News Update: อวสานหุ้นปั่น เม่าอเมริกันเข้ากองไฟ Meme Stock ร่วงหนัก ทำนักลงทุนหน้าใหม่สหรัฐฯ ล้างผลตอบแทนยุคโควิด สูญกำไรที่เคยได้ คืนให้ตลาด

จุดจบของยุคหุ้นมีมมาเร็วไม่ต่างจากตอนเริ่มต้น นักลงทุนรายย่อยสูญเงินครั้งมหาศาลจากหุ้นมีม หรือหุ้นปั่นที่เคยมีกระแสโด่งดัง

ตามประมาณการของ Morgan Stanley ผลตอบแทนของหุ้นมีมนั้นแย่กว่าสินทรัพย์อื่นในตลาด และนักลงทุนสมัครเล่นที่เข้าสู่ตลาดในช่วงล็อกดาวน์สูญเสียผลตอบแทนที่เคยทำได้มาก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว

(Morgan Stanley คำนวณโดยอ้างอิงจากการซื้อขายทั้งหมดของนักลงทุนหน้าใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2020 และใช้ข้อมูลการเทรดและข้อมูลราคาสาธารณะเพื่อคำนวณผลกำไรและขาดทุนโดยรวม)

นักลงทุนหน้าใหม่ถูกดึงดูดให้เข้าสู่ตลาดด้วยการแพร่ระบาดของโควิดที่ Fed กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมหาศาล แต่พวกเขาถูกปลุกให้ตื่นจากฝันเพราะตอนนี้ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ

Matthew Tuttle ซีอีโอของ Tuttle Capital Management กล่าวว่า มีคนจำนวนมากเริ่มต้นลงทุนในช่วงโควิด ประสบการณ์อย่างเดียวที่พวกเขามีคือ “ตลาดหุ้นที่มี Fed เป็นเชื้อพลิง” ทุกอย่างเปลี่ยนไปตั้งแต่ท่าทีของ Fed ในเดือน พ.ย. แต่พวกเขาไม่ทันรู้ตัว และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันแย่มาก

ก่อนหน้านี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาเตือนถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นกับนักลงทุนรายย่อยเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยบัญชีซื้อขายที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น พวกเขาเคยดึงหุ้นที่พวกเขาชื่นชอบกลับคืนมาหลายครั้ง และอาจทำเช่นนั้นได้อีกครั้ง

หุ้นมีมชื่อดังอย่าง AMC Entertainment ลดลงมา 78% ตั้งแต่ มิ.ย. 2021 และลดลงมาแล้ว 49% ในปีนี้ ขณะที่หุ้น Peloton Interactive ร่วงลงมา 90% จากจุดสูงสุด

ตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ตะกร้าหุ้นมีมที่เหล่านักลงทุนรายย่อยชื่นชอบพุ่งขึ้นกว่าเท่าตัว แต่ในปีนี้กลับลดลงไป 32% มากกว่าการร่วงลงของดัชนี S&P 500 ถึง 2 เท่า

นี่เป็นการล่มสลายครั้งใหญ่จากปี 2021 ที่เหล่านักลงทุนรายย่อยรวมตัวกันใน WallStreetBets ของ Reddit เพื่อต่อสู้กับนักลงทุนสถาบันด้วยการซื้อหุ้นที่เหล่าเฮดจ์ฟันด์ชอร์ตไว้

“สำหรับนักลงทุนที่มองหาสัญญาณจุดต่ำสุดของตลาด พฤติกรรมของนักลงทุนรายย่อยเป็นสิ่งที่ต้องจับตา” Christopher Metli นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley กล่าว

Christopher Metli เสริมว่า การยอมแพ้แบบดั้งเดิมสังเกตได้โดยการลดสัดส่วนการลงทุนอย่างรวดเร็วของเฮดจ์ฟันด์ร่วมกับกลยุทธ์มหภาคเชิงระบบในเวลาที่โพซิชั่นเบาบาง แต่การลดความเสี่ยงในครั้งถัดไปมีแนวโน้มที่จะค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น โดยจะมาจากทั้งผู้จัดการสินทรัพย์ นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อย ดังนั้นแนวโน้มจะเกิดช้ากว่า และการหาจุดต่ำสุดอย่างแม่นยำนั้นยากขึ้นไปอีก

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-05-08/day-trader-army-loses-all-the-money-it-made-in-meme-stock-era?sref=e4t2werz

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน