เกาะกระแสอนาคต กับหุ้นเติบโต ... “สรุปหุ้น CHG น่าลงทุนระยะยาวหรือไม่”

ลองจินตนาการ วาร์ป​ … !! ไปยังโลกอนาคต และมองย้อนกลับมาในปัจจุบัน … เราจะพบว่า … ในอนาคตนั้นมีอะไรที่คนจะแห่ไปใช้บริการกันบ้าง แน่นอนที่สุด การรักษาพยาบาลเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องพึ่งพิง แม้ไม่แน่ว่า อนาคตอาจจะมีคุณหมอที่เป็นหุ่นยนต์ AI แต่เชื่อว่า ธุรกิจที่ดีย่อมปรับตัวได้เสมอ

เมื่อเราพอมองเห็นอนาคตคร่าว ๆ แล้วอย่างน้อย 5-10 ปี … เราก็ต้องมาวิเคราะห์หาหุ้นลงทุนตั้งแต่ปัจจุบันวันนี้ ของที่ดูเหมือนแพงวันนี้ อาจเป็นของราคาถูกไปเลยในวันข้างหน้า หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “หุ้นโรงพยาบาล”

หากเรามองภาพสั้น ๆ ก็จะพบว่า … หุ้นกลุ่มนี้กำลังโดนภาครัฐบีบเรื่องค่ายา ค่ารักษาพยาบาล แต่ถ้าเรามองข้ามไปสู่ภาพใหญ่ ผมเชื่อว่ามันยังเติบโตอยู่ เราจะมาดูหุ้น CHG หรือ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) ว่าเขาไปถึงไหนแล้ว ไปดูกันเลยครับ

ที่มา: รายงานประจำปี 2561 ของ CHG ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561

ประการแรก … “สาขาของโรงพยาบาล”

ปัจจุบัน CHG มีจำนวนสาขาโรงพยาบาลกว่า 13 แห่ง กระจายกันอยู่ที่จังหวัดกรุงเทพฯ สมุทรปราการ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี เรียกได้ว่า ครอบคลุมในส่วนพื้นที่ที่เขาถนัด นั่นคือ ในเขตเมืองอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทย

การกระจายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ที่เขาถนัด ทำให้การสร้างรายได้ทำได้ดี โดยปัจจุบันรายได้หลักไม่ได้มาจากประกันสังคมแล้ว แต่สัดส่วนรายได้จะมาจากผู้ป่วยเงินสดมากกว่า

ประการที่สอง … “โครงสร้างรายได้ของกิจการ”

เกาะกระแสอนาคต กับหุ้นเติบโต ... “สรุปหุ้น CHG น่าลงทุนระยะยาวหรือไม่”

ที่มา: รายงานประจำปี 2561 ของ CHG ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561

หากเรามาดูโครงสร้างรายได้ เราจะพบว่า รายได้หลักจะมาจากกลุ่มผู้ป่วยทั่วไป โดยแบ่งไปรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยนอกกว่า 32.8% และรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยใน 29.7% รวมรายได้ในส่วนนี้กว่า 62.5%

ส่วนรายได้รองจะมาจากโครงการสวัสดิการภาครัฐ โดยแยกเป็นส่วนจากโครงการประกันสังคม 32% และโครงการภาครัฐอื่น ๆ 5.5% รวมรายได้ในส่วนนี้กว่า 37.5% จะเห็นว่าสัดส่วนรายได้ภาครัฐกลายเป็นสัดส่วนที่น้อยลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการเบิกจ่ายเงินจากภาครัฐที่บางครั้งอาจจะล่าช้า และไม่คุ้มทุน

ประการที่สาม … “การเติบโตของโรงพยาบาล”

ที่มา: รายงานประจำปี 2561 ของ CHG ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561

เมื่อเรามาดูเรื่องราวของการเติบโตในช่วงสามปีที่ผ่านมา เราจะพบว่า กิจการของเขาเติบโตเฉลี่ยราว 10.08% ในแง่ของรายได้ แต่ในเรื่องราวของกำไรยังไม่ได้มีภาพนี้ โดยภาพการเติบโตมีดังต่อไปนี้

รายได้ปี 2558 3,178.83 ล้านบาท กำไร 538.38 ล้านบาท

รายได้ปี 2559 3,657.88 ล้านบาท กำไร 564.29 ล้านบาท

รายได้ปี 2560 3,896.42 ล้านบาท กำไร 565.44 ล้านบาท

รายได้ปี 2561 4,430.84 ล้านบาท กำไร 633.88 ล้านบาท

ในส่วนของกำไรนั้นเราเริ่มเห็นกำไรเติบโตลดลงในช่วงไตรมาสสองของปี 2562 สาเหตุจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ ทำให้มีค่าใช้จ่าย และโรงพยาบาลใหม่ยังไม่ถึง “จุดคุ้มทุน” ซึ่งแน่นอนที่สุดว่า หากถึงจุดคุ้มทุนเมื่อไหร่ กำไรอาจมีแนวโน้มกลับมาเติบโตอีกครั้ง

ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ…

กิจการโรงพยาบาลในมุมมองของผม มันคือหุ้นเติบโต แต่เราต้องพิจารณาเรื่องราคาหุ้นประกอบการตัดสินใจด้วย และกิจการนี้ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ที่นักลงทุนระยะยาวควรศึกษาเก็บข้อมูลเอาไว้ เผื่อวันใดที่โอกาสมาถึง หุ้นถูกลดราคาลงมามาก อาจเป็นจังหวะให้เราซื้อก็ได้นะครับ

#นายแว่นลงทุน

ที่มาบทความ: http://www.topofliving.com/12522.html

คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

—————————-

Jessada Sookdhis
Investment Analyst (IA)
ตรวจทานบทความ


**สนใจลงทุนในพอร์ต RUNNING for Growth พอร์ตกองทุนรวมหุ้นซึ่งจัดโดยนายแว่นลงทุน คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเลย >>
https://www.finnomena.com/port/naiwaen