หลังจากยื่นขอล้มละลายเมื่อปลายปี 2017 รวมถึงถูกอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon แย่งชิงยอดขาย ทำให้บริษัทขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2014 ทำให้ต้นปี 2018 Toys “R” Us สั่งปิดสาขาไปอีก 200 สาขา พร้อมทั้งปลดพนักงานอีกไม่ต่ำกว่า 5,000 คน

  • ล่าสุด CNN Money รายงานว่า Toys “R” Us อาจสั่งปิดทุกสาขาในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 800 สาขา ภายในสัปดาห์หน้า เพราะประสบความล้มเหลวในการหาผู้เข้าซื้อกิจการ
  • ส่วนธุรกิจในฝั่งเอเชีย อาจจะให้พาร์ทเนอร์สัญชาติฮ่องกงอย่าง Fung Group ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (15%) ให้รับช่วงต่อซื้อหุ้นที่เหลืออีก 85% มูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ และกลายเป็นเจ้าของ Toys “R” Us ในเอเชียอย่างเต็มตัว
  • อีกหนึ่งกรณีศึกษาจากการที่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ให้คนสมัยนี้หันไปหาความบันเทิงผ่านการเล่นเกมบนมือถือ และแท็บเล็ตกันไม่น้อย รวมทั้งการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ พูดได้ว่า การปรับตัวไม่ทันก็คือหายนะของเรื่องราวในครั้งนี้

ที่มา : BOTSS

FINNOMENA Hot News Digest

คือการนำข่าวเรื่องการเงินการลงทุนที่สำคัญ ๆ ในแต่ละวัน มาทำการย่อย (digest) ให้เข้าใจง่าย ๆ รวมถึงอธิบายถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นจากเรื่องดังกล่าว โดยทีมงาน FINNOMENA เพื่อให้นักลงทุนได้เสริมความเข้าใจในข่าวสารต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง

TSF2024