News Update: กองทุนน้ำมันติดลบทะลุ 1 แสนล้านบาท ตรึงดีเซลที่ 35 บาท ไม่ไหวแล้ว เร่งหาเงิน 2.4 หมื่นล้านช่วยเหลือกองทุน

กองทุนน้ำมันติดลบทะลุ 1 แสนล้านแล้ว สกนช. ตั้งคณะทำงานชุดใหม่ เดินหน้าถกโรงกลั่นน้ำมัน 6 แห่ง หาเงิน 24,000 ล้านช่วยเหลือกองทุน

🛢️กองทุนน้ำมันคืออะไร? สำคัญอย่างไร?

“กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ถูกจัดตั้งขึ้นมาในปี 2516 ซึ่งเป็นปีที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศสูงขึ้นตาม

วัตถุประสงค์หลักของกองทุนคือ ป้องกันการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงรักษาเสถียรภาพราคาในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา

บทบาทสำคัญของกองทุนน้ำมันเห็นได้ชัดในช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันโลกปรับสูงขึ้นจนส่งผลต่อราคาน้ำมันในประเทศ โดยรัฐบาลจะมีมติใช้เงินจากกองทุนน้ำมันมาจ่ายชดเชย เพื่อตรึงราคาไม่ให้เพิ่มขึ้นเกินไป

🛢️ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับกองทุนน้ำมัน?

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 26 มิ.ย. ติดลบแล้ว 102,586 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 65,202 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 37,384 ล้านบาท

ปัจจัยหลักมาจากการอุดหนุนน้ำมันดีเซลที่ 11-12 บาทต่อลิตร เพื่อตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ รวมถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงผันผวนในระดับสูง โดยสกนช.ยอมรับว่า โอกาสที่ดีเซลจะปรับขึ้นเกิน 35 บาทต่อลิตรก็ย่อมมีสูงเช่นกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐจะมีการระบุว่าจะตรึงจนถึงสิ้นเดือนนี้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ประชุมเป็นสำคัญ

ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 30 ก.ย. ราคาดีเซลจะขยับตามตลาดโลกภายใต้นโยบายรัฐบาลที่เข้าช่วยเหลือ 50% จากส่วนเพิ่มราคาฐาน 35 บาทต่อลิตร

🛢️เตรียมหารือกับโรงกลั่นน้ำมัน 6 แห่ง หาเงินช่วยเหลือกองทุน

สำหรับความคืบหน้าในการหารือกับโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 6 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้ ซึ่งสกนช. ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันจากหลายภาคส่วน เพื่อใช้กฎระเบียบเรียกเก็บเงินที่จะไม่เป็นการขัดกฎหมายเนื่องจากกลุ่มโรงกลั่นจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดย 6 กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ประกอบด้วย

1) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP
2) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC
3) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC
4) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP
5) บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO
6) บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC

ประเด็นหลักของการหารือคือการดำเนินวิธีไหนที่จะขอความร่วมมือในการเก็บกำไรส่วนเกินจากการกลั่นน้ำมันในช่วงที่ราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนอาจจะมีกำไรมากกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่องให้กับสกนช.

สำหรับเม็ดเงินที่จะขอความร่วมมือ เบื้องต้นคาดว่าจะระดมความช่วยเหลือเดือนละ 7,000-8,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 เดือน รวม 24,000 ล้านบาท

อ้างอิง:

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน