Bulge Bracket

ธุรกิจธนาคารถือว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เพราะเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่คอยขับเคลื่อนระบบการเงินให้ก้าวไปข้างหน้า รวมทั้งยังเป็นตัวสะท้อนทิศทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ดังที่เราจะเห็นว่าในหลาย ๆ ครั้ง เมื่อธนาคารเกิดปัญหาหรือมีความเปราะบาง ก็มักจะส่งผลกระทบไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ จนลุกลามเป็นวงกว้าง บางครั้งก็บานปลายกลายเป็นวิกฤติการณ์ทางการเงินระดับโลกได้เลย

บทความนี้ จึงอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ระดับโลกที่ถูกเรียกว่า “Bulge Bracket” ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อระบบการเงินโลก ด้วยความแข็งแกร่ง ความเก่าแก่ และความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญคือนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ก็มักจะมีจุดเริ่มต้นมาจาก 1 ใน 9 ของธนาคารเหล่านี้ 

Bulge Bracket

ภาพจาก : BankingPrep

1. JPMorgan Chase

ผู้ให้บริการด้านการเงินการธนาคาร การลงทุน และการบริหารทรัพย์สิน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งโดย John Pierpont Morgan ตั้งแต่ปี 1871 เดิมใช้ชื่อว่า Drexel, Morgan & Co ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น J.P. Morgan & Co. ในปี 1895 และล่าสุดกับชื่อ JPMorgan Chase ในปี 2000 หลังได้ควบรวมกิจการกับธนาคาร Chase Manhattan

2. Bank of America

เป็นอีกหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งมีรากฐานเดิมมาจากธนาคารแห่งอิตาลี (Bank of Italy) ที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่จะควบรวมกับธนาคารขนาดเล็กหลายแห่งในสหรัฐฯ จนเปลี่ยนชื่อเป็น Bank of America ในที่สุด ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างมาตรฐานการเงินใหม่ให้แก่ประเทศ

3. Citigroup

ธนาคารที่ก่อตั้งโดยกลุ่มพ่อค้าในนิวยอร์ก ตั้งแต่ปี 1812 ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาร่วม 200 ปี ปัจจุบันให้บริการกับลูกค้ากว่า 160 ประเทศทั่วโลก

4. Barclays

สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ก่อตั้งขึ้นในเมืองลอนดอนมาตั้งแต่ปี 1690 และยังเป็นธนาคารแห่งแรกของโลกที่มีการติดตั้งตู้เอทีเอ็ม ในปี 1967 

5. Goldman Sachs

ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1862 ในนครนิวยอร์ก เป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนและกลุ่มหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

6. Deutsche Bank

สถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศเยอรมนีตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

7. Morgan Stanley

ก่อตั้งโดย Henry Sturgis Morgan ซึ่งเป็นหลานชายของ John Pierpont Morgan ที่แยกตัวออกไปเปิด Morgan Stanley ในปี 1935 และได้เติบโตเป็นเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

8. UBS

UBS มาจากคำว่า Union Bank of Switzerland ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 161 ปี และเป็นคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกับ Credit Suisse มาโดยตลอด กระทั่งล่าสุดที่บริษัทได้ปิดดีลซื้อกิจการคู่แข่งได้สำเร็จ ปิดฉากการแข่งขันอย่างยาวนาน

9. Credit Suisse

เคยเป็นธนาคารอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 167 ปี อย่างไรก็ดี ช่วงหลังประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง ตลอดจนเผชิญวิกฤตสภาพคล่องครั้งใหญ่ จนต้องได้รับความช่วยเหลือจากคู่แข่งรายสำคัญอย่าง UBS ด้วยการเข้ามาซื้อกิจการ Credit Suisse ที่มูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อยุติวิกฤตธนาคารล้ม

Bulge Bracket

ทั้งนี้ หากเจาะลึกลงไปในรายละเอียด จะพบว่ารายได้หลักของแต่ละสถาบันทางเงินจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง  แต่โดยรวมแล้วจะมาจาก 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ รายได้จาก Commercial และ Retail Banking ได้แก่ ดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าธรรมเนียม รายได้จาก Asset & Wealth Management คือค่าธรรมเนียมบริหารจัดการทรัพย์สินและเงินทุนของลูกค้า 

และสุดท้าย รายได้จาก Corporate & Investment Banking หรือวาณิชธนกิจ เป็นรายได้ที่เกิดจากการให้บริการลูกค้าในระดับองค์กร เช่น การนำหุ้นเข้า IPO, การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน, การควบรวมกิจการ (M&A) เป็นต้น ซึ่งงานส่วนนี้มักจะตกเป็นของกลุ่ม Bulge Bracket ด้วยความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรต่าง ๆ


Reference

investopedia

bankingprep

MERGERS & INQUISITIONS

Marketwatch

iran-israel-war