News Update: โทษทัณฑ์จากความเป็นแม่ ผู้หญิงมีต้นทุนจากการมีลูกสูงกว่าผู้ชาย แต่ถ้าผู้หญิงโสดและไม่มีลูก มีโอกาสรวยกว่าผู้ชายในเงื่อนไขเดียวกัน

ปัจจุบัน ผู้หญิงหลายคนเลือกใช้ชีวิตโสดและไม่มีลูก ซึ่งไม่ว่าเหตุผลเบื้องหลังจะเป็นอะไรก็ตาม แต่การตัดสินใจดังกล่าวทำให้อาชีพการทำงานของพวกเธอเติบโตกว่าผู้หญิงรุ่นก่อนๆ และมันกำลังพาพวกเธอไปสู่พรมแดนใหม่แห่งความมั่งคั่ง

งานวิจัยล่าสุดจาก Fed สาขาเซนต์หลุยส์ เผยว่า “ผู้หญิงโสดที่ไม่มีลูก” มีความมั่งคั่งโดยเฉลี่ยสูงถึง 65,000 ดอลลาร์ในปี 2019 สูงกว่าผู้ชายโสดที่ไม่มีลูกซึ่งมีความมั่งคั่งอยู่ที่ 57,000 ดอลลาร์ และสูงกว่าแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีความมั่งคั่งเพียง 7,000 ดอลลาร์

เห็นได้ชัดว่าคนรุ่นใหม่ๆ ต้องการมีลูกน้อยลง อัตราการเกิดในสหรัฐฯ ยังลดลงต่อเนื่องในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าความยากลำบากที่เกิดจากโควิด-19 จะยิ่งไปเร่งแนวโน้มดังกล่าวให้รุนแรงขึ้นอีก

ผลการศึกษาล่าสุดของ Pew Research Center เมื่อปีที่แล้ว พบว่า 44% ของชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง18-49 ปีที่ยังไม่มีลูกกล่าวว่า การมีลูกของพวกเขาแทบไม่น่าเป็นไปได้หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลย ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นมา 7% จากปี 2018

นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้คนตัดสินใจไม่มีลูกคือ “เรื่องเงิน” เพราะต้นทุนการเลี้ยงดูเด็กคนนึงแพงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี

ข้อมูลจาก Brookings Institution ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็ก 1 คน ที่เกิดในปี 2015 จนถึงอายุ 17 ปี แบบคำนวณอัตราเงินเฟ้อแล้วสูงถึง 310,605 ดอลลาร์ ซึ่งนี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเรียนระดับมหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ต้นทุนทางการเงินเท่านั้น เพราะหากผู้หญิงตัดสินใจเป็นแม่คน พวกเธอต้องเผชิญกับ ‘โทษทัณฑ์จากความเป็นแม่ (Motherhood Penalty) ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์หรือหลังคลอดลูก ซึ่งงานวิจัยส่วนใหญ่ระบุว่า คนเป็นแม่ได้รับโทษทัณฑ์จากการมีลูกมากกว่าคนเป็นพ่อ

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ก่อนเกิดโควิด-19 โดย Julie Kashen จาก Century Foundation เผยว่า หากวัดโทษทัณฑ์หรือผลกระทบจากการเป็นแม่ต่อรายได้นั้น ขนาดของบทลงโทษจากการรมีลูกอายุน้อยกว่า 5 ปี 1 คน คิดเป็นประมาณ 15% ของรายได้ต่อปี นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบว่าแม่ชาวผิวดำและชาวละตินได้รับภาระมากกว่าแม่ผิวขาว

Julie Kashen ยังกล่าวถึงผลกระทบแบบต่อเนื่องต่อรายได้ของแม่หลังมีลูก โดยเธอมองว่าจุดประสงค์หลักของในการเคลื่อนไหวของผู้หญิง คือการเพิ่มทางเลือกแก้ผู้หญิงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว Melissa Kearney ศาสตราจาร์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ได้กล่าวถึง วัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปซึ่งทำให้ผู้หญิงมีลูกช้าลงหรือตัดสินใจไม่มีลูก ชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตวัยรุ่นในช่วงยุค 90 และยุค 2000 ตอนต้นนั้นคุ้นเคยกับการที่ผู้หญิงทำงาน และเป้าหมายหลักในชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปแล้ว

อ้างอิง:

https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-08-31/women-not-having-kids-get-richer-than-men 

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war