Government Shutdown คือ

รัฐบาลกลางสหรัฐฯ กลับมาเผชิญความเสี่ยงเรื่อง Government Shutdown อีกครั้ง หากไม่สามารถตกลงผ่านงบประมาณทันในช่วงวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบกับผู้นำระดับสูงของทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันในสภาคองเครสในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือเรื่องการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลก่อนกำหนดเส้นตาย เพื่อเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานรัฐบาลต้องหยุดทำการ

อย่างไรก็ดี ทรัมป์ ระบุว่า โดนขู่จากฝ่ายค้านว่าจะปิดรัฐบาลสหรัฐฯ เว้นแต่จะได้งบใช้จ่ายใหม่กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น การให้บริการสาธารณสุขฟรีแก่ผู้อพยพผิดกฎหมาย, บังคับให้ผู้เสียภาษีต้องออกเงินสนับสนุนการผ่าตัดแปลงเพศสำหรับผู้เยาว์, พยายามบังคับให้ประเทศเรากลับมาเปิดพรมแดนให้อาชญากรและคนจากทั่วโลกเข้ามา เป็นต้น

Government Shutdown คืออะไร?

Government Shutdown คือ การที่รัฐบาลสหรัฐฯ จำเป็นต้องยุติการจ่ายงบประมาณให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ชั่วคราว เนื่องจากสภาคองเกรส (United States Congress) ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณได้ทันเวลา โดยมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งของสภาผู้แทนราษฎรที่มีความเห็นต่อนโยบายงบประมาณไม่ตรงกัน

ทั้งนี้ Government Shutdown จะเริ่มต้นขึ้นทันทีที่เข้าสู่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกของปีงบประมาณใหม่

เมื่อหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จึงจำเป็นต้องปิดตัว หรือ Shutdown ชั่วคราว และหมายถึงว่าพนักงานภาครัฐที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งสำคัญ ก็จะต้องหยุดทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนด้วย คล้าย ๆ กับโดน Leaves without Pay จนกว่าจะผ่านร่างงบประมาณได้สำเร็จ

ตัวอย่างบริการภาครัฐที่ถูกชัตดาวน์ เช่น อุทยานแห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์, สวนสัตว์, หน่วยงานที่ให้บริการด้านสินเชื่อ, บริการตรวจคนเข้าเมืองบางส่วน, หน่วยงานวิจัยต่าง ๆ เป็นต้น 

แต่จะมีข้อยกเว้นสำหรับบางหน่วยงานที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อประชาชน เช่น บริการสาธารณสุข, กองทัพ, พยากรณ์อากาศ, ไปรษณีย์, ขนส่งสาธารณะ และธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นต้น

ประวัติศาตร์การเกิด Government Shutdown 

เหตุการณ์ Government Shutdown ไม่ใช่เรื่องใหม่ของสหรัฐฯ เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ยาวบ้างสั้นบ้างขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของประเด็น

Government Shutdown

Source: The Washington Post as of 21/09/2023

Government Shutdown ครั้งที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาตร์ เกิดขึ้นในสมัยของประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เมื่อปี 2018 นี่เอง ด้วยการชัตดาวน์เนิ่นนานกว่า 34 วัน จากปัญหาจัดสรรงบให้กับนโยบายกำแพงชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ 

การชัตดาวน์ที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งเกิดขึ้นภายใต้การนำของประธานาธิบดี ‘บิล คลินตัน’ ในช่วงปลายปี 1995 ถึงต้นปี 1996 รวมทั้งสิ้น 21 วัน ซึ่งเกิดเสียงแตกในการจัดสรรงบให้หน่วยงานประกันสุขภาพ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม 

สมัยของประธานาธิบดี ‘บารัก โอบามา’ ก็เคยเกิดการชัตดาวน์เป็นเวลา 16 วัน จากประเด็นโครงการประกันสุขภาพ หรือ Obama Care 

Government Shutdown

Source: The Washington Post as of 21/09/2023

จะเห็นว่าในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ประธานาธิบดีแทบจะทุกคนล้วนเคยผ่านสถานการณ์ Government Shutdown มาแล้ว มีเพียงคนเดียวคือ ‘จอร์จ ดับเบิลยู บุช’ ที่ผ่านร่างงบประมาณแบบราบรื่น 

ส่วนคำถามที่ว่าในยุคของ ‘Trump 2.0’ จะเกิดการชัตดาวน์ครั้งแรกหรือไม่นั้น คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่าฝ่ายไหนจะยอมผ่อนปรนในศึกครั้งนี้

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

บางคนเปรียบ Government Shutdown ว่าเป็นเหมือนระบบเศรษฐกิจที่ติดไฟแดง เพราะทำให้หลายกิจกรรมต้องหยุดชะงัก แล้วรอสัญญาณไฟเขียวจากสภาคองเกรส

Government Shutdown

Source: REUTERS/Jonathan Ernst

Goldman Sachs วิเคราะห์ว่าการชัตดาวน์จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ -0.2% ต่อสัปดาห์ พูดง่าย ๆ ว่า “ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งเสียหาย” แต่เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์คลี่คลายลงแล้ว

นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s ได้ออกมาเตือนว่าอาจจะต้องปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ ลงจากระดับ AAA หากเกิดการชัตดาวน์จริง ๆ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่ากลัวกว่าการชัตดาวน์ คือสถานะการคลังของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มถดถอยลงต่อเนื่อง ปัจจุบันภาระหนี้สินโดยรวมของรัฐ (Federal Debt) เกินกว่า 100% ของ GDP แล้ว ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยยืนอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 10 กว่าปี เท่ากับว่าต้นทุนทางการเงินของสหรัฐฯ กำลังอยู่ในจุดที่หนักอึ้งทีเดียว

สถิติ Government Shutdown กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ

Government Shutdown กับ S&P 500

Source: Vanguard As of 04/03/2024

ความสัมพันธ์ระหว่าง Government Shutdown กับดัชนีหุ้นสหรัฐฯ S&P 500 พบว่านับตั้งแต่ปี 1976 ถึงปี 2018 จำนวนทั้งหมด 21 ครั้ง S&P 500 ปรับตัวลดลง 9 ครั้ง และเป็นบวกในช่วงนี้ถึง 11 ครั้ง โดยมี 1 ครั้งที่ตลาดหุ้นปิดทำการ แม้กระทั่งครั้งล่าสุดในปี 2018 ตลาดหุ้นบวกไปถึง 9.3%

ทำให้พอสรุปได้ว่าการเกิด Government Shutdown ไม่ได้มีผลต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ


แหล่งข้อมูล

Tax Cal