‘เจอโรม พาวเวลล์’ ย้ำว่าการควบคุมเงินเฟ้อเป็นเรื่องสำคัญมากในตอนนี้ ดังนั้น Fed จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุมเดือน พ.ค.

ประธาน Fed มองว่า ถึงเวลาแล้วที่จะเคลื่อนไหวเชิงรุกเร็วขึ้นอีกนิด พร้อมกล่าวถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 25 bps ก่อนหน้านี้ว่าตอนนั้นเงินเฟ้อต่ำกว่าปัจจุบัน ดังนั้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น การขึ้นดอกเบี้ยจึงต้องเพิ่มขึ้นตาม

ความเคลื่อนไหวของพาวเวลล์เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าครั้งก่อนเพื่อควบคุมเงินเฟ้อซึ่งพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 97.5% ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 50 bps ในเดือน พ.ค.

ส่งผลให้เมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) ตลาดหุ้นปรับตัวลงมา นำโดยดัชนี Nasdaq ที่ร่วงลงมา 2.07% ด้านดัชนี S&P 500 ลดลง 1.48% และดัชนี Dow Jones ลดลง 1.05%

เป้าหมายของ Fed คือการทำให้อุปสงค์และอุปทานกลับมาสมดุลอีกครั้งโดยใช้เครื่องมือทางการเงิน รวมถึงควบคุมเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเกิดภาวะถดถอย ซึ่งมันเป็นเรื่องท้าทายมากและ Fed จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น

“มันเป็นเรื่องสำคัญมากในการฟื้นฟูเสถียรภาพราคา เพราะเศรษฐกิจจะทำงานไม่ได้หากไม่มีราคาไม่มีเสถียรภาพ” ประธาน Fed ย้ำ

ในวันเดียวกัน พาวเวลล์ได้พบปะกับ ‘พอล วอล์กเกอร์’ อดีตประธาน Fed ที่ต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อในทศวรรษที่ 1970 และ 1980 ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้ง โดยในปี 1980 วอล์กเกอร์ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากสุดเป็นประวัติการณ์จนอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอยู่ที่ระดับ 20% เพื่อจัดการกับเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับ 2 หลัก

“เขารู้ว่าเพื่อที่จะควบคุมเงินเฟ้อและฟื้นฟูเศรษฐกิจมันจำเป็นต้องทำแบบนั้น” พาวเวลล์กล่าวถึงวอล์กเกอร์

อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2022/04/21/powell-says-taming-inflation-absolutely-essential-and-50-basis-point-hike-on-the-table-for-may.html

——————-