รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

หากพูดถึง “กัญชา” แต่ก่อนเราอาจจะนึกไปถึงสารเสพติดผิดกฎหมายชนิดหนึ่งที่เสพแล้วทำให้มึนเมาและเคลิบเคลิ้ม แต่สำหรับตอนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะกัญชาได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก และ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) ก็ได้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในตลาดกัญชาจึงได้สรรค์สร้างกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกัญชาทั่วโลก เป็นกองทุนแรกในประเทศไทย นั่นคือกองทุน “MCANN” ที่เปิด IPO ในวันที่ 19 – 27 เมษายนนี้ แต่ก่อนจะไปทำความรู้จักกับกองทุน MCANN เรามาทำความรู้จักกับพืชมหัศจรรย์อย่างกัญชาให้มากขึ้นสักนิดดีกว่าว่ากัญชาสามารถนำมาประยุกต์ใช้ทางการแพทย์ได้อย่างไรบ้าง และทำไมตลาดกัญชาจึงมีความน่าสนใจ

ทำความรู้จักกับ “กัญชา” พืชมหัศจรรย์

กัญชา หรือ Cannabis เป็นพืชให้ดอกชนิดหนึ่งในวงศ์ Cannabidaceae มีต้นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียกลาง และกระจายการปลูกอยู่ในหลาย ๆ ส่วนของโลก โดยมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น Cannabis, Marijuana, Ganja หรือบางครั้งก็เรียกว่า Indian Hemp

ในกัญชามีสารที่ชื่อว่า CBD (Cannabidiol) และ THC (Tetrahydrocannabinol) ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารสำคัญที่ทำให้กัญชาสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ได้ สำหรับสาร CBD จะมีคุณสมบัติในการลดอาการเจ็บปวด ลดอาการอักเสบของแผล ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดอาการชักเกร็ง และลดอาการคลื่นไส้ ส่วนสาร THC จะมีคุณสมบัติต่อจิต ประสาท ทำให้เกิดความผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม หากได้รับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการตึงเครียดได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นความอยากอาหารอีกด้วย หากพูดให้เข้าใจกันง่าย ๆ สาร CBD จะมีฤทธิ์ในการ “ระงับประสาท” ส่วนสาร THC จะมีฤทธิ์ในการ “กระตุ้นประสาท” นั่นเอง

สำหรับสายพันธุ์กัญชาจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ซาติวา (Cannabis sativa) สายพันธุ์อินดิกา (Cannabis indica) และสายพันธุ์รูเดอราลิส (Cannabis ruderalis) ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีคุณสมบัติทางการแพทย์ที่แตกต่างกันไปดังนี้

  1. สายพันธุ์ซาติวา (Cannabis sativa) มีสาร THC ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้รู้สึกคึกคักอารมณ์ดี กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์จึงได้รับความนิยมในหมู่นักปรัชญา ศิลปิน และนักดนตรี
  2. สายพันธุ์อินดิกา (Cannabis indica) เป็นสายพันธุ์ที่มีสาร CBD โดดเด่นจึงมีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการปวดและช่วยระงับประสาท ใช้เพื่อทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการปวดเรื้อรัง และช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ
  3. สายพันธุ์รูเดอราลิส (Cannabis ruderalis) สายพันธุ์นี้จะมีระยะเวลาออกดอกที่สั้นและมีปริมาณ THC ที่ต่ำมากจึงถูกนำไปผสมกับสองสายพันธุ์แรกเพื่อให้ได้พันธุ์กัญชาที่มี CBD และ THC สูง

เปิดบัญชีกองทุนประหยัดภาษี SSF RMF กับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนประหยัดภาษีมากกว่า 10 บลจ.
คลิก https://finno.me/open-plan

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

กัญชาทั้ง 3 สายพันธุ์

ที่มา: https://www.cannhealth.org/ 

ส่วนของกัญชาที่ถูกจัดเป็นสารเสพติด ได้แก่ บริเวณใบ ยอดช่อดอก และกิ่งก้านที่นำมาตากแดดจนแห้งแล้วบดให้ละเอียด ส่วนของกัญชาที่ไม่ถือว่าเป็นสารเสพติด ได้แก่ เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบ ซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย สารสกัด CBD ที่มี THC ไม่เกินร้อยละ 0.2% และกากที่เหลือจากการสกัดกัญชา ซึ่งต้องมี THC ไม่เกิน 0.2%

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

ส่วนของกัญชาและกัญชงที่ไม่เป็นยาเสพติด

ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

อย่าสับสน! กัญชาและกัญชงไม่เหมือนกันนะ

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องมีความสับสนระหว่าง “กัญชา” และ “กัญชง” อาจจะคิดว่าทั้ง 2 อย่างนี้คือพืชชนิดเดียวกัน แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดเดียวกันแต่พืชทั้ง 2 ชนิดนี้มีข้อแตกต่างกันอยู่ค่อนข้างมาก ประการแรกเลยคือ “ลักษณะทางกายภาพ” ความสูงของต้นกัญชาจะไม่สูงมากหากเทียบกับกัญชง โดยต้นกัญชาจะมีความสูงไม่เกิน 2 เมตร มีลักษณะเป็นต้นพุ่ม แตกกิ่งก้านสาขาค่อนข้างมาก มีใบสีเขียวจัด 5-7 แฉก เรียงชิดกัน ในขณะที่ต้นกัญชงขะมีความสูงมากกว่า 2 เมตร มีลักษณะลำต้นสูงเรียว แตกกิ่งก้านสาขาน้อย มีใบสีเขียวอ่อนประมาณ 7-11 แฉก เรียงสลับกันค่อนข้างห่าง 

นอกจากจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของลักษณะทางกายภาพแล้วยังมีความแตกต่างกันในเรื่องของ “ปริมาณสารสกัด” ที่ได้จากพืชทั้ง 2 ชนิดนี้อีกด้วย อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่าสารสำคัญของกัญชาจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ สาร THC และ สาร CBD 

ในกัญชงก็มีสารทั้ง 2 ชนิดนี้เช่นกัน แต่สำหรับกัญชาจะมีสาร THC ในปริมาณที่มากกว่ากัญชง โดยสาร THC ที่อยู่ในกัญชาจะมีปริมาณประมาณ 1-20% ในขณะที่สาร CBD จะเป็นสารที่พบได้ในกัญชงมากกว่ากัญชา โดยพบประมาณ 2% สำหรับประโยชน์อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจของกัญชงคือสามารถนำไปเป็นเส้นใยในการผลิตเสื้อผ้าได้ เนื่องจากกัญชงเป็นพืขที่ให้เส้นใยยาว มีความละเอียดใกล้เคียงกับลินิน มีความเหนียวทนทาน และเงางาม

ตลาดกัญชาน่าสนใจอย่างไร ทำไมถึงต้องลงทุน?

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

  1. ตลาดกัญชามีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราการเติบโตของตลาดกัญชาทั่วโลกจะอยู่ที่ 33% ต่อปี ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025 และจะมีมูลค่าสูงถึงหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ทั่วโลกจะเติบโตเฉลี่ยที่ 17.1% ต่อปีต่อเนื่องจนถึงปี 2025 และจะมีมูลค่ารวมกว่า 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  2. ประเทศที่ใช้กัญชาทางการแพทย์แบบถูกกฎหมายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดประเทศไทยได้ปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา เป็นชาติแรกในอาเซียน
  3. กองทุนกัญชามีความสัมพันธ์กับดัชนีหุ้นโลกไม่สูงมาก จึงเหมาะแก่การลงทุนเพื่อเป็นกลยุทธ์การกระจายการลงทุน

เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลกด้วยกองทุน MCANN

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

สร้างแผนและเปิดบัญชีกองทุนรวมกับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนกว่า 1,000 กอง จาก 22 บลจ. ครอบคลุมทุกบลจ. ในประเทศไทย สร้างแผนและเปิดบัญชี คลิก: https://finno.me/open-plan

กองทุน MCANN หรือกองทุน MFC Global Cannabis Fund จากบลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) มี นโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางกัญชา (Cannabis) หรือกัญชง (Hemp) ที่ถูกกฎหมาย ซึ่งรวมถึงบริษัทที่สร้างรายได้หรือประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษาวิจัย การพัฒนา การเพาะปลูก การผลิต ไปจนถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผลิตภัณพ์ทางด้านกัญชาหรือกัญชงจะมีรูปลักษณ์และคุณสมบัติที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามการใช้ประโยชน์ เช่น การผลิตเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ได้แก่ การผลิตเป็นยา อาหาร สมุนไพร หรือเครื่องสำอาง เป็นต้น หรือการผลิตเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ ยานยนต์ หรือ กระดาษ เป็นต้น โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6 

กองทุน MCANN จะลงทุนในหลักทรัพย์ ดังต่อไปนี้

  • The Global X Cannabis ETF (POTX) ETF ที่มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการแบบ Passive เน้นการเติบโตและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงในระยะยาว 
  • Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) ETF ที่ลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชาทั่วโลกที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว
  • หุ้นทั่วโลกของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางกัญชา (Cannabis) หรือกัญชง (Hemp) ที่ถูกกฎหมายเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุน

โดยกองทุน MCANN จะเน้นลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 60-100% ใน The Global X Cannabis ETF (POTX) และส่วนที่เหลืออีกประมาณ 40-100% จะลงทุนใน Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) และ/หรือ หุ้นกัญชา (Cannabis) ทั่วโลก โดยกองทุน MCANN ถือเป็นกองทุนแรกในประเทศไทยที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกัญชา

ลงทุนใน MCANN แล้วจะได้ลงทุนบริษัทอะไรบ้าง?

สำหรับ ETF ที่กองทุน MCANN ลงทุนจะมีอยู่หลัก ๆ 2 กองทุนด้วยกัน นั่นคือ POTX และ CNBS แต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนอย่างไรและลงทุนในหุ้นของบริษัทอะไรกันบ้าง ติดตามได้ในหัวข้อนี้เลย

  • The Global X Cannabis ETF (POTX)

POTX ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกัญชา ซึ่งรวมไปถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องในแง่ของการเพาะปลูก การผลิต ไปจนถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาที่ถูกกฎหมาย รวมถึงบริษัทที่ให้บริการทางการเงินกับอุตสาหกรรมกัญชา บริษัทที่เกี่ยวข้องกับกัญชาเพื่อการแพทย์ cannabidiol หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะสารสกัด สารที่พัฒนาจากกัญชา หรือสารสังเคราะห์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามดัชนีอ้างอิง (Cannabis Index)

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

Sector Breakdown และ Country Breakdown ของ The Global X Cannabis ETF (POTX) (ข้อมูล ณ วันที่ 31/03/2021)

ที่มา: https://www.globalxetfs.com/funds/potx/ 

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

Top 10 Holdings ของ The Global X Cannabis ETF (POTX) (ข้อมูล ณ วันที่ 06/04/2021)

ที่มา: https://www.globalxetfs.com/funds/potx/ 

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

  • GW Pharmaceuticals (9.90%) บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการจัดจำหน่ายการบำบัดโดยใช้ cannabinoid ที่เป็นกรรมสิทธิ์การรักษาด้วยสารสกัด CBD โดยผลิตยา Epidoilex® เพื่อใช้สำหรับรักษาอาการชักอย่าง Tuberous Sclerosis Complex และ Rett Syndrome ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่รุนแรงและพบได้ยาก
  • Aphria (9.85%) — ดำเนินธุรกิจในการผลิตและจัดจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคและสันทนาการ
  • Tilray (8.10%) — ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม โดยเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์กัญชาให้กับตัวแทนจำหน่ายยา บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยกัญชาทางการแพทย์ การเพาะปลูก การแปรรูป และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาทั่วโลก 
  • Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS)

CNBS ลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชาทั่วโลกอย่างน้อย 80% ของสินทรัพย์ของกองทุน โดยหุ้นที่กองทุนลงทุนต้องเป็นบริษัทที่มีรายได้อย่างน้อย 50% ขึ้นไปจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกัญชาและกัญชงอย่างถูกกฎหมาย 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการผลิตยา ไบโอเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์จากกัญชงและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 2) ด้านการสนับสนุน เช่น เทคโนโลยีทางการเกษตร การบริการทางการค้า และพื้นที่เพาะปลูก 3) ด้านการส่งเสริม เช่น การลงทุนด้านเครื่องจักร การเงิน การลงทุน สื่อและเทคโนโลยี โดยมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนรวมสูงสุดให้กับผู้ลงทุน (active management)

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

อุตสาหกรรมกัญชาและกัญชงทั้ง 3 ด้านของ CNBS

ที่มา: Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) Fund Factsheet

กองทุนนี้บริหารจัดการโดย Tim Seymour มีประสบการณ์การลงทุนมากกว่า 20 ปีในฐานะผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอผู้จัดสรรและผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุนในสินทรัพย์หลายประเภท Tim Seymour เป็นนักลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชาตั้งแต่ระยะแรก ๆ และทำหน้าที่เป็นกรรมการหรือเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทกัญชาเอกชนหลายแห่ง

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

Tim Seymour

ที่มา: https://www.newcannabisventures.com/ 

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

Market Segments และ Region Allocation ของ Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) (ข้อมูล ณ วันที่ 31/03/2021)

ที่มา: https://amplifyetfs.com/cnbs-holdings.html 

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

Top 10 Holdings ของ Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) (ข้อมูล ณ วันที่ 08/04/2021)

ที่มา: https://amplifyetfs.com/cnbs-holdings.html 

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

  • Canopy Growth (9.54%) — ดำเนินธุรกิจในการผลิตและจำหน่ายกัญชาทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์กัญชาของบริษัทมีตั้งแต่น้ำมันกัญชา สารสกัดเข้มข้นจากกัญชา ซอฟท์เจลแคปซูล ไปจนถึงกัญชงโดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาอาการปวดเรื้อรัง อาการชัก กล้ามเนื้อกระตุก คลื่นไส้ และอาการเบื่ออาหาร
  • Silver Spike Acquisition (9.26%) — เป็นบริษัท blank check company (SPAC) ที่มุ่งเน้นไปที่ตลาดกัญชาและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามที่เกี่ยวข้อง โดยรวมถึงธุรกิจที่มีการสนับสนุนและส่งเสริมด้านกัญชาแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเพาะปลูก การผลิต การแปรรูป ฯลฯ
  • Village Farms (7.60%) — เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเรือนกระจกแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดและดำเนินการมายาวนานที่สุดในอเมริกาเหนือ บริษัทมุ่งมั่นในการแสวงหาโอกาสในการเป็นผู้นำแบบบูรณาการในตลาด CBD ซึ่งเป็นสารสกัดที่ได้จากกัญชาในสหรัฐอเมริกาภายใต้กฎหมายของรัฐบาล โดยได้จัดตั้งกิจการร่วมค้าอย่าง Village Fields Hemp สำหรับการปลูกกัญชงการแจ้งในหลายรัฐ

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

ผลการดำเนินงานของ The Global X Cannabis ETF (POTX) (ข้อมูล ณ วันที่ 28/02//2021)

ที่มา: The Global X Cannabis ETF (POTX) Fund Factsheet

** ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต **

รีวิวกองทุน MCANN: เติบโตไปกับการลงทุนหุ้นกัญชาทั่วโลก

ผลการดำเนินงานของ Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) (ข้อมูล ณ วันที่ 31/03/2021)

ที่มา: https://amplifyetfs.com/cnbs 

** ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต **

ตามที่ได้บอกไปในหัวข้อที่แล้วว่ากองทุน POTX มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการกองทุนแบบ Passive Management จึงทำผลตอบแทนออกมาได้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงอย่าง Cannabis Index โดยในรอบหนึ่งปีทำผลตอบแทนไปได้ 53.20% ส่วนกองทุน CNBS ที่มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการกองทุนแบบ Active Management สามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลังหนึ่งปีไปได้ถึง 232.80% 

ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน MCANN

กองทุน MCANN จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงระดับ 6 โดยมีปัจจัยความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ความเสี่ยงจากความผันผวนของผลการดำเนินงาน (SD): >25% (สูง)
  • ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัว
    • ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม: 50-80% โดยมีการลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรม Pharmaceuticals
    • ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง: >80% โดยมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศแคนนาดา และประเทศสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงได้ด้วยการจัดพอร์ตการลงทุนโดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดพอร์ตการลงทุนจากฟินโนมีนาได้ที่ https://www.finnomena.com/port/

ค่าธรรมเนียมต่างๆ ของกองทุน MCANN

  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.605%
  • ค่าธรรมเนียมการขาย: 1.0% (ช่วง IPO) และ 1.50% (หลัง IPO)
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: 1.9635%

เงินลงทุนขั้นต่ำในการลงทุน MCANN

  • มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 1,000 บาท
  • มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1,000 บาท

กองทุน MCANN เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางกัญชา (Cannabis) หรือกัญชง (Hemp)
  • ผู้ที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังต่างประเทศหรืออุตสาหกรรมกัญชา
  • ผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงเพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
  • ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงยาวได้

— planet 46. 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจกัญชาทั่วโลก : Alpha Investor: EP02 “เจาะเทรนด์ กัญชา มาจริง หรืออิงกระแส

สร้างแผนและเปิดบัญชีกองทุนรวมกับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนกว่า 1,000 กอง จาก 22 บลจ. ครอบคลุมทุกบลจ. ในประเทศไทย สร้างแผนและเปิดบัญชี คลิก: https://finno.me/open-plan

อ้างอิง

คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”