วันเกิด Warren Buffett

ผมดื่มโค้กวันละ 5 กระป๋องมาตลอดชีวิต เพราะไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนไปทานแต่ผักและน้ำเปล่าจะช่วยให้มีอายุยืนยาวเป็นร้อยปีได้

แต่ผมเชื่อในชีวิตที่มีความสุข สนุกกับงานที่ทำ และกระตือรือร้นที่จะตื่นขึ้นมาในทุกเช้า 

ผมลองเช็กสถิติแล้ว กลุ่มอายุที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำสุดคือเด็ก 6 ขวบ ผมเลยตัดสินใจกินอะไรที่เหมือนเด็กหกขวบเขากินกัน

– คำอธิบายเกี่ยวกับความอายุยืนแบบทีเล่นทีจริงของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ –

วันเกิด Warren Buffett

Source: CNN, Marcy Nighswander/AP

เด็กชาย “วอร์เรน บัฟเฟตต์”

30 สิงหาคม 1930 คือวันเกิดของ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” (Warren Buffett) ที่เมืองโอมาฮ่า รัฐเนบราสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นลูกชายเพียงคนเดียวท่ามกลางพี่สาวและน้องสาวอย่างละ 1 คน

ครอบครัวของบัฟเฟตต์ ถือว่าเป็นชนชั้นกลางที่มีฐานะประมาณหนึ่งเลย คุณแม่นั้นเป็นแม่บ้าน ส่วนคุณพ่อทำงานเป็นโบรกเกอร์ในตลาดหุ้น ซึ่งนั้นก็มีส่วนไม่น้อยที่ทำให้เขาซึมซับเรื่องการลงทุนโดยไม่รู้ตัว และมีหัวการค้าตั้งแต่เด็ก ๆ

บัฟเฟตต์เริ่มค้าขายเป็นจากการเป็นเด็กเดินขายหมากฝรั่ง ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ก่อนที่ในวัย 7 ขวบ จะได้มีโอกาสอ่านหนังสือ How to ที่ชื่อว่า “One Thousand Ways to Make $1000” ที่รวมสารพัดวิธีการหาเงินกว่าพันรูปแบบ หนังสือเล่มนี้ได้เปิดโลกให้เด็กชายคนนี้เป็นอย่างมาก  

กระทั่งปี 1941 ตอนอายุ 11 ขวบ ก็ได้เริ่มลงทุนเป็นครั้งแรก ด้วยการนำเงินเก็บของตัวเองกับพี่สาว ซื้อหุ้น Cities Service บริษัทพลังงานในสหรัฐฯ เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อเพราะเห็นว่าปั๊มน้ำมันของเจ้านี้มีลูกค้าเยอะดี น่าจะโตได้อีกมาก 

จึงใช้เงินเก็บ 120 ดอลลาร์ ซื้อหุ้น Cities Service ที่ราคา 38 ดอลลาร์ จำนวน 3 หุ้น เพียงไม่นานราคาหุ้นก็ตกไปที่ 27 ดอลลาร์ และเด้งขึ้นมาที่ 40 ดอลลาร์ เขาจึงตัดสินใจเทขายหุ้นทั้งหมด แต่หลังจากนั้นไม่นาน หุ้นก็พุ่งขึ้นไปเกือบ 200 ดอลลาร์ ถือเป็นบทเรียนการลงทุนบทเรียนแรกของเด็กชายคนนี้

วันเกิด Warren Buffett

ภาพในวัยเด็กของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ พร้อมคุณแม่ พี่สาว และน้องสาว 

ลองผิด ลองถูก จนรู้คำตอบ

บนเส้นทางสู่ความมั่งคั่งของบัฟเฟตต์ ผ่านการลองผิดลองถูก และล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า 

เคยสอบตกสัมภาษณ์ที่ Harvard Business School จึงเลือกเข้าเรียนปริญญาตรีที่ The University of Pennsylvania แต่หลังจากเรียนได้ 2 ปี ก็ตัดสินใจย้ายไปที่ The University of Nebraska จนจบ และต่อปริญญาโทที่ Columbia Business School ในสาขาเศรษฐศาสตร์

ชีวิตระหว่างเรียนปริญญาโทนี่เองที่เขาได้อ่านหนังสือ “The Intelligent Investor” และพบกับ “เบนจามิน เกรแฮม” (Benjamin Graham) ซึ่งเป็นต้นแบบการลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่บัฟเฟตต์นำมาปรับใช้จนเป็นสูตรสำเร็จของตัวเอง

The Inteligent Investor

ภาพหนังสือ The Intelligent Investor โดย Benjamin Graham

หลังเรียบจบเขาออกมาทำงานเป็นโบรกเกอร์ที่ Buffett-Falk & Co. ซึ่งเป็นบริษัทของพ่อเขาเอง เป็นเวลา 3 ปี และย้ายไปเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ Graham-Newman Corp. กับ เบนจามิน เกรแฮม อีก 2 ปี 

การได้คลุกคลีใน Wall Street กว่า 5 ปีเต็ม ทำให้วิชาของบัฟเฟตต์แกร่งกล้าขึ้น กระทั่งปี 1956 จึงก่อตั้ง Buffett Partnership ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 100,000 ดอลลาร์ เพื่อมุ่งเน้นลงทุนตามปรัชญาแบบเน้นคุณค่า (Value Investment) 

ใช้เวลาประมาณ 6 ปี Buffett Partnership ประสบความสำเร็จจนมีมูลค่ามากกว่า 7 ล้านดอลลาร์ ทำให้บัฟเฟตต์กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านเป็นครั้งแรก

ระหว่างที่บริหาร Buffett Partnership อยู่นั่นเอง บัฟเฟตต์ได้เห็นโอกาสเข้าลงทุนใน Berkshire Hathaway เพราะมองว่าราคาหุ้นตอนนั้นค่อนข้างต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง โดยได้ทยอยเข้าสะสมหุ้นเรื่อย ๆ เพื่อหวังว่าผู้บริหารจะซื้อหุ้นคืนในราคาที่สูงขึ้น

ทว่าในปี 1965 ผู้บริหาร Berkshire Hathaway กลับประกาศซื้อหุ้นคืนในราคาที่ต่ำกว่าควรจะเป็น บัฟเฟตต์ไม่พอใจอย่างมาก เขาจึงเลือกที่จะทุ่มเงินซื้อหุ้นเพิ่มจนครอบครองกิจการของ Berkshire Hathaway ได้สำเร็จในปี 1970 แล้วไล่ทีมบริหารชุดเก่าออกทั้งหมด

Buffett Partnership

Source: Seeking Alpha 

หุ้นตัวโปรดของ วอร์เรน บัฟเฟตต์

แนวคิดการลงทุนที่โด่งดังที่สุดของบัฟเฟตต์ คือการ “ซื้อหุ้นดีที่ราคาเหมาะสม” และ “เชื่อในเรื่องคุณค่ามากกว่าราคา” 

หุ้นที่สร้างความมั่งคั่งให้เขาจึงมีมากมาย อาทิ American Express, Wells Fargo, Gillette, P&G, IBM และ Bank of America เป็นต้น 

แต่ถ้าจะถามถึงหุ้นตัวโปรดที่จารย์ปู่ถือมาอย่างยาวนาน คงต้องเป็น Coca-Cola ซึ่งเข้าลงทุนมาตั้งแต่ปี 1988 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาลงทุนเกือบ 35 ปี มูลค่าหุ้นเติบโตกว่า 25 เท่า ยังไม่นับรวมเงินปันผลที่จ่ายเป็นประจำทุกปี 

การลงทุนที่ดีที่สุดของบัฟเฟตต์อีกครั้ง คือ Apple โดยเริ่มต้นลงทุนจำนวน 10 ล้านหุ้น ในปี 2016 ก่อนที่ปัจจุบัน (31/06/2023) จะเพิ่มจำนวนมาถึง 900 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ของพอร์ตหุ้นทั้งหมด

– อ่านเพิ่มเติมคลิก เปิดพอร์ต 5 หุ้นที่ Buffett ลงทุนสูงสุด มีหุ้นอะไรบ้าง?

วันเกิด Warren Buffett

Source: TheStreet

เมื่อเราเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีเยี่ยม พร้อมทั้งมีผู้บริหารที่โดดเด่น ดังนั้น สำหรับผมแล้วก็จะถือหุ้นตัวนั้นไปเรื่อย ๆ โดยแทบไม่มีความคิดที่จะขายมันออกไปเลย 

– วอร์เรน บัฟเฟตต์ –

ตำนานนักลงทุนเน้นคุณค่าที่ยังมีลมหายใจ

ถ้าจะถามว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ บัฟเฟตต์ แตกต่างจากนักลงทุนคนอื่น ๆ และได้รับการยกย่องมาจนถึงทุกวันนี้

คำตอบคงเป็นหลักคิดการลงทุนที่พิสูจน์มาอย่างยาวนานว่าสามารถชนะตลาดได้อย่างยั่งยืน ผ่านหลายวิกฤต และยืนหยัดในสนามการลงทุนมาได้ทุกช่วงเวลา 

วันเกิด Warren Buffett

Source: Morningstar

วิธีเลือกหุ้นที่บัฟเฟต์ใช้มาตลอดชีวิต คือ

  1. ลงทุนในธุรกิจที่เราเข้าใจ จับต้องได้ และมองออกว่าจะทำเงินได้อย่างไรในอนาคตข้างหน้า
  2. เลือกหุ้นที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน หรือมีสิ่งที่เรียกว่า MOAT 
  3. ซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ กล้าในยามที่คนอื่นกลัว

ผมจะบอกวิธีที่จะทำให้คุณรวยให้ฟัง จงกลัวเวลาที่คนอื่นโลภ และจงโลภเวลาที่คนอื่นกลัว

– วอร์เรน บัฟเฟตต์ –

ผมซื้อได้ทุกอย่าง ยกเว้นเวลา

วันเกิด Warren Buffett

Source: CNN, Nati Harnik/AP

บัฟเฟตต์เคยให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับเขาแล้วเวลาคือสิ่งที่มีค่าที่สุด เพราะฉะนั้น เขาจึงพยายามทำงานให้ฉลาดขึ้น ไม่ใช่หนักขึ้น จนกลืนกินเวลาของชีวิต

นอกจากนี้ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของบัฟเฟตต์ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แต่ทำทุกอย่างที่สนุก เรียบง่าย และตัวเองมีความสุข เพราะเชื่อว่านี่แหละเป็นกุญแจสู่ความเป็นอยู่ที่ดีและอายุที่ยืนยาว

เขาชื่นชอบที่จะใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดิมที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 1968 นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ในตอนเช้า เล่นไพ่ Bridge และดีดอูคูเลเล รวมถึงการได้ทานอาหารรสชาติถูกปาก เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก เบคอน แซนด์วิชแฮม บิสกิต ไอศกรีม ช็อกโกแลต และกระดกโค้กวันละ 5 กระป๋อง 

ส่วนบร็อคโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง ดอกกะหล่ำ และอาหารจีน คือสิ่งจะไม่ทานอย่างแน่นอน ผักที่จะยอมตักเข้าปากจึงมีเพียงถั่วเขียว ข้าวโพด และถั่วลันเตา เท่านั้น

บัฟเฟตต์ เคยบอกว่าเคล็ดลับสุขภาพดีและอายุยืน จนทำให้ยังดูแข็งแรงเกินคนอายุ 90 กว่า ๆ อาจเป็นเพราะ

หนึ่ง คือการค้นพบจุดหมายของชีวิต รักในงานที่ทำ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาทำงานมาจนถึงอายุ 93 ปี พูดในงานประชุมผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway เป็นประจำทุกปี

สอง คือการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สมถะ ธรรมดา ๆ แน่นอนว่ามีบางครั้งที่ต้องเข้าสังคม กินหรูอยู่แพงบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วความเป็นอยู่ของบัฟเฟตต์ค่อนข้างเรียบง่ายมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินที่มีในวันนี้

อย่างไรก็ดี บัฟเฟตต์ย้ำว่าการใช้ชีวิตแบบเขานั้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล และยากที่จะวัดได้ว่าดีจริงหรือไม่ แม้เขาจะดูไม่ค่อยคำนึงถึงสุขภาพการกินมากนัก แต่ก็ให้ความสำคัญต่อสุขภาพใจมาก ๆ อีกทั้งยังมีหมอฝีมือดีคอยให้คำแนะนำอยู่เสมอ

นอกจากนี้ บัฟเฟตต์ก็ยอมรับว่าหนึ่งในสาเหตุหลักที่ยังทำให้เขาแข็งแรงถึงทุกวันนี้ อาจเป็นเพราะโชคดีที่มียีนดีกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง

วันเกิด Warren Buffett

Source: CNN, Nati Harnik/AP

สิ่งที่คุณทำในวันนี้ ตอนนี้ จะเป็๋นตัวกำหนดสภาพจิตใจและร่างกายของคุณในอีก 10 ปี 20 ปี และ 30 ปีข้างหน้า

– วอร์เรน บัฟเฟตต์ –

นิทานสอนใจของ Warren Buffett เพราะ ชีวิตมีได้แค่ครั้งเดียว


 

iran-israel-war