Single Stock Futures, TFEX