รู้จักกับ Vasil Hard Fork

Vasil Hard Fork คืออะไร ทำไมจึงสำคัญกับ Cardano?

Hard Fork คืออะไร?

ในเทคโนโลยีบล็อกเชน Hard Fork หมายถึงการอัปเกรดครั้งใหญ่ในโปรโตคอลของเครือข่ายบล็อกเชน อาจจะด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หรือยกระดับประสิทธิภาพ โดยจะแบ่งเชนออกเป็น 2 ส่วน หรือมากกว่านั้น ส่งผลให้เกิดการตรวจสอบบล็อกและธุรกรรมซึ่งก่อนหน้านี้ใช้ไม่ได้ผล 

Hard Fork เป็นการอัปเกรดที่จำเป็นต่อการปรับปรุงเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฟังก์ชัน การเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย การแก้ไขข้อขัดแย้งภายในชุมชน หรือการย้อนกลับการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน

Vasil Hard Fork คืออะไร?

Vasil เป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดของ Cardano นับตั้งแต่ Alonzo Hard Fork ที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 2021 โดยการอัปเกรดครั้งนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนา Cardano และคาดว่าการอัปเกรดนี้ จะปรับปรุงเครือข่ายในแง่ของความเร็ว และความสามารถในการปรับขนาด (Scaling) ให้เหมาะสมกับ Smart Contract และ DApps

Vasil Hard Fork สำคัญอย่างไร?

การอัปเกรดดังกล่าว มุ่งเป้าไปที่กลไกสำคัญ 5 ประการ ซึ่งถูกออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเชน Cardano กลไกดังกล่าวประกอบไปด้วย

1. CIP-31 (Reference Inputs)

Cardano ตั้งเป้าที่จะนำเสนอ Input ประเภทใหม่ที่เรียกว่า Reference Input ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถมองดู Output ได้โดยไม่ต้องดำเนินธุรกรรม เป้าหมายของ CIP-31 คือการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในเครือข่าย โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียธุรกรรม หรือการสร้างธุรกรรมที่ไม่ได้ใช้ (UTXO) ใหม่ และยังช่วยให้ DApps หลายตัวสามารถอ่านข้อมูลจาก Datum เดียวกัน ได้ในเวลาเดียวกัน

2. CIP-32 (Inline Datums)

Proposal นี้มุ่งเป้าไปที่การอนุญาตให้สามารถแนบ Datum (ข้อมูลสถิติ, ตัวเลข) ไปกับ Output แทนที่จะแนบไปกับ Hash (กลไกในการแปลงข้อมูล) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกับสคริปต์ได้ง่ายขึ้น และเร็วขึ้นเพราะไม่ต้องรวมข้อมูล

3. CIP-33 (Reference Scripts)

เป้าหมายของ Reference Scripts คือการลดต้นทุนการทำธุรกรรม โดยการอนุญาตให้ Reference Scripts แนบไปกับ Output ในขณะที่ยังอนุญาตให้ใช้สคริปต์ดังกล่าวได้ตลอดทั้งกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องแทนที่จะร้องขอให้ดำเนินธุรกรรมให้เสร็จสิ้น

4. CIP-40 (Collateral Outputs)

กลไกนี้ประกอบไปด้วย Output ของธุรกรรมประเภทใหม่ที่เรียกว่า Collateral Outputs มีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานภาพรวมของการปรับขนาด (Scaling) ของเครือข่าย

5. Diffusion Pipelining

กลไกนี้จะทำให้กระบวนการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับบล็อกที่สร้างขึ้นใหม่ในหมู่ผู้เข้าร่วมเครือข่ายนั้นคล่องตัว โดยทำให้แน่ใจว่าสามารถเผยแพร่บล็อกในเครือข่ายได้ดีภายใน 5 วินาทีหลังจากการสร้าง อีกทั้งยังมุ่งเป้าไปที่การทำงานข้ามเชนให้เกิดขึ้นได้พร้อมกัน

รู้หรือไม่?

  • Charles Hoskinson (ผู้ก่อตั้ง Cardano) ได้กล่าวว่า “Vasil Hard fork นั้นเป็นการอัปเดตที่ยากที่สุดเท่าที่เคยทำมา” 
  • ล่าสุด นักพัฒนาที่ Input Output และ Cardano Foundation ได้แถลงว่าจะเกิด Vasil hard fork ของ Cardano ในวันที่ 22 กันยายน 2565 หรือเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจาก Ethereum Merge (วันที่ 15 กันยายน 2565)

TechToro

Ref


คำเตือน

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจและศึกษาข้อมูลรวมทั้งลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้