สรุปหนังสือ "ความรู้หุ้นมูลค่า 1 ล้านบาท"

จอมยุทธ “เซียว จับอิดนึ้ง” กำเงิน 2 ล้านบาท ออกมาท่องยุทธจักรตลาดหุ้น

ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อยอดให้กลายเป็นร้อยล้าน

เวลาผ่านไป 6 ปี ตลาดหุ้นไม่เคยปราณีใคร

จาก 2 ล้าน เหลือ 2 แสน

บาดแผลครั้งนี้แสนสาหัส แต่ยังไม่ถึงตาย

ท่านเซียวได้รับบทเรียนอย่างลึกซึ้ง และไม่อยากให้ปุถุชนรุ่นหลังต้องเป็นแบบตัวเอง

จึงได้เขียนคัมภีร์เล่มนี้ขึ้นมา ประกอบไปด้วย 37 กระบวนท่า หากใครได้ฝึกตามแล้ว รับรองได้ว่าจะไม่ขาดทุนจากสนามรบแห่งนี้แน่นอน

1) ซื้อดัก เจ็บหนักทุกที

หุ้น 6 บาท ร่วงมา 3 บาท ตาลุกวาว คิดว่าลด 50% … รีบซื้อ

จากนั้นลงต่อไป 2 บาท ลด 67% … ซื้อเพิ่ม
ยังไม่หยุด ลงต่อไปอีก เหลือ 1 บาท … คราวนี้ไม่ซื้อเพิ่มแล้ว ไม่ใช่ไม่อยากซื้อ แต่เงินหมด

สุดท้ายขาดทุน 70-80% ตามระเบียบ

ได้บทเรียนแล้ว เอาใหม่ คราวนี้เห็นหุ้นมาทรงแบบทะลุแนวต้านแน่ ซื้อดักก่อนเลย ไม่รอ break out จะได้ต้นทุนต่ำ

ของจริงคือ ไม่วิ่ง พลิกกลับเป็นขาลง ร่วงแรงและเร็ว กลายเป็นพักฐานในโซนบน ปล่อยของ ก่อนทุบให้ร่วง

บทเรียนที่ได้จากข้อนี้คือ ซื้อดัก โดยไม่รู้มูลค่าที่แท้จริง ว่าถูกหรือแพง และด้วยใจที่ร้อนรน ด่วนได้ ทำให้ขาดทุน เหมือนที่บัฟเฟตต์ บอกว่า “ตลาดหุ้นถูกออกแบบมาเพื่อย้ายเงินจากคนใจร้อนไปให้คนที่มีความอดทน”

2) ตลาดหุ้นไม่ใช่โรงทาน แต่คือสงคราม

มีเม่าบางส่วนคิดว่าถ้าอยากให้ใครช่วยก็ไปประกาศในห้องสินธร แต่ความจริงคือ ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสายที่ท่านเรียก

เพราะเราคาดหวังแบบลม ๆ แล้ง ๆ ว่าจะมีใครมาช่วยหุ้นเรา ยิ่งหวังก็ยิ่งไม่กล้าขาย ยิ่งทนถือ ราคายิ่งร่วงต่อ

เพราะฉะนั้น ต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่เป็น “คนในตลาดหุ้นต่างเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้” ทำให้เรารู้จักระแวง จะได้รีบทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองโดยเฉพาะการรีบ stop loss ให้ไว ชีวิตเราต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง

จงเปลี่ยนความคิดทีว่า “รีบลืมความผิดพลาด แล้วเริ่มใหม่” นั่นคือสิ่งที่คนขาดความรับผิดชอบเค้าทำกัน

แต่จงรีบกลับไปดูรายละเอียดความผิดพลาด เพื่อหาเบาะแสว่าเกิดจากอะไร รีบจดบันทึกว่าสิ่งนี้ไม่ควรทำ อย่าลืมว่าเราไม่มีเงินมากพอจ่ายค่าเทอมแบบนี้ได้ตลอด

3) หุ้นปั่นหากกำไรก็สนุก แต่ขาดทุนก็ทุกข์หนัก

หุ้นต่ำบาท มีสตอรี่เปลี่ยนธุรกิจ วอลุ่มเข้าเป็นระยะ ๆ สื่อว่ากำลังสะสม อยู่ในเทศกาลปั่นหุ้น

พอเราเห็นหุ้นวิ่งแรง ยังไม่กล้าซื้อ พอได้จังหวะพักตัว เรารีบเข้า กลายเป็นว่าไปรับของจากเจ้ามือ แล้วก็โดนทุบสลิงขาด ติดดอยไม่กล้าขายอีก

ข้อสรุป คือ ยากมากที่จะรวยจากหุ้นปั่น หุ้นแบบนี้เผลอไม่ได้ เค้าให้เราเท่าไหนเท่านั้น กำไรเป็นของเจ้ามือ ส่วนการดูแลความเสี่ยงเป็นของเรา

เราควรเลิกสนใจหุ้นประเภทนี้ แล้วเน้นเอากำไรระดับ 10-20% ดีกว่า ง่ายกว่ากันเยอะ

4) เม่ากลัวตกรถ มากกว่า ขาดทุน

ใช้สูตร VI ที่บอกว่า นั่งรถเมล์เห็นกิจการบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง งานเยอะมาก ไปไหนก็เจอ เอามาทำการบ้านต่อ น่าสนใจ จึงซื้อได้กำไรหลายเด้ง

เม่าเอามั่ง นั่งรถเมล์ เห็นหุ้นตัวหนึ่งที่ทำป้าย ไปไหนก็เจอ คิดว่าใช่แน่ รีบซื้อเลย พองบออก ขาดทุนเละเทะ ราคาร่วงแรง พอร์ตแทบพัง

พอได้พิจารณาก็พบว่า คิดน้อยไป คือ เซียน VI เค้าคิดกัน 5 ขั้นตอน คือ

• รู้ว่ากิจการมีพัฒนาการที่ดี
• หาข้อมูลเพิ่มว่าอนาคตดีแน่
• คำนวณมูลค่าที่เหมาะสม
• รอจนเกิด safety factor
• รอจนข่าวดีใกล้ออกค่อยซื้อ

ส่วนเม่าเห็นแค่ข้อแรกก็ซื้อแล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามักง่าย แล้วจะไม่ขาดทุนแบบง่าย ๆ

อ่านหนังสือเล่มนี้จบ จะทำให้เราทบทวนตัวเองได้หลายข้อเลยครับว่า เราเองก็เคยทำผิดพลาดแบบนี้เยอะเหมือนกัน อยากให้ลองไปอ่านกันดู คุณเซียวใช้ภาษาง่าย ๆ ตัวอย่างจริง เล่นจริง เจ็บจริง ที่สำคัญได้ชี้ทางตายแล้วว่าไปทางไหน เราอ่านแล้วก็อย่าได้เดินไปทางนั้นก็แล้วกัน

ขอบคุณ Vajarin Zyo Samadhi มากครับ สำหรับบทเรียนอันทรงคุณค่า

ที่มาบทความ: https://www.stockvitamins.co/ความรู้หุ้นมูลค่า-1-ล้าน/

สรุปหนังสือ "ความรู้หุ้นมูลค่า 1 ล้านบาท"