News Update: ‘สี จิ้นผิง’ ปรากฎตัวครั้งแรกแล้ว ออกงานสยบข่าวลือ พร้อมนายกฯ​ หลี่ เค่อเฉียง ด้านเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นใน ก.ย. ท่ามกลางความเสี่ยง

‘สี จิ้นผิง’ ปธน.จีน ปรากฏตัวออกงานครั้งแรกทางโทรทัศน์แล้ว หลังหายหน้าไปหลายวันจนเกิดข่าวลือสะพัด นับจากกลับจากการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่อุซเบกิสถาน เมื่อวันที่ 15-16 ก.ย.

ช่วงที่ ปธน. สี จิ้นผิง หายหน้าไปจากสาธารณชนได้เกิดข่าวลือต่างๆ นานา กระทั่งล่าสุด เมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ปธน. สี ได้ออกงานครั้งแรก โดยมีนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรี และผู้นำคนอื่นๆ ร่วมงานด้วย

ทั้งนี้ ตามกฎระเบียบควบคุมโรคของจีน นายสีต้องกักตัวเองนานหนึ่งสัปดาห์ หลังจากกลับมาจากต่างประเทศ

ด้วยรูปแบบการเมืองของจีนที่ไม่ได้เปิดเผยอย่างโปร่งใส ทำให้เกิดข่าวลืออยู่บ่อยครั้ง ไปจนถึงลือว่ามีความพยายามที่จะก่อรัฐประหาร อย่างที่รู้กันว่า ‘สี จิ้นผิง’ ครองอำนาจสูงสุดในจีนมาหลายสิบปีจนไม่มีผู้กล้าท้าทาย โดยปธน. สี ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ลบทิ้งข้อจำกัดที่ระบุวาระการเป็นผู้นำออกไป ทำให้เขาเป็นผู้นำไปได้ตลอดชีวิต

นอกจากประเด็นการเมืองในจีนแล้ว ยังมีประเด็นเศรษฐกิจที่ต้องจับตา

เศรษฐกิจจีนกำลังเริ่มฟื้นตัวในเดือน ก.ย. จากยอดขายบ้านและรถยนต์ในเมืองใหญ่ ที่ชดเชยอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอ และความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ลดลง

แนวโน้มของเศรษฐกิจจีนตามมาตรวัด 8 ตัวชี้วัดของ Bloomberg โดยรวมอยู่ระดับที่ 5 ในเดือน ก.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ส.ค. ซึ่งนี่ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจยังคงรักษาโมเมนตัมการฟื้นตัวไว้ได้

โดยในภาพรวม เศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 3 จากการหดตัวในช่วงเดือน เม.ย. – มิ.ย. แต่การฟื้นตัวดังกล่าวยังคงได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ การตกต่ำของตลาดที่อยู่อาศัย และการส่งออกที่ลดลง

ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจากสงครามยูเครน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และความผันผวนของตลาดสกุลเงิน จะยิ่งทำให้เกิดแรงกดดันด้านลบต่อเศรษฐกิจจีน

โดยเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) World Bank เปิดตัวรายงานเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ฉบับเดือน ต.ค. โดยได้หั่น GDP จีน เหลือเพียง 2.8% ในปีนี้ พร้อมเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยสู่ 3.1% และคาดการณ์ว่าเวียดนามจะกลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจด้วยการเติบโตของ GDP สูงถึง 7.2% ในปีนี้

อ้างอิง:

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war