News Update: IMF เตือนเศรษฐกิจโลกถดถอย สหรัฐฯ ยุโรป และจีน อ่อนแอพร้อมกัน หวั่นคลายล็อกดาวน์จีนกระทบทั้งโลก

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า 2023 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของโลกจะเผชิญกับภาวะที่หนักกว่าเดิม เพราะแรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่าง สหรัฐฯ กลุ่มประเทศยุโรป และจีน ต่างต้องประสบกับสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง

VOA Thai รายงานว่า คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการ IMF กล่าวว่า ปีใหม่นี้จะหนักกว่าปีเก่าที่เราเพิ่งบอกลามา เพราะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้ง 3 แห่ง คือ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีน กำลังชะลอตัวลงพร้อมๆ กัน

โดยในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา IMF ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของศรษฐกิจโลกปี 2023 โดยมองว่ายังมีผลกระทบจากสงครามยูเครน แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ใช้เพื่อพยายามดึงเพดานภาวะเงินเฟ้อให้ลดลง

เมื่อเร็วๆ นี้ จีนได้ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และเปิดประเทศอย่างค่อนข้างวุ่นวาย ในขณะที่ประชาชนและผู้บริโภคยังคงใช้ความระมัดระวัง เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น

ในวันเสาร์ (31 ธ.ค.) ปธน.จีน สี จิ้นผิง ได้กล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก หลังจากที่มีการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยในการปราศรัยเนื่องในวันปีใหม่ ผู้นำจีนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายสามัคคีกัน ในช่วงเวลาที่จีนกำลังเข้าสู่ “เฟสใหม่”

กรรมการผู้จัดการ IMF กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2022 น่าจะอยู่ในระดับเดียวกัน หรือต่ำกว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

กอร์เกียวาซึ่งเพิ่งเดินทางไปจีน ยังกล่าวด้วยว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นในจีน น่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ และทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลกซบเซาลงไปด้วย

กอร์เกียวากล่าวว่า ช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้จะเป็นช่วงที่ยากลำบากของจีน จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่แพร่กระจายรวดเร็วราวไฟป่านี้ จะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจในจีน เศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน และเศรษฐกิจโลก ตามรายงานของ BBC

ในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา IMF คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในปีที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 3.2% และในปี 2023 คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตในอัตรา 4.4% อย่างไรก็ตาม การให้สัมภาษณ์ล่าสุดของกอร์เกียวาทำให้มีการตีความว่า IMF น่าจะปรับการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและของโลกอีกครั้งในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน กรรมการผู้จัดการ IMF กล่าวว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ เพราะมีความทนทานกว่า และอาจเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ เพราะตลาดแรงงานนั้นยังแข็งแรง

อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานที่แข็งแรงนั้นอาจจะเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการลดอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นไปสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ในปี 2022 ซึ่งหมายความว่าเฟดอาจจะต้องคุมอัตราดอกเบี้ยให้รัดกุมนานขึ้น ถึงแม้จะดูเหมือนว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว แต่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ตั้งไว้ที่ 2% อยู่ถึงเกือบสามเท่า

อ้างอิง:

https://www.voathai.com/a/6899892.html 

https://www.bbc.com/thai/articles/c72rn543vyyo

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน