ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 50 bps สู่ระดับ 0.75% – 1% ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเร่งสูงสุดรอบ 22 ปี พร้อมเริ่มทำ QT ลดงบดุล เดือนละ 47,500 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้

“เงินเฟ้อสูงเกินไป Fed เข้าใจถึงความลำบากที่เกิดขึ้น และกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อลดระดับเงินเฟ้อลงมา” เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed กล่าวในการแถลงผลการประชุม FOMC

จากคำพูดของประธาน Fed นักวิเคราะห์ประเมินว่า มีแนวโน้มที่จะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยที่ 50 bps อีก 2-3 ครั้งในการประชุมถัดๆ ไป

แต่คำตอบของพาวเวลล์ที่ทำให้ตลาดตอบรับเชิงบวกคือ “การขึ้นดอกเบี้ยสูงถึงครั้งละ 75 bps ไม่ได้อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการ Fed โดยรวม”

ตามข้อมูลของ CME Group ตลาดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 2.75% – 3%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ค.) โดยดัชนี Dow Jones บวก 2.81% ด้าน S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.99% และ Nasdaq พุ่ง 3.19% ซึ่งนี่เป็นการปรับขึ้นแรงสุดของ Dow Jones และ S&P 500 นับตั้งแต่ปี 2020

Fed ยังระบุว่าจะเริ่มลดการถือครองสินทรัพย์ในงบดุลมูลค่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ Fed เคยซื้อพันธบัตรจำนวนมากเพื่อรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ แต่ราคาสินค้าที่แพงขึ้นในตอนนี้ กำลังกดดันให้ Fed ปรับวิธีการใช้นโยบายการเงิน

ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. Fed จะเริ่มทำ QT เดือนละ 47,500 ล้านดอลลาร์ โดยลดวงเงินพันธบัตรที่ 30,000 ล้านดอลลาร์ และ MBS ที่ 17,500 ล้านดอลลาร์

และหลังจากนั้น 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไป Fed จะเร่งการทำ QT เร็วขึ้น 2 เท่า สู่เดือนละ 95,000 ล้านดอลลาร์ โดยลดพันธบัตร 60,000 ล้านดอลลาร์ และ MBS 35,000 ล้านดอลลาร์

ประธาน Fed มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในสภาวะแข็งแกร่งและพร้อมแล้วสำหรับนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดยคาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานใกล้เข้าสู่จุดสูงสุดแล้ว

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงมา Fed ระบุว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะลดลงในไตรมาสแรก แต่การใช้จ่ายในครัวเรือนและการลงทุนของภาคเอกชนยังคงแข็งแกร่ง

อ้างอิง:

• https://www.cnbc.com/2022/05/04/fed-raises-rates-by-half-a-percentage-point-the-biggest-hike-in-two-decades-to-fight-inflation.html 
• https://www.cnbc.com/2022/05/03/stock-market-futures-open-to-close-news.html

——————-