News Update: พาณิชย์เผย ส่งออก ก.ย.โต 7.8% นำเข้าขยายตัว 15.6% ขาดดุลการค้า $853.2 ล้าน คาดไตรมาสสุดท้ายส่งออกขยายตัวดีต่อเนื่อง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือนก.ย.65 มีมูลค่า 24,919 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 4.3.-4.4% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 25,772 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เดือนก.ย. ไทยขาดดุลการค้า 853.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนในช่วง 9 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.65) มูลค่าการส่งออกรวม อยู่ที่ 221,366 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10.6% มูลค่าการนำเข้ารวม อยู่ที่ 236,351 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 20.7% ส่งผลให้ไทย 9 เดือน ไทยขาดดุลการค้า 14,985 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายจุรินทร์ ระบุว่า การส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยคาดว่าทั้งปีนี้ การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ราว 8% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4%

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้การส่งออกของไทยในเดือน ก.ย.65 ยังขยายตัวได้ดี มาจาก

1) กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชน เริ่มกลับสู่ภาวะปกติหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

2) ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เริ่มคลี่คลาย ทำให้การผลิตสินค้าที่มีชิปเป็นส่วนประกอบสามารถกลับมาผลิตได้ตามความต้องการของตลาด

3) เงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลดีต่อราคาส่งออกสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะสินค้าข้าว ซึ่งคาดว่าปีนี้จะสามารถส่งออกข้าวได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7 ล้านตัน

สำหรับการส่งออกสินค้าในเดือนก.ย. เมื่อแยกเป็นรายกลุ่ม จะพบว่า สินค้าเกษตร กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน โดยขยายตัว 2.7% ที่มูลค่า 2,005 ล้านเหรียญ สินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ดี คือ ไก่สด แช่เย็นแช่แข็ง และแปรรูป, ผลไม้แช่แข็ง และผลไม้แห้ง, ข้าว

สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 โดยขยายตัว 0.8% ที่มูลค่า 1,734 ล้านเหรียญ สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัวได้ดี คือ ไอศกรีม, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, น้ำตาลทราย และอาหารสัตว์เลี้ยง

สินค้าอุตสาหกรรม ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 เช่นกัน โดยขยายตัว 9.4% ที่มูลค่า 20,234 ล้านเหรียญ สินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดี คือ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ, เครื่องใช้สำหรับเดินทาง, รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศ

นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีน หลังจากที่นายสี จิ้นผิง ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนต่อไปอีกเป็นสมัยที่ 3 ว่า เชื่อว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีน จะยังคงดำเนินไปได้ดี และหากจีนผ่อนคลายมาตรการ Zero Covid ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศ โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าทั้งด้านการค้า และการท่องเที่ยวระหว่างกันให้ดีขึ้น

“การที่นายสี จิ้นผิง ยังเป็นผู้นำของจีนต่อไป ก็ยังมองไม่เห็นว่าจะมีสัญญาณอะไรที่เป็นลบ ทุกอย่างยังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่หากจีนผ่อนคลาย Zero Covid ก็จะทำให้เกิดความเชื่อมโยงการค้าไทยจีน ช่วยเพิ่มมูลค่าทั้งการค้า การท่องเที่ยวระหว่างกันได้ดีขึ้น” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ระบุ

นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงภาวะการค้าชายแดนในเดือนก.ย.65 ด้วยว่า มีมูลค่าการค้ารวม 90,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.3% โดยคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 57,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% โดยคู่ค้าชายแดนอันดับ 1 ของไทย คือ มาเลเซีย โดยไทยส่งออกไปเป็นมูลค่า 16,675 ล้านบาท รองลงมา อันดับ 2 กัมพูชา ไทยส่งออกไปเป็นมูลค่า 15,136 ล้านบาท อันดับ 3 ลาว ไทยส่งออกไปเป็นมูลค่า 12,947 ล้านบาท และอันดับ 4 เมียนมา ไทยส่งออกไปเป็นมูลค่า 12,259 ล้านบาท

ปัจจัยสนับสนุนการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 65 มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อมูลค่าราคาสินค้าของไทย รวมทั้งปัจจัยจากราคาน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้น และความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป้าหมายการส่งออกการค้าชายแดนและผ่านแดน ปี 65 ว่าจะขยายตัวได้ 5% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.08 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) สามารถทำได้แล้ว 71.5% ของเป้าหมาย

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน