News Update: เปิดตัว NETA V ในไทย ลุ้นเงินอุดหนุนจากภาครัฐ เหลือ 5.49 แสนบาท จากราคาเต็ม 7.60 แสนบาท รถยนต์ไฟฟ้า 100% ชาร์จเต็มวิ่งได้ 384 กม.

NETA เปิดตัว NETA V เคาะราคาอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 549,000 บาท ซึ่งเป็นราคาหลังหักส่วนลดโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ตามมาตรการรัฐบาลและลดภาษีสรรพสามิตใหม่ จาก 8% เหลือ 2%

โดยราคาปกติอยู่ที่ 760,000 บาท รวมส่วนลดทั้งหมด 211,000 บาท เหลือ 549,000 บาท

สำหรับสเปคของรถยนต์ NETA V เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% มาพร้อมขุมพลัง 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร ระยะทางใช้งานต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 384 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-Ion Battery) ความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 พร้อมระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 และระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM

นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จกระแสสลับ AC Normal Charge จาก 0-100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง และการชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge จาก 30-80% ประมาณ 30 นาที

NETA V มีให้เลือก 5 สี คือ สีเขียว Cyan สีขาว White Storm สีชมพู Sakura Pink สีเทา Midnight Grey และสีฟ้า Sky Blue

อเล็กซ์ เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไปของ เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า หลังจากที่แนะนำ Neta V ได้รับการตอบรับที่ดีมียอดจองเข้ามามากถึง 3,000 คัน คาดว่ายอดจองจะทะลุถึง 7,000 คันได้ภายในปีนี้ โดยการส่งมอบจะเริ่มต้นในช่วงเดือน ก.ย. ส่งได้เดือนละ 1,000 คัน ส่วนเป้าหมายการขายปีแรกคือ 3,000 คัน และ 10,000 คันในปีต่อไป

โดย NETA เตรียมเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการ ภายในปีนี้ อย่างน้อย 24 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล รวมถึงในต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังสามารถเข้ารับบริการตรวจเช็คเบื้องต้นได้ที่ ศูนย์บริการ FIT AUTO ในปั๊มน้ำมัน ปตท.ได้อีกด้วย

NETA Thailand เป็นการเข้ามาลงทุนของบริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของประเทศจีน ซึ่งเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2557 ที่ผ่านมา ในรูปแบบของกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ ก่อนที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว และมียอดขายทั่วโลกมากกว่า 2 แสนคัน ในช่วงเวลา 4 ปี

ล่าสุด โฮซอน ต้องการที่จะเพิ่มบทบาทในเวทีโลก และมองหาโอกาสในการส่งออก และทำตลาดต่างประเทศ และเลือกไทยเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายตลาดที่สำคัญ โดยกำหนดให้ไทยเป็นศูนย์กลางการทำตลาดและส่งออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยมีเป้าหมายหลัก คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์

อ้างอิง: 

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war