จีนล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้รอบละครึ่งเมือง พร้อมสั่งตรวจโควิดให้เร็วที่สุด หลังการแพร่ระบาดทวีความรุนแรงขึ้นในศูนย์กลางการเงินของจีนอย่างเซี่ยงไฮ้ รวมถึงเมืองอื่นๆ

รัฐบาลจีนสั่งล็อกดาวน์ชาวเมืองเซี่ยงไฮ้ 25 ล้านคน เป็นเวลาทั้งหมด 9 วัน แบ่งเป็น 2 ช่วง โดยจะล็อกดาวน์ฝั่งตะวันออกในวันที่ 28 มี.ค. – 1 เม.ย. และฝั่งตะวันตกในวันที่ 1-5 เม.ย.

ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ ชาวเมืองเซี่ยงไฮ้จะถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกจากบ้าน ขนส่งสาธารณะและบริการเรียกรถจะหยุดให้บริการ และไม่สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวยกเว้นได้รับอนุญาตเท่านั้น

ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้กล่าวว่า การผลิตของ Tesla ในเซี่ยงไฮ้จะถูกระงับ ขณะที่ก่อนหน้านี้โรงงานของ Toyota และ Volkswagen ในมณฑลจี๋หลินก็ได้ถูกปิดตัวลงเป็นเวลาหลายสัปดาห์เช่นกัน

การติดเชื้อในเซี่ยงไฮ้พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้ทางการจีนจะทำการทดสอบอย่างกว้างขวางและบ่อยครั้ง โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่ในวันเสาร์ (26 มี.ค.) อยู่ที่ 2,676 ราย เพิ่มขึ้นถึง 18% จากวันก่อนหน้า และแซงหน้ามณฑลจี๋หลินที่เคยเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูงสุดของจีนไปแล้ว

การล็อกดาวน์ทั้งเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของจีนทั้ง 2 แห่ง ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลจีนเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการควบคุมไวรัส โดยการปิดพรมแดน การล็อกดาวน์ และการสั่งตรวจโควิดเป็นวงกว้างของรัฐบาลจีนอาจไม่ได้ผลเท่าแต่ก่อน ในเวลาที่ประเทศต่างๆ อยู่กับโควิดกันแล้ว

การประกาศล็อกดาวน์อย่างเร่งด่วนทำให้ชาวเซี่ยงไฮ้แห่กักตุนอาหารและของใช้ที่จำเป็นก่อนที่จะถึงเวลาเริ่มล็อกดาวน์ แม้ว่าทางการเซี่ยงไฮ้จะรับรองจะมีของใช้พื้นฐานอย่างเพียงพอ เช่น ไฟฟ้า เชื้อเพลิง และอาหาร ในช่วงล็อกดาวน์ก็ตาม

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จีนยังให้ความมั่นใจแก่ประชาชนถึงการรักษาพยาบาลฉุกเฉินในช่วงล็อกดาวน์ หลังมีรายงานพยาบาลคนหนึ่งเสียชีวิตด้วยโรคหอบหืด เนื่องจากแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเซี่ยงไฮ้ตะวันออกถูกปิดฆ่าเชื้อภายใต้กฎการควบคุมโควิด

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-03-27/shanghai-reports-2-676-local-covid-19-cases-for-march-26?sref=e4t2werz 

——————-