News Update: 'ไบเดน' หารือ 'สี' สามชั่วโมง พบกันครั้งแรก ถกหลายประเด็นร้อน สหรัฐฯ ย้ำ ไม่ทำสงครามเย็นกับจีน

พบกันครั้งแรก ‘ไบเดน’ หารือ ‘สี’ สามชั่วโมง โดยการหารือกันครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอด G-20 ที่อินโดนีเซีย ท่ามกลางความหวังว่ามหาอำนาจทั้งสองจะลดความตึงเครียดระหว่างกัน

รายงานระบุว่า ปธน.โจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าวกับปธน. สี จิ้นผิงของจีน ว่าทั้งคู่ต่างมีความรับผิดชอบในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดเเย้งกันในฐานะประเทศมหาอำนาจ โดยทางสหรัฐฯ ย้ำว่า จะไม่เกิดสงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ ก่อนการหารือกันแบบตัวต่อตัวระหว่างผู้นำทั้งสอง ซึ่งเป็นการพบกันเเบบซึ่งหน้าครั้งเเรกตั้งเเต่ไบเดนดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้มและจับมือทักทายกันอย่างอบอุ่น โดยไบเดนกล่าวกับ สี จิ้นผิงว่า ‘ดีใจอย่างมากที่ได้พบคุณ’ ก่อนจะหารือกันสามชั่วโมงเศษ

ปธน.โจ ไบเดน ยกประเด็นร้อนหลายเรื่องเข้าหารือ ซึ่งรวมถึง จุดยืนของสหรัฐฯ ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำเชิงบังคับและเเข็งกร้าวขึ้นของจีนต่อไต้หวัน นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในมณฑลซินเจียงและฮ่องกง รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนโดยรวม ตลอดจนการปฏิบัติของจีนด้านเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด

ในเรื่องของยูเครน สื่อของจีนรายงานว่า สี จิ้นผิง บอกว่าเขากังวลมากเรื่องสถานการณ์การสู้รบในยูเครนที่ยืดเยื้อมาหลายเดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ จีนได้ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียยับยั้งชั่งใจแต่ก็ไม่ได้ถึงกับประณามรัสเซียซึ่งเป็นคู่ค้าของตน

โดยไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในฐานะผู้นำของประเทศ เรามีความรับผิดชอบร่วมกัน ที่จะเเสดงให้เห็นว่าจีนและสหรัฐฯ สามารถบริหารจัดการความเเตกต่างของกันละกันได้ เเละป้องกันมิให้การเเข่งขันกลายเป็นความขัดเเย้ง รวมถึงหาทางทำงานร่วมกันในเรื่องที่เร่งด่วนของโลก

ขณะที่สี จิ้นผิง กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯและจีนไม่เป็นไปตามที่ประชาคมโลกคาดหวัง ดังนั้นเราต้องเดินให้ถูกทางในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เราจำเป็นต้องหาทิศทางที่ถูกต้องในการมีความสัมพันธ์ทวิภาคีจากนี้ต่อไป และยกระดับความสัมพันธ์นี้ด้วยเช่นกัน โดยพร้อมที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อนำความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้กลับมาสู่แนวทางที่ควรจะเป็น

โจ ไบเดน และสี จิ้นผิง เคยหารือกัน 5 ครั้งผ่านโทรศัพท์และระบบออนไลน์ก่อนหน้าพบกันในครั้งนี้ ตั้งเเต่ไบเดนเป็นผู้นำสหรัฐฯ และไบเดนเคยพบกับสีในฐานะรองปปธน.มาเเล้วสมัยการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ของอดีตปธน.บารัค โอบามา

อ้างอิง:

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน