เริ่มต้นปี 2023 เหมือนว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมาจากช่วงปลายปีก่อน ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเราต่างก็ได้ยินข่าวการปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนองค์กรของเหล่า บริษัทเทคฯ ชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Meta, Amazon, Tesla และอื่น ๆ 

Mark Zuckerberg ออกมายอมรับว่าตนเองบริหารงานผิดพลาด จนเป็นสาเหตุที่ META ประกาศปลดพนักงาน บริษัทเทคฯต่างก็กังวลกับรายได้ที่คาดว่าจะชะลอตัวลงและสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เสี่ยงต่อการเกิดเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2023 

เรียกได้ว่าปัญหามากมายที่รุมเร้าหุ้นกลุ่มเทคฯ ต่างก็ทำให้เรากังวลใจอยู่ไม่น้อย

แต่ไป ๆ มา ๆ เหมือนว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองก็ยังแข็งแกร่งอยู่ จากตัวเลขอัตราการว่างงานในเดือนมกราคมอยู่ที่ 3.4% ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1951 เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า นี่จะเป็นจะสัญญาณการฟื้นตัวหรือไม่? หรือว่าการลงในครั้งนี้จะยังไม่จบ?

ทั้งนี้เรามีโอกาสได้รับชมรายการ ‘หนุ่ย Talk’ จากช่อง beartai ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2023 

มีแขกรับเชิญคือคุณศุภชัย วัฒนวิเทศกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ Yuanta และคุณกวี ชูกิจเกษม Head of Research and Content บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) มาร่วมวิเคราะห์สถานการณ์ เราเลยขอมาสรุปให้ทุกคนอ่านกันในโพสนี้ สามารถดูรายการเต็มได้ที่ https://www.youtube.com/live/7LiwfpN4NL4

หุ้นเทคฯ ณ ตอนนี้ แตกต่างจากอดีตอย่างไรบ้าง?

หากจะพูดถึงการเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยี ต้องย้อนช่วงวิกฤต Dot-Com Crisis (ปี 1998-2000)

บริษัทเทคฯ ถือว่ายังมีขนาดเล็กอยู่มาก บ้างก็ยังเป็นสตาร์ตอัปและต่างก็ขาดทุน ทำให้บริษัทเทคฯ มากมายล้มหายตายจากวิกฤตครั้งนั้น มีเพียงบางบริษัทที่สามารถอยู่รอด ซึ่งถ้าเอามาเปรียบเทียบกับปัจจุบันแล้ว ถือว่าบริษัทเทคฯ นั้นก็เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นมาก เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ

ยกตัวอย่างเช่น Apple ในช่วง Dot-Com ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันสินค้าของ Apple มีคนใช้งานอยู่ทั่วทุกมุมโลกและมี market capใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว

หุ้น Big Tech จากนี้จะเป็นอย่างไร? สรุปมุมมองการลงทุน จากรายการหนุ่ย Talk

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=MnrJzXM7a6o

ตั้งแต่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2008 จากวันนั้น smartphone ก็เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของเราไปอย่างสิ้นเชิง โทรศัพท์ไม่ได้ใช้โทรออก-รับสายอีกต่อไป แต่โทรศัพท์กลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ขาดไม่ได้ในชีวิตทุกวันนี้ไปแล้ว 

smartphone ที่มาพร้อม Application ต่าง ๆ ได้ ปรับจาก offline มาเป็น online มากขึ้น จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนจากโทรศัพท์รุ่นเก่า (2G) มาเป็น smartphone (3G) เราจะเห็นได้ชัดจากจำนวนยอดขาย smartphone ที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

หุ้น Big Tech จากนี้จะเป็นอย่างไร? สรุปมุมมองการลงทุน จากรายการหนุ่ย Talk

ที่มา https://themarketmadeeasy.com/sector-rotation-investing/

ต่อมาจะของพูดถึงรูปนี้ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตลาดหุ้นกับเศรษฐกิจ จะเห็นว่าตลาดหุ้นจะวิ่งนำเศรษฐกิจอยู่เสมอ

เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลงมาถึงจุด ๆ หนึ่ง และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจคงถึงจุดต่ำสุดแล้ว การฟื้นตัวกลับจะนำมาด้วย หุ้นในกลุ่มกลุ่มการเงิน เทคโนโลยี สินค้าฟุ่มเฟือยต่าง ๆ

จากภาพเราจะเห็นว่ากลุ่มเทคโนโลยี นั้นกินระยะในช่วง Bull Market อย่างยาวนาน

หากมองกลับไปตั้งแต่วิกฤต Subprime (ในช่วงนั้นมีการเปิดตัว iPhone รุ่นแรก)

ถึง Covid-19 เศรษฐกิจโลกก็เติบโตยาวนานนับ 10 ปี และโลกก็ถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เราก็เพิ่งได้ทำความรู้จักกับมัน เช่น Smartphone, E-Commerce, Social Media และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งที่กล่าวมาก็ล้วนเป็นหุ้นเทคฯที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดทั้งนั้น

ทีนี้ เราลองมาส่องดูกำไรบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ จาก Current Profit Margin ที่เป็นตัวช่วยคัดกรองคร่าวๆ เพื่อตัดสินใจว่ากิจการหรือธุรกิจของบริษัทนั้นน่าลงทุนหรือไม่

ซึ่งกิจการที่ดีก็ควรจะมีกำไรที่สม่ำเสมอและเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

หุ้น Big Tech จากนี้จะเป็นอย่างไร? สรุปมุมมองการลงทุน จากรายการหนุ่ย Talk

หุ้น Big Tech จากนี้จะเป็นอย่างไร? สรุปมุมมองการลงทุน จากรายการหนุ่ย Talk

หุ้น Big Tech จากนี้จะเป็นอย่างไร? สรุปมุมมองการลงทุน จากรายการหนุ่ย Talk

หุ้น Big Tech จากนี้จะเป็นอย่างไร? สรุปมุมมองการลงทุน จากรายการหนุ่ย Talk

หุ้น Big Tech จากนี้จะเป็นอย่างไร? สรุปมุมมองการลงทุน จากรายการหนุ่ย Talk
ที่มา Wallstreetzen ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022

จากหุ้นที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น เราจะเห็นว่า Microsoft นั้นมี Current Profit Margin ในปี 2022 สูงถึง 33%

ทำไม Microsoft ถึงได้กำไรดีขนาดนั้น ?

อาจจะมีหลากหลายเหตุผล แต่หากมองการทำงานในปัจจุบัน เครื่องคอมพิวเตอร์ในองค์กรที่ใช้กันอยู่ทั้งโลก ก็ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และโปรแกรมของ Microsoft ทั้งนั้น ซึ่งองค์กรต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องใช้บริการของ Microsoft ไม่ว่าจะเป็น Microsoft 365, OneDrive และอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยที่บริการเหล่านี้พอใช้ไปเรื่อย ๆ แล้วก็ไม่อยากเปลี่ยน เพราะอาจจะมีความยุ่งยากในการโอนย้ายข้อมูล และโดยมากก็ค่อนข้างจะคุ้นชินกับโปรแกรมของ Microsoft ไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่น Word, Excel ที่วัยเรียนวัยทำงานไม่ว่าจะองค์กรไหน ๆ ก็ได้ใช้กันแทบทุกคน 

จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม Current Profit Margin ของ Microsoft ถึงได้สูงขนาดนั้น 

แล้วหุ้นกลุ่มเทคฯ จะเป็นอย่างไรต่อไป?

หุ้น Big Tech จากนี้จะเป็นอย่างไร? สรุปมุมมองการลงทุน จากรายการหนุ่ย Talk

ที่มา tradingview ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565

ดัชนี Nasdaq ที่สะท้อนให้เห็นภาพรวมกลุ่มเทคฯ หลังจากปี 2022 ที่ผ่านมาปรับลงไปเกือบ 30% ทำให้คาดกันไปว่าลงได้อีกไม่มากจากนี้ (Downside Risk ค่อนข้างจำกัด)

ในสถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่าเศรษฐกิจน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าเงินเฟ้อในอีกปี-สองปีข้างหน้า ถึงเวลานั้นก็จะเป็นเวลาของหุ้นกลุ่มเทคฯ และถ้าหากมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มาเปลี่ยนแปลงโลกก็จะยืดเวลาช่วงขาขึ้นให้ยาวนานขึ้นไปอีกอย่างที่สมาร์ตโฟนเคยทำไว้ 

สรุปก็คือเป็นโอกาสดีในการที่จะมองหาการลงทุนหุ้นเทคโนโลยี ถึงแม้หุ้นเทคฯจะมีความผันผวนสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงมากเช่นกัน 

เมื่อตลาดหุ้นกลับมาฟื้นตัวครั้งใหม่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็จะกลับมาน่าสนใจ และถึงตอนนั้นเราก็อาจจะเห็นบริษัทเทคโนโลยีที่เข้ามามีอิทธิพลในการขับเคลื่อนโลกในยุคใหม่ก็เป็นได้ครับ 😊

Starlit