News Update: นโยบายโควิดทำผู้นำจีนขัดแย้งกันเอง นายกฯ กังวลผลกระทบเศรษฐกิจ แต่ปธน. ยังยึดมั่น ‘โควิดเป็นศูนย์’

หรือว่าผู้นำจีนกำลังขัดแย้งกันเอง? เมื่อ 2 ผู้นำเห็นต่างในการคุมโควิด นายกฯ จีน ‘หลี่ เค่อเฉียง’ กังวลผลกระทบต่อการจ้างงาน แต่ ปธน. จีน ‘สี จิ้นผิง’ ยังคงยึดมั่นกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์

ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ผู้นำสูงสุดของจีนกำลังถูกจับตา นอกจากจะถูกมองว่าเป็นคู่แข่งกันเพื่อแย่งอำนาจสูงสุดแล้ว มุมมองนโยบายของทั้งคู่ยังต่างกันมาก โดยสี จิ้นผิง เป็นตัวแทนฝั่งอุดมการณ์ ขณะที่หลี่ เค่อเฉียง เป็นตัวแทนฝั่งนักวิชาการดั้งเดิม

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ คณะกรรมการประจำโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีทั้งหลี่ เค่อเฉียง และสี จิ้นผิง เพิ่งออกโรงเตือนพลเมืองจีนว่า อย่าตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายคุมโควิด โดยไม่ได้พูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจเลย

แต่ล่าสุด (7 พ.ค.) หลี่ เค่อเฉียง เน้นย้ำถึงตัวเลขการว่างงานเดือน มี.ค. ที่เพิ่มขึ้นเป็น 5.8% สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ค. 2020 โดยเขามองว่า การจ้างงานที่มีเสถียรภาพนั้นมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คน และยังเป็นกำลังสนับสนุนหลักของเศรษฐกิจ

ตัวเลขการว่างงานเป็นหัวข้อที่หลี่ เค่อเฉียง หยิบยกมาพูดถึงเป็นประจำ และเคยจุดประเด็นว่า จีนต้องเตรียมนโยบายสนับสนุนเพื่อรองรับผู้หางานใหม่ในเมืองที่มีมากถึง 16 ล้านคนในปี 2020

อย่างไรก็ตาม ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ยังคงยึดมั่นกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์

ในเวลาที่โลกส่วนใหญ่พยายามกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ ‘สี จิ้นผิง’ ต้องการแสดงความสำเร็จของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ เพื่อเป็นหลักฐานว่ารูปแบบการปกครองของจีนนั้นเหนือกว่าระบอบประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯ หรือยุโรป

สัญญาณความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่มีมาตลอด ในการประชุมเดือน มี.ค. หลี่ เค่อเฉียง ประกาศว่าจะไม่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อในปีหน้า หลังพรรคคอมมิวนิสต์จีนเตรียมขยายอำนาจแก่สี จิ้นผิง

Richard McGregor ผู้เขียนหนังสือ The Party: The Secret World of China’s Communist Rulers. กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนที่จะบอกว่าทั้งคู่ทะเลาะกัน แต่คำพูดของพวกเขาสะท้อนถึงมุมมองที่ต่างกันเกี่ยวกับโควิดและผลกระทบ รัฐบาลจีนต้องหารือกันว่า การล็อกดาวน์เพิ่มเติมนั้นคุ้มกับความเสียหายทางเศรษฐกิจหรือไม่

ขณะที่ Andy Chen จาก Trivium China แนะว่า หลี่ เค่อเฉียง ในฐานะนายกฯ และหัวหน้ารัฐบาลควรจะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ ขณะที่ สี จิ้นผิง ในฐานะผู้นำพรรคก็ควรทำหน้าที่เป็นผู้นำทางการเมือง

ไม่ว่าผู้นำทั้งสองจะมองว่าคำสั่งของพวกเขาขัดแย้งกันหรือไม่ แต่มันทำให้เกิดความชุลมุนในหมู่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ต้องกำจัดโควิดไปพร้อมกับการทำให้เศรษฐกิจเติบโต โดยรายงานล่าสุดชี้ว่า รัฐบาลท้องถิ่นขาดแรงจูงใจในการรื้อสิ่งกีดขวางบนถนนที่ติดตั้งบนทางหลวงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-05-10/mixed-messages-from-top-china-leaders-feed-speculation-of-split?sref=e4t2werz

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน