News Update: ไทยจ่อยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน 1 ต.ค. นี้ พร้อมยุบ ศบค. ปรับโควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง แต่ยังไม่เป็นโรคประจำถิ่น

1 ต.ค. นี้ ไทยเตรียมยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร และยุบ ศบค. ปรับโควิดเป็นโรคเฝ้าระวังที่ไม่อันตราย แต่ยังไม่เป็นโรคประจำถิ่น

สำนักข่าวประชาชาติรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค.) คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 11/2565 โดยศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข เสนอกรอบนโยบาย และแนวปฏิบัติ ในการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ภาวะ Post-pandemic

ภายใต้หลักการว่า เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโควิดอย่างปลอดภัย สามารถดำเนินชีวิตได้ปกติ และจะมีการยกเลิกพระราชกำหนดฉุกเฉินที่มีการประกาศบังคับใช้ควบคุมโรคติดต่อมาแล้ว 19 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2562 และยุบ-เปลี่ยนแปลงอำนาจของคณะกรรมการ ศบค.

พร้อมกันนี้ ได้กำหนดแนวปฏิบัติด้านต่างๆ ดังนี้

เดือนสิงหาคม: คงสถานการณ์ฉุกเฉิน และศบค. เป็นกลไกการจัดการ
เดือนกันยายน: คงสถานการณ์ฉุกเฉิน ปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง โดยมีศบค. + คกก.โรคติดต่อระดับชาติ เป็นกลไกการจัดการ
เดือนตุลาคม: ประกาศโรคระบาดเฉพาะพื้นที่ (เมื่อมีเหตุจำเป็น) EOC สธ. + คกก.โรคติดต่อระดับชาติ/จังหวัด/กทม. เป็นกลไกการบริหารจัดการ ยังไม่มีการกำหนดเรื่องพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉิน และการขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม: ประกาศโรคระบาดเฉพาะพื้นที่ (เมื่อมีเหตุจำเป็น) โดยมีคกก.โรคติดต่อจังหวัด/กทม. เป็นกลไกการจัดการ

ด้าน ศ.นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวก่อนการประชุม ศบค.ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยกเลิกแน่นอนในเดือนตุลาคม เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้เริ่มโอเคแล้ว คนไข้ในระบบวันละ 2,000 คน คนไข้ ATK วันละ 30,000 คน คาดการณ์ว่าคนไข้นอกระบบประมาณ 1-2 เท่า

ศ.นพ.อุดมกล่าวว่า ถ้าดูภาพรวมคนไข้ติดเชื้อประมาณ 6-7 หมื่นคน และอาจจะอยู่อย่างนี้สักเดือนหนึ่ง เพราะฉะนั้น 1 ต.ค.น่าจะเริ่มลง จึงคาดการณ์ว่า คนไข้จะต่ำ วันละพัน และตายวันละ 10 คน ก็จะเป็นโรคเฝ้าระวังในวันที่ 1 ต.ค.นี้ แต่ยังไม่เป็นโรคประจำถิ่น

อ้างอิง: https://www.prachachat.net/politics/news-1018943 

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war