Worapot

จากการทำงานเป็นนักวางแผนการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คำถามที่ได้รับมาบ่อยมากคือ ต้องการเกษียณเมื่ออายุ 40-45 ปี จะต้องทำยังงัย?? เชื่อว่าหลายๆท่านคงพอจะเดาได้นะครับว่าผู้ถามส่วนใหญ่จะอายุซักเท่าไหร่  ส่วนใหญ่ก็อยู่ในวัย 20 ต้น ถึง 20 ปลาย โดยตั้งเป้าจะทำงานอีกแค่ 10 ปีกว่าๆและก็จะเกษียณ

ก่อนอื่นผมต้องขอชื่นชมกับคนรุ่นใหม่เหล่านี้นะครับ ที่มีความฝันและ มีเป้าหมาย หรืออาจเป็นเพราะกระแสของคำพูดที่ว่า “อย่าใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อหาเงิน แต่จงใช้เวลาส่วนหนึ่งของชีวิตหาเงินเพื่อใช้ตลอดชีวิต” อย่างไรก็ตามผมก็ยังอดชื่นชมไม่ได้อยู่ดี ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีเป้าหมายแบบนี้   เรามาดูกันนะครับว่าเราจะทำเช่นไรเพื่อให้ฝันเป็นจริง

Ex. ไอศวรรยา อายุ 29 ปี ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานออฟฟิสแห่งหนึ่ง เงินเดือนประมาณ 30,000 บาท มีโบนัส 1 เดือน มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 20,000 บาท ต้องการเกษียณตอนอายุ 40 ปี และมีเงินใช้เดือนละ 20,000 บาท (ค่าเงิน ณ.วันที่เกษียณ)

ถ้าสมมติฐานว่าอายุขัยอยู่ที่ 85 ปี

 

age

หากสมมติฐานว่าเงินเฟ้อ 4% ผลตอบแทนหลังเกษียณ 6%  ไอศวรรยา ต้องมีเงินทุนเพื่อการเกษียณประมาณ 7,326,280 บาท

หากผลตอบแทนจากการลงทุนก่อนเกษียณเป็นดังนี้

ถ้าหาผลตอบแทนได้ 10% ต้องออมเงินปีละ 349,160 บาท

ถ้าหาผลตอบแทนได้ 8% ต้องออมเงินปีละ  398,113.23 บาท

ถ้าหาผลตอบแทนได้ 6% ต้องออมเงินปีละ 451,305.92 บาท

ในขณะที่ปัจจุบันมีความสามารถในการออมประมาณ 150,000 บาทต่อปี

ซึ่งแน่นอนว่ารายได้ในอนาคตจะเพิ่มขึ้น แต่รายจ่ายก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน แล้วจะทำยังงัยฝันที่วางไว้จะเป็นจริงได้

หลักการการวางแผนการเงินนั้น ผมพูดเสมอว่า ต้องเริ่มจากการทำ Wealth Creation นั่นหมายถึงการสร้างความมั่งคั่ง ซึ่งความมั่งคั่งจะเกิดก็ต่อเมื่อมีรายได้มากกว่ารายจ่าย ดังนั้นต้องเพิ่มรายได้ครับ คนรวยส่วนใหญ่ไม่ได้มีรายได้ทางเดียว ถ้าเคยอ่าน “Rich Dad, Poor Dad” ของ Robert Kiyosaki จะรู้ว่าวิธีการหารายได้ของคนส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 4 แบบ คือ

  1. เป็นพนักงานมีเงินเดือนประจำ
  2. เป็นนายตัวเอง เช่น Freelance หมอ หรือวิชาชีพต่างๆ
  3. เป็นเจ้าของธุรกิจที่มีระบบ
  4. เป็นนักลงทุน ใช้เงินทำงานให้

โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าไม่ว่าจะมีรายได้แบบไหน คุณสามารถประสบความสำเร็จทางการเงินได้ทั้งนั้น

ดังนั้นคนที่ฝันใหญ่อยากเกษียณเร็ว ต้องมี “ความเพียร” ครับ และต้องมีมากกว่าคนทั่วๆไปด้วย คุณต้องหารายได้มากกว่า 1 ทาง คุณอาจทำงานประจำ ในขณะเดียวกันอาจทำงานพิเศษเพิ่ม เช่น ขายของทางเน็ต ทำธุรกิจ MLM ขายประกัน ลงทุนในหุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรืออะไรก็ตามที่สร้างรายได้เพิ่มให้กับคุณ และขณะเดียวกันต้องระมัดระวังค่าใช้จ่ายไม่ให้สูงตามรายได้  หลายๆคนอาจจะบอกว่า “เหนื่อย ท้อ ยาก ลำบาก” จำไว้นะครับ คำพูดพวกนี้เป็นสิ่งต้องห้าม หากอยากสำเร็จห้ามพูดคำเหล่านี้  มีคนเคยสอนผมไว้ว่า  “ขยันยังไม่ค่อยจะสำเร็จ แล้วถ้าขี้เกียจจะสำเร็จได้ยังงัยล่ะ” เห็นด้วยมั้ยครับ  ขอให้ทุกท่านมีความขยันหมั่นเพียร เพื่อประสบความสำเร็จกันทุกท่านนะครับ

วรพจน์ เกตุอร่าม, CFP®