News Update: ผู้เชี่ยวชาญเสียงแตก ต่อมุมมองหุ้นจีน HSBC, Nomura และ UBS ทยอยปรับมุมมองดีขึ้น แต่ฝั่งค้านเตือน ราคาไม่คุ้มความเสี่ยง

การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นจีนในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายสถาบันการเงินเริ่มมีมุมมองบวกมากขึ้น หลังหุ้นจีนกลายเป็นสินทรัพย์ที่ไม่น่าลงทุนในไตรมาสที่ผ่านมา

​​🇨🇳 หลายสถาบันการเงินปรับมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อหุ้นจีน

HSBC, Nomura และ UBS ทยอยปรับมุมมองบวกต่อหุ้นจีน ด้วยมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง และความกังวลจากกฎระเบียบต่างๆ ที่เริ่มลดลง ด้าน BlackRock และ Fidelity ยังคงลงทุนในหุ้นจีน ขณะที่ Morgan Stanley แนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้เก็งกำไรของจีน เพราะราคาตกต่ำเกินไปมาก ซึ่งเงินหยวนที่แข็งค่ายังคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักวิเคราะห์สกุลเงิน

เหตุผลสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองบวกในตอนนี้คือ หุ้นจีนคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้ หรือ หุ้นจีนไม่เคยถูกเท่านี้มาก่อน โดยพวกเขากำลังเดิมพันว่า ราคาหุ้นกำลังสะท้อนถึงการชะลอตัวของภาคอสังหาฯ การเติบโตของเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และการคุมเข้มบริษัทเอกชนของ ปธน.สี จิ้นผิง

การรีบาวด์ในช่วงเดือน ต.ค. ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าหุ้นจีนกำลังเข้าสู่เดือนที่ดีที่สุดของปี ในขณะที่ อัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้ความเสี่ยงสูงของจีนพุ่งสูงสุดในรอบ 18 เดือน และเงินหยวนกำลังแข็งค่าที่สุดในรอบ 5 ปี

Dale Nicholls ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของ Fidelity สถาบันการเงินรายแรกๆ ที่มีมุมมองบวกต่อหุ้นจีน กล่าวว่า ตอนนี้ความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน การลงทุนเป็นเรื่องของผลตอบแทนจากความเสี่ยง ซึ่งหุ้นจีนน่าลงทุนมากขึ้นหลังการเคลื่อนไหวล่าสุด

ล่าวุด (27 ต.ค.) HSBC ชี้ว่า นักลงทุนมีมุมมองลบมากเกินไปต่อตลาดหุ้นจีน ด้วยมูลค่าของหุ้นจีนที่อยู่ในระดับต่ำจะทำให้กองทุนทั่วโลกกลับไปลงทุนที่จีน และตอนนี้ดัชนี MSCI China มีมูลค่าซื้อขายเพียง 1.94 เท่าของมูลค่าทางบัญชี เทียบกับ 3 เท่าของดัชนีหุ้นโลก

​​🇨🇳 แม้ความเชื่อมั่นจะเพิ่มขึ้น แต่ความเสี่ยงในตลาดหุ้นจีนยังคงมีอยู่

แม้ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นจีนจะเพิ่มขึ้น แต่การผิดนัดชำระหนี้ที่ยังไม่คลี่คลาย รวมถึงความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ยังคุกรุ่น แสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อมโยงกันระหว่างความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความเสี่ยงในตลาด

มุมมองบวกที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นเกราะป้องกันการขาดทุน ซึ่งเห็นได้จากการปรับตัวลงอย่างแรงของหุ้นเทคโนโลยีจีนในปีนี้ ทั้งที่นักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองบวกต่อหุ้นจีนในรอบทศวรรษ จนทำให้ Tencent มีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาสั้นๆ

เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) นักลงทุนได้รับคำเตือนว่าหุ้นจีนสามารถผันผวนได้เร็วเพียงใด เมื่อดัชนี Hang Seng ปรับตัวลง 2.1% หลังความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ปะทุขึ้น จากทั้งประเด็นที่สหรัฐฯ เรียกร้องให้ไต้หวันมีบทบาทมากขึ้นใน UN รวมถึงการสั่งแบนบริษัทโทรคมนาคมของจีนในสหรัฐฯ

ตลาดหุ้นจีนยังคงมีความเสี่ยงอีกมากมาย ทั้งมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของจีนเพื่อจัดการกับการแพร่ระบาด ในขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังส่งสัญญาณชะลอตัว ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งพากันปรับลดประมาณการการเติบโตของ GDP จีน ทั้งในปีนี้และปีหน้า

🇨🇳 สถาบันการเงินส่วนหนึ่งยังมองว่าหุ้นจีนไม่น่าลงทุน

Citigroup กล่าวว่า ประเทศจีนไม่สนใจที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะกำลังมุ่งมั่นจัดการตลาดอสังหาฯ​ เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงิน ซึ่งนโยบายดังกล่าวทำให้ Evergrande และนักพัฒนาอสังหาฯ​ กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้ที่รุนแรงมากขึ้น

Peter Garnry จาก Saxo Bank ยังคงระมัดระวังและไม่เปลี่ยนมุมมองต่อตลาดหุ้นจีน โดยมองว่า มูลค่าหุ้นจีนไม่ได้ถูก หากพิจารณาจากความเสี่ยงทั้งในอสังหาฯ, ตราสารหนี้, ห่วงโซ่อุปทาน, สถานการณ์โควิด และที่สำคัญคือ นโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของปธน. สีจิ้นผิง ที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน

ดัชนี MSCI China ปรับตัวลงมาถึง 18% ในไตรมาสที่ 3 นโยบายของ สี จิ้นผิง ที่ควบคุมภาคเอกชนมากขึ้นทำให้หลายคนมองว่าหุ้นจีนอาจไม่สามารถลงทุนได้อีกต่อไป โดย Cathie Wood CEO ของ ARK เตือนว่า ตลาดหุ้นจีนจะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากมูลค่าเป็นเวลานาน ขณะที่ George Soros พ่อมดการลงทุน แนะนำให้นักลงทุนอยู่ห่างจากตลาดหุ้นจีน

นักวิเคราะห์สินเชื่อของ Morgan Stanley กล่าวว่า ความตื่นตระหนกส่งผลต่อตลาดสินเชื่ออย่างรุนแรง ผลตอบแทนของพันธบัตรเก็งกำไรพุ่งสูงขึ้นถึง 20% ในขณะที่ ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Credit Spread) กว้างเป็นประวัติการณ์

Gilbert Wong หัวหน้าวิจัยภูมิภาคเอเชียจาก Morgan Stanley กล่าวว่า แม้จะเริ่มเห็นการกลับมาของตลาดหุ้นจีนในเดือน ต.ค. แต่เราขอเตือนนักลงทุนอีกครั้งว่าการปรับตัวขึ้นครั้งนี้อาจเป็นเพียงแค่ระยะสั้น

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-10-27/bulls-pile-into-china-s-markets-just-as-risks-start-to-multiply?sref=e4t2werz

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน