ภาพรวมตลาดหุ้นโลกตลอดเดือนพฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมา เปรียบเสมือนการนั่งรถไฟเหาะตีลังกาที่เต็มไปด้วยความผันผวนทางอารมณ์ของนักลงทุน ตลาดเริ่มต้นเดือนด้วยความกังวลอย่างหนักจนกดดันให้ดัชนี Fear & Greed Index ร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 11 จุด ซึ่งอยู่ในโซน “ความกลัวขีดสุด” (Extreme Fear) โดยมีปัจจัยกดดันหลักมาจากกระแสความตื่นตระหนกในเรื่อง “ฟองสบู่ AI” ที่กลับมาหลอกหลอนตลาดอีกครั้ง ภายหลังจากที่มีข่าว SoftBank Group เทขายหุ้น Nvidia ออกมาจำนวนมหาศาล และตัวเลขการประกาศลดตำแหน่งงานของบริษัทในสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคมที่พุ่งสูงถึง 153,074 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2003 โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยีและคลังสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการนำ AI มาใช้แทนแรงงานคน สิ่งเหล่านี้กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงรุนแรงในช่วงครึ่งแรกของเดือน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนเริ่มพลิกฟื้นกลับมาสดใสได้ในช่วงปลายเดือน เมื่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Big Tech) กลับมาเป็นพระเอกอีกครั้ง ขานรับข่าวเชิงบวกจากการเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Gemini 3.0 ของ Google และความก้าวหน้าของ Alibaba Cloud ที่ช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับคืนมา

ในมิติของตัวเลขเศรษฐกิจมหภาค สหรัฐฯ ยังคงส่งสัญญาณที่ “ซับซ้อนแต่เป็นใจ” ต่อทิศทางดอกเบี้ย แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) จะออกมาสูงกว่าคาดที่ 119,000 ตำแหน่ง แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดกลับพบสัญญาณความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ คืออัตราการว่างงานที่ขยับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 4.4% ซึ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี ประกอบกับรายงาน Beige Book ของเฟดที่ชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะทรงตัวค่อนไปทางซึม ข้อมูลเหล่านี้ทำให้นักลงทุนตีความในลักษณะ “Bad News is Good News” กล่าวคือ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างพอเหมาะ (Soft Landing) จะเป็นแรงกดดันสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จำเป็นต้องตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ เพื่อประคองไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งมุมมองดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยพยุงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ฟื้นตัวกลับมาได้อีกครั้ง

นอกจากประเด็นเรื่องดอกเบี้ยแล้ว พัฒนาการด้านการเมืองระหว่างประเทศและการค้าโลกก็มีทิศทางที่ผ่อนคลายลง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอินเดีย ที่ใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกเพื่อจัดการเรื่องภาษีตอบโต้ ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นอินเดียและบรรยากาศการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ขณะที่สถานการณ์ในสหรัฐฯ เองก็คลี่คลายลงหลังจากสภาสามารถผ่านร่างงบประมาณเพื่อยุติเหตุการณ์ Government Shutdown ที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ถึง 43 วันลงได้สำเร็จ ทำให้ความเสี่ยงด้านการคลังระยะสั้นหมดไป ส่วนราคาสินค้าโภคภัณฑ์นั้น ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ที่ชะลอตัว ขณะที่ราคาทองคำยังคงทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถยืนเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่งตลอดทั้งเดือน

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในเดือนธันวาคม 2025 เราประเมินว่าตลาดหุ้นโลกยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ (Upside) จากแรงส่งของกระแสเงินทุนไหลเข้าในช่วงท้ายปี (Window Dressing) และความชัดเจนของทิศทางดอกเบี้ยเฟด เรายังคงแนะนำกลยุทธ์การจัดพอร์ตแบบสมดุล (Barbell Strategy) โดยฝั่งสินทรัพย์เติบโต (Growth) เราแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเมื่อราคาย่อตัว โดยเฉพาะบริษัทที่มีพื้นฐานแกร่งและมีนวัตกรรม AI ที่จับต้องได้ ส่วนในฝั่งสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง (Defensive) เรามองเห็นโอกาสที่น่าสนใจมากในหุ้นกลุ่ม Healthcare ที่ได้รับอานิสงส์ข่าวดีจากการที่รัฐบาลทรัมป์มีแนวโน้มจะต่ออายุเงินอุดหนุนโครงการ Obamacare ออกไปอีก 2 ปี ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ของกลุ่มโรงพยาบาลและประกันสุขภาพให้มีความมั่นคง นอกจากนี้ เรายังแนะนำให้จับตามองตลาดหุ้นอินเดียเป็นพิเศษ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มการเจรจาดีลการค้า และความคาดหวังว่าธนาคารกลางอินเดียจะผ่อนคลายนโยบายการเงินตามเฟด ซึ่งจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้กับตลาดหุ้นภูมิภาคอาเซียนในระยะถัดไป

ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง วันที่ 3 ธ.ค. 2025

สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Eastspring Dynamic Opportunities (ES-DO) สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >> แอปฯ Finnomena ผ่านคอมพิวเตอร์ >>  เว็บไซต์ Finnomena สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Eastspring Dynamic Opportunities (ES-DO) คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน

โปรดทราบ สำหรับลูกค้าฟินโนมีนาที่ลงทุนใน Finnomena Port และได้รับบทความนี้ แต่ยังไม่ได้รับอีเมลและ/หรือ Notificationในการแจ้งสัดส่วนเงินในการเข้าลงทุน อาจเกิดจาก

1) ท่านอยู่ระหว่างการทำรายการซื้อขายกองทุน ซึ่งทางฟินโนมีนาจะแจ้งเตือนอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการทำรายการซื้อขายเสร็จสิ้น

2) ท่านมีจำนวนเงินลงทุนต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่แนะนำ

หมายเหตุ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะรอรับการแจ้งเตือน ท่านสามารถดูรายละเอียดของพอร์ตการลงทุนที่แนะนำผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของฟินโนมีนาพร้อมปรับพอร์ตเข้าลงทุนได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @FINNOMENAPORT


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนการลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Tax Cal