FINNOMENA The Opportunity Morning Brief 14/03/2022

“วิเคราะห์ Fed เตรียมขึ้นดอกเบี้ยสัปดาห์นี้ พร้อมประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้น” 

 

ภาพความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดหุ้นทั่วโลก

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones ปิดที่ 32,944.19 -229.88 จุด (-0.69%) S&P500 ปิดที่ 4,204.31 -55.21 จุด (-1.30%) Nasdaq 12,843.81 ปิดที่ -286.15 จุด (-2.18%) Small Cap 2000 ปิดที่ 1,982.18 -29.49 จุด (-1.47%) VIX index อยู่ที่ 30.75 (+1.72%)

ตลาดหุ้นยุโรป Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3,686.78 +35.39 จุด (+0.97%) Dax เยอรมนี ปิดที่ 13,628.11 +186.01 จุด (+1.38%) CAC 40 ฝรั่งเศส ปิดที่ 6,260.25 +53.05 จุด (+0.85%) FTSE 100 อังกฤษ ปิดที่ 7,155.64 จุด +56.55 จุด (+0.80%)

ตลาดหุ้นเอเชีย (ราคาปิดวันทำการล่าสุด) Nikkei 225 ญี่ปุ่น ปิดที่ 25,162.78 จุด -527.62 จุด (-2.05%) CSI 300 จีน ปิดที่ 4,306.52 จุด +13.68 จุด (+0.32%) Hang Seng ฮ่องกง ปิดที่ 20,553.79 จุด -336.47 จุด (-1.61%) SET Index ไทย ปิดที่ 1,658.01 จุด +10.93 จุด (+0.66%) VN30 เวียดนาม ปิดที่ 1,477.14 จุด -13.10 จุด (-0.88%)

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช้าวันที่ 14 มี.ค. 2565) ราคาทองคำ 1,977.30 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Silver ราคา 25.91 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ WTI 106.06 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Brent 109.38 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ราคา Cryptocurrency (เช้าวันที่ 14 มี.ค. 2565) Bitcoin 38,024.4 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Ethereum 2,520.87 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และ Binance Coin 364.30 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ภาพรวมสินทรัพย์ทั่วโลกที่ปรับตัวบวกและลบสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก กลุ่มที่ปรับตัวในทิศทางบวก – หุ้นยุโรป (+3.6%), หุ้นสหราชอาณาจักร (+3.2%) และหุ้นตลาดพัฒนาแล้ว (+0.8%) ปรับตัวในทิศทางลบ – น้ำมัน (-10.2%), หุ้นตลาดเกิดใหม่ (-1.9%), ทองคำ พันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี และพันธบัตรสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับลงทุนได้ (-1.3%)

ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวบวกและลบสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก กลุ่มที่ปรับตัวในทิศทางบวก – ดัชนี Dax เยอรมัน (+6.2%), ดัชนี Nifty อินเดีย (+4.8%) และดัชนี Euro STOXX (+3.6%) ปรับตัวในทิศทางลบ – เกาหลีใต้ (-2.4%), ดัชนี PCOMP ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม (-2.2%) และหุ้นจีน H-Shares (-2.1%)

ภาพรวม sector ใน S&P500 ที่ปรับตัวบวกสูงที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ 3 อันดับแรก – Consumer Discretionary (+2.4%), Materials (+2.1%) และ Financials (+1.5%) ปรับตัวในทิศทางลบ – Consumer Staples (-3.9%), Utilities (-1.9%) และ Health Care (-1.0%)

สรุปข่าวประจำวัน

Bond yield อายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2% อีกครั้ง

สงครามรัสเซีย – ยูเครนวันที่ 19 – รัสเซียขยายการโจมตีทางฝั่งตะวันตกของยูเครนใกล้กับโปแลนด์มากขึ้น ทางยูเครนได้ขอให้ NATO ประกาศให้น่านฟ้าเหนือยูเครนเป็นเขตห้ามบิน แต่ทาง NATO ได้ปฏิเสธ เนื่องจาก NATO จะต้องส่งเครื่องบินรบเข้าไปอยู่เหนือน่านฟ้ายูเครน ซึ่งจะเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้น มีรายงานว่ารัสเซียอาจมีการขอความช่วยเหลือจากจีนทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจ หลังจากโดนมาตรการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ แต่ทางการจีนประกาศว่าไม่ได้มีแผนจะเข้ามาช่วยเหลือ โดยเป้าหมายหลักของจีน คือ ยุติสงครามในยูเครน

ตลาดหุ้นรัสเซียมีกำหนดจะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 18 มีนาคมนี้ หลังจากหยุดทำการซื้อขายมาตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เตรียมประชุมวันที่ 15 – 16 มีนาคมนี้ และจะทราบผลวันที่ 17 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ล่าสุดคาดการณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในรอบนี้

ข้อมูลจาก LPL Research พบว่าตามสถิติย้อนหลัง หลังจากการขึ้นดอกเบี้ย 6 และ 12 เดือน ดัชนี S&P500 ให้ผลตอบแทนเป็นบวกที่ 75% และ 100% ภาพราย sector ที่ปรับตัวดีที่สุดในช่วงขึ้นดอกเบี้ย คือ Technology, Real Estate, Energy และ Health Care ขณะที่ sector ที่ปรับตัวไม่โดดเด่น คือ Communication Services, Staples และ Materials ตามสถิติย้อนหลัง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบประมาณ 10 ปี ขณะที่ความคาดหวังเงินเฟ้ออยู่ที่ 5.4% สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1981

Goldman Sachs คาดการณ์ว่ามีโอกาส 20 – 35% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย และปรับลดเป้าดัชนี S&P500 ลงเหลือ 4,700 จุด จากเดิมที่ 4,900 จุด ค่า Relate P/E ของ S&P500 เทียบกับ MSCI ACWI อยู่ที่ประมาณ +2S.D. แต่มีการปรับ EPS ดีกว่า MSCI ACWI

Warren Buffet เดินหน้าซื้อหุ้นน้ำมัน Occidental Petroleum มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 12% ของบริษัท และมูลค่าของ Occidental Petroleum ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 9 ในพอร์ตของ Berkshire Hathaway

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 2.2 หมื่นราย หากรวม ATK อยู่ที่ 3.7 หมื่นราย ผู้เสียชีวิต 69 ราย ขณะที่ทั่วโลก จีนพบผู้ติดเชื้อ 3.4 พันราย เป็นตัวเลขรายวันที่สูงสุดรอบกว่า 2 ปี และประกาศล็อคดาวน์เซินเจิ้น ซึ่งกระทบประชากร 17 ล้านคน

ราคาหุ้น Didi ปรับตัวลดลงถึง -44% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นการติดลบรายวันที่เยอะที่สุดตั้งแต่บริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบันราคาหุ้นติดลบ -87% จากราคา IPO และส่งผลกระทบเชิงลบต่อบริษัทที่ถือหุ้น Didi อย่าง Softbank และ Uber

ค่า Relate P/E ของ CSI300 เทียบกับ MSCI ACWI อยู่ที่ประมาณ +0.7 – 0.8S.D. ขณะที่ Hang Seng Tech และ MSCI China เทียบกับ MSCI ACWI อยู่ที่ประมาณ -2S.D.

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นประมาณ 10 จุด ในวันศุกร์ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายชะลอลงมาอยู่ที่ 7.8 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิรายเดียว บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ให้มุมมองเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย – ยูเครน และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ต่อตลาดหุ้นไทย 1. สงครามผ่อนคลายไม่ยืดเยื้อ และ Fed ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย คาดการณ์ SET Index มีโอกาสแตะ 1,730 จุด 2. สงครามตึงเครียดยืดเยื้อ และ Fed ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย คาดการณ์ SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,575 – 1,630 จุด 3. สงครามผ่อนคลาย ไม่ยืดเยื้อ และ Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ย คาดการณ์ SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,630 – 1,660 จุด และ 4. สงครามยืดเยื้อ และ Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ย คาดการณ์ SET Index ปรับฐานสู่แนวรับ 1,420 จุด ซึ่งกรณีที่ 2 น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด

ค่า Relate P/E ของ SET Index เทียบกับ MSCI ACWI อยู่ที่ระดับเกิน +2S.D. ขณะที่ EPS ไม่ได้ดีกว่าหุ้นโลก