ETFs รถไฟเหาะขบวนถัดไปที่จะแซงหน้ากองทุนรวม

ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ลงทุนในกองทุนรวมอาจจะประสบปัญหาอย่างการได้ราคาปิดของวันไม่ตรงใจ หากใครที่เคยเล่นหุ้น หรือโลดแล่นในตลาดฟิวเจอร์มาก่อน อาจจะกดไม่ถูกใจสิ่งนี้ และเมินหน้าหนีกองทุนรวมกันไปเฉย ๆ ผมอยากจะบอกว่าผมเข้าใจความรู้สึกของทุกคนครับ แต่อย่างไรก็ตามโอกาสในการลงทุนในกองทุนรวมราคาซื้อขาย real time ในตอนนี้อาจจะคลืบคลานใกล้เราเข้ามาแล้วก็เป็นได้ จะเป็นอย่างไรนั้น หลังจากนี้ Mr. Serotonin จะมาแชร์ประสบการณ์และเล่าให้ทุกคนฟังเอง

สิ่งที่ผมมองเห็นได้จาก ETFs ในสายตาผู้ที่ลงทุนในขอบเขตอื่น ๆ มาก่อน

1) Products การลงทุนที่หลากหลาย

ความกว้างขวางของสินทรัพย์ใน ETFs นั้น ผมเปิดเข้าไปเองยังถึงกับว้าวเลยครับ มันไม่ใช่แค่หุ้น ตราสารหนี้ หรือ การลงทุนใน REITs เพียงอย่างเดียว แต่มันมีลูกเล่นส่วนกลับอย่างการลงทุนสวนกระแสที่เราอาจจะใช้มาสำหรับจัดการความเสี่ยงได้มากขึ้น หรือง่าย ๆ คือการ Short หรือการใช้ตราสารอนุพันธ์ต่าง ๆ (Derivatives) ป้องกันความเสี่ยงนั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นการถือดัชนีอย่าง VIX index (ดัชนีวัดความเสี่ยงหุ้น อาจใช้ป้องกันในช่วงตลาดหุ้นขาลงได้) หรือแม้แต่การถือฟังก์ส่วนกลับอย่าง Inverse bond (ลงทุนตราสารหนี้ขาลง) ก็ยังได้ ซึ่งผมเชื่อว่า products หรือขอบเขตการลงทุนที่กว้างขวางนี้ จะตอบโจทย์อย่างมากในอนาคต สำหรับผู้จัดการกองทุนยุคใหม่ ที่ Quant หรือระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่เข้ามามีบทบาทในการลงทุนมากขึ้น

ETFs รถไฟเหาะขบวนถัดไปที่จะแซงหน้ากองทุนรวม

ภาพแสดงตัวอย่างสินทรัพย์ที่หลากหลายของ ETFs 

ส่วนตัวผมเองผมเคยมีประสบการณ์ทดลองออกแบบ Quant มานิดหน่อยครับ (ยอมรับว่าน้อยมาก ๆ) แต่สิ่งที่ผมสังเกตุได้จากการออกแบบ Quant หรือระบบทำกำไรต่าง ๆ เลย คือเราต้องการลูกเล่นที่มากพอ ในการออกแบบครับ

ยกตัวอย่างเช่น เรามีพื้นเพมาจากการเป็นนักลงทุนสาย Fundamental มาก่อน เราอาจต้องการอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ มาออกแบบระบบ แต่หากคุณลงทุนในลักษณะเทคนิคมาก่อน ผมเชื่อว่าพวกฟังก์ชันขาลงต่าง ๆ คงมีบทบาทในการออกแบบการลงทุนเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราอาจจะได้เห็นวงการกองทุนรวมเรามีการจัดการที่หลากหลายมากขึ้นก็เป็นได้ ซึ่งผมเชื่อว่ากองทุนหลาย ๆ กอง ณ ตอนนี้เองก็อาจจะมีการพัฒนาในส่วนนี้กันอย่างลับ ๆ

สิ่งที่ผมจะสื่อก็คือผมเชื่อว่าผู้จัดการกองทุนหรือนักลงทุนยุคใหม่จะให้ความสนใจกับตัว ETFs มากขึ้นในอนาคตเนื่องด้วยขอบเขตทางเลือกจัดการที่หลากหลายเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด และตอบโจทย์กับแนวทางการลงทุนของตนที่ถนัดในการจัดการพอร์ตและกลยุทธ์ของตนเองมากขึ้น ทั้งนี้และทั้งนั้นความหลากหลายที่ว่าเป็น ETFs ในต่างประเทศนะครับ ถ้าเรามีกองทุนที่ไปลงทุนในอนาคต ก็จะเจ๋งมาก ๆ เลยทีเดียว (อาจจะเป็น FINNOMENA หรือเปล่านะ?)

2) ราคาซื้อขายแบบ real-time (ตามจริง)

หากคุณเคยลงทุนในหุ้นหรือฟิวเจอร์มาก่อนดังที่ผมเคยกล่าวไว้ข้างต้น ผมเชื่อว่านี่คงเป็นหนึ่งใน Pain point หลัก ๆ เลยในการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวม นอกจากการส่งคำสั่งซื้อขายที่ต้องใช้เวลาดำเนินการ ราคาที่เราได้ก็ต้องเป็นราคาปิดของวัน ไม่ใช่ราคาที่เราอยากได้เช่นเดียวกัน

แต่ผมเชื่อว่าการเข้ามาของ ETFs จะทำให้ทุกคนที่เคยลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ อย่างที่ผมบอกไว้เปิดใจกันมากขึ้นครับ และผมเข้าใจนักลงทุนทุกคนว่าการที่เราเลือกลงทุนในหุ้นแบบปกติ และไม่ได้ลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่เป็นเพราะ ความเชื่อมั่นจนเกินเหตุแต่อย่างได้ แต่ทุกคนย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอยู่แล้ว 

ขอย้อนกลับไปเรื่อง Quant อีกสักนิด ผมเชื่อว่าราคาซื้อขายเองก็มีผลกับการออกแบบ Quant หรือระบบต่าง ๆ เพราะบางระบบ เราอาจจะเล่นกับค่า correlation (ความสัมพันธ์) ที่ต้องการเวลาซื้อขายตามจริง เพื่อให้ระบบนั้น ๆ ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นผมเชื่อว่า ETFs จะช่วยให้กองทุนรวมมีการจัดการสินทรัพย์ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น

ดังนั้นในอนาคตเราอาจได้เห็นระบบ Quant จากการ Backtest และทำงานผ่าน ETFs ก็เป็นได้ เนื่องด้วยราคาที่ค่อนข้างตรงตามความจริง

3) ผลตอบแทนและช่วงตลาดขาลงที่ควบคุมได้มากขึ้น

ในข้อนี้เหตุผลหลักมาจาก ทางเลือกสินทรัพย์ที่หลากหลายที่กล่าวไว้ก่อนหน้า ผมเชื่อว่าหากนักลงทุนหรือผู้จัดการกองทุนทุกท่านจัดการและเลือกใช้อย่างเหมาะสม จะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น รวมถึงช่วยลด การขาดทุนสูงสุด (Drawdown) ในช่วงที่ตลาดยํ่าแย่ได้ดีขึ้นเช่นกัน

สรุปส่งท้าย…

สรุปโดยรวมแล้วผมเชื่อว่าการเข้ามาของ ETFs จะช่วยให้นักลงทุนและผู้จัดการกองทุนทุกท่านมีทางเลือกในการจัดการผลตอบแทนของตนมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในช่วงนั้น ๆ รวมถึงราคาที่ค่อนข้างตรงตามจริงซึ่งน่าจะช่วยให้นักลงทุนทุกท่านสบายใจมากขึ้น ส่วนไอเดียเรื่อง Quant ETFs นั้นเป็นไอเดียที่ผมคิดขึ้นมาเล่น ๆ และเป็นการแชร์ประสบการณ์ครับ หวังว่าจะช่วยเพิ่มแนวคิดใหม่ ๆ บวกกับอ่านกันได้สนุกมากขึ้นเนอะ ส่วนตัวผมเองก็ยังไม่เคยได้ลงทุนใน ETFs เหมือนกัน ไม่รู้ว่าสภาพคล่องการโยกย้ายเงินทุนจะสะดวกขนาดไหน 

ผมทำบทความนี้ขึ้นมาเพื่อแจกแจง Pain points ต่าง ๆ ที่ผมเชื่อว่านักลงทุนหลาย ๆ ท่านเองก็คงจะคิดเหมือนกัน อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าหากเราทุกคนจะก้าวไปข้างหน้า เราต้องเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ ครับและสิ่งใหม่ที่ว่าในวงการกองทุนรวมของไทยเราที่อาจจะมีในอนาคตนี้ก็คงจะเป็น “ETFs” นี่เอง

อ่านแล้วสนใจกันไหมครับ? หากสนใจและไม่อยากพลาดโอกาสการลงทุนสุดลํ้านี้ในอนาคต (หากเกิดขึ้น) กดที่ลิ้งก์เพื่อติดตามอย่างใกล้ชิดกันได้เลย https://www.finnomena.com/etf-guidebook ซึ่งหากในอนาคต FINNOMENA เปิดการลงทุนใน ETFs (มีความเป็นไปได้) คุณจะได้ไม่พลาดยังไงล่ะ

สำหรับวันนี้ผม Mr. Serotonin ขอลาไปก่อน…

ขอให้ทุกคนโชคดีครับ

References

https://etfdb.com/etfdb-categories/