News Update: Fed ขึ้นดอกเบี้ย 75 bps สู่ระดับ 3% - 3.25% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อจนถึงระดับ 4.6% พาวเวลล์ยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นไปได้

ธนาคารกลางสหรัฐฯ​ (Fed) ขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อจนถึงระดับ 4.6% เพื่อรับมือเงินเฟ้อ พร้อมเตือนภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นี่เป็นการขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 3% – 3.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 ผลจากความพยายามลดเงินเฟ้อที่ใกล้ระดับสูงสุดตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980

ประธาน Fed ‘เจอโรม พาวเวลล์’ กล่าวว่า ใจความสำคัญยังไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุม Jackson Hole ที่ระบุว่า คณะกรรมการ Fed กำลังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อลดเงินเฟ้อลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% และจะทำจนกว่าสำเร็จ

การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เริ่มต้นในเดือน มี.ค. จากระดับใกล้ 0% ซึ่งถือว่าเป็นการใช้นโยบายเข้มงวดที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เริ่มใช้การขึ้นดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือหลักในปี 1990 สถานการณ์ล่าสุดที่ใกล้เคียงคือในปี 1994 ที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยรวมแล้ว 2.25% และเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. ของปีถัดไป

นอกจากนี้ Fed ยังส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อไปจนถึงอัตราเป้าหมายปลายทาง (Terminal Rate) ที่ 4.6% ในปี 2023 นั่นหมายถึงการขึ้นดอกเบี้ย 25 bps ในปีหน้า แต่ยังจะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยลง

ขณะที่กราฟ Dot Plot ประมาณการการปรับอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่สำรวจความเห็นจากคณะกรรมการไม่ได้บ่งชี้ถึงการลดดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2024 นอกจากนี้ทาง Fed ได้เน้นยำในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปีหน้า

สำหรับการอัปเดตข้อมูลเศรษฐกิจรายไตรมาสนั้น Fed คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ในปี 2023 จาก 3.7% ในปัจจุบัน ซึ่งระดับการเพิ่มขึ้นขนาดนั้นมักมากับภาวะถดถอย

สำหรับประมาณการเศรษฐกิจ Fed คาดว่า การเติบโตของ GDP ชะลอตัวลงเหลือ 0.2% ในปีนี่ และจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีต่อๆ ไป สู่อัตราระยะยาวที่ 1.8% ลดลงจากประมาณการ 1.7% ในเดือน มิ.ย. หลังการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ติดลบใน 2 ไตรมาสติด ซึ่งถือว่าเป็นภาวะถดถอยทางเทคนิค

พาวเวลล์ยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเฟดต้องใช้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่ากระบวนการนี้จะนำไปสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ หรือหากเป็นเช่นนั้น ภาวะถดถอยจะมีนัยสำคัญเพียงใด

อ้างอิง:

https://www.cnbc.com/2022/09/21/fed-rate-hike-september-2022-.html 

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war