News Update: ราคาน้ำมันพุ่งกว่า 5% หลัง OPEC+ เล็งปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ครั้งใหญ่สุดในรอบกว่า 2 ปี

ราคาน้ำมันดีดขึ้นกว่า 5% เพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. หลัง OPEC+ เล็งปรับลดการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่สุดในรอบกว่า 2 ปี

รายงานข่าวระบุว่า สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC+ กำลังหารือแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมทั้งการปรับลดเพิ่มเติมโดยความสมัครใจของประเทศสมาชิกด้วย ซึ่งมีกำหนดประชุมกันในวันที่ 5 ต.ค. นี้

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นมาเป็นเกือบ 84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังปรับตัวลดลง หลังเกิดความผันผวนอย่างหนักในตลาดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจนทำให้ ซาอุดิอาระเบียผู้ผลิตรายใหญ่ของกลุ่มออกมาแนะให้สมาชิกเริ่มปรับลดการผลิตได้แล้ว

ที่ผ่านมา กลุ่ม OPEC+ ได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างช้าๆ มาตลอด เพื่อชดเชยกับการปรับลดครั้งใหญ่เมื่อปี 2020 แต่ราคาน้ำมันที่ตกฮวบหนักจนเหลือไม่ถึง 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กลายเป็นปัญหาใหม่

Rob Haworth นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสของ U.S. Bank Wealth Management มองว่า เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่กลุ่ม OPEC+ หารือถึงการลดปริมาณน้ำมันลงหนึ่งล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งที่ประมาณสินค้าในคลังยังตึงตัว แต่ราคาที่ลดลงเหลือ 80 ดอลลาร์ กำลังเป็นความท้าทายของกลุ่ม

ก่อนหน้านี้ ธนาคารต่างๆ รวมถึง UBS และ JPMorgan ออกมาบอกว่า กลุ่ม OPEC+ อาจจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตอย่างน้อย 500,000 บาร์เรลต่อวันเพื่อให้ราคามีเสถียรภาพ ขณะที่ Goldman Sachs กล่าวว่า ต้องลดกำลังการผลิตมากกว่าหนึ่งล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อดึงนักลงทุนกลับสู่ตลาด

อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับลดกำลังการผลิตจริง สหรัฐฯ น่าจะไม่พอใจอย่างมาก หลังพยายามกดดันให้ซาอุดิอาระเบียเดินหน้าผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาราคาให้อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องและเพื่อลดรายได้ของรัสเซีย

อ้างอิง:

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war