News Update: ทำไมคนญี่ปุ่นไม่นิยมซื้อบ้านมือสอง? จากปัญหาประชากรลด สู่ปัญหา ‘บ้านร้าง’ คาดปี 2023 มีมากกว่า 10 ล้านหลัง

จำนวนประชากรที่ลดลงอย่างต่อเนื่องกลายมาเป็นปัญหาเรื้อรังของ “ญี่ปุ่น” ที่ยังหาทางออกไม่ได้ ตอนนี้ญี่ปุ่นมีบ้านร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ทั่วประเทศ คาดว่าจะมีมากกว่า 10 ล้านหลังในปี 2023 และมากกว่า 20 ล้านหลังในปี 2038

🇯🇵ประชากรลด แต่ปริมาณที่อยู่อาศัยเพิ่ม กลายเป็นปัญหา ‘บ้านร้าง’

สถาบันวิจัยโนมูระคาดว่าปริมาณที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่น ปี 2023 จะเพิ่มขึ้นเป็น 65.46 ล้านยูนิต เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 62.41 ล้านยูนิตในปี 2018

ขณะที่สถาบันวิจัยประชากรและประกันสังคมแห่งชาติญี่ปุ่นประมาณการว่า ปี 2023 ญี่ปุ่นจะมีจำนวนครัวเรือนราว 54.19 ล้านครัวเรือน นั่นแปลว่าในปี 2023 จำนวนครัวเรือนญี่ปุ่นมีน้อยกว่าปริมาณที่อยู่อาศัยราว 11.27 ล้านยูนิต และโนมูระคาดว่าบ้านร้างในญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นถึง 23.03 ล้านหลัง ภายในปี 2038

🇯🇵ทำไมคนญี่ปุ่นเลือกซื้อบ้านใหม่แทนซื้อบ้านมือสอง?

ชาวญี่ปุ่นไม่นิยมซื้อบ้านมือสองเลย ส่งผลให้มีบ้านมือสองซื้อขายในตลาดญี่ปุ่นเพียง 14% ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับตลาดของสหราชอาณาจักรที่มีการขายบ้านมือสองในตลาดมากถึง 90% ส่วนสหรัฐฯ ซื้อขายกันสูงถึง 80%

จากการสำรวจในปี 2018 พบว่ามีบ้านเก่าราว 7 ล้านยูนิต จากทั้งหมด 53.6 ล้านยูนิตในญี่ปุ่น ที่ไม่มีความแข็งแรงเพียงพอต่อการรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และขณะเดียวกันบ้านเก่ามากถึง 34.5 ล้านยูนิตที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประหยัดพลังงาน

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่อุตสาหกรรมสร้างบ้านหลังใหม่ของญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าต่อแม้ว่าจำนวนประชากรจะหดตัว ขณะที่บ้านเก่าจำนวนมากถูกทิ้งร้างหลังเจ้าของเดิมเสียชีวิต การรื้อถอนจึงเป็นทางออกในการลดปริมาณบ้านร้างของญี่ปุ่น

🇯🇵ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีแก้ปัญหาบ้านร้าง

“อากิระ ไดโด” หัวหน้าที่ปรึกษาของโนมูระระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องหันมาส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญด้านการรื้อถอนบ้านมากขึ้น ในช่วงต้นปีนี้ รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งยังได้พิจารณาจัดเก็บภาษี เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของสินทรัพย์เร่งรื้อถอนบ้านที่ไร้ผู้อยู่อาศัย หลังจากที่บ้านร้างมากมายกลายเป็นแหล่งทรุดโทรมที่ทำลายความสวยงามของเมือง

อ้างอิง: https://www.prachachat.net/world-news/news-1047495 

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war