มีล้านแรก แล้วดีต่อใจจริงหรือไม่!!

อยากลองสร้างแผนเก็บเงิน 1 ล้านบาทของตัวเอง และก็ดูกองทุนแนะนำ คลิกไปลองเล่นกันได้เลย >> สร้างแผน 1st Million (ฟรี! ไม่เสียตัง)

นิตยสาร Business insider และ Forbes เคยวิเคราะห์ถึงผลบวกด้านความรู้สึกและอารมณ์ ของการมีเงินล้านแรกไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

1. ก้าวข้ามขีดกำจัดของตัวเอง  การสร้างล้านแรกได้สำเร็จ ทำให้เราเกิดพลังและความเชื่อมั่นในตนเองอย่างเปี่ยมล้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (แน่นอนสิ ก็มันเป็นครั้งแรก) และพลังที่ว่านี้ทำให้เรากล้าที่จะลองคิดลองทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

2. เพิ่มความแข็งแกร่งของจิตใจ   ทำการใหญ่ใจต้องนิ่งเป็นเรื่องจริง เพราะช่วงเวลาที่เรามุ่งมั่นสร้างเงินล้านแรกให้สำเร็จเป็นช่วงเวลาที่เราใช้ฝึกฝนและขัดเกลาจิตใจของเราเองให้แข็งแกร่งขึ้น และที่สำคัญกว่าคือเราได้สร้าง วินัยการลงทุน ให้กับตัวเองได้อย่างไม่รู้ตัว

3. ปลดล็อกความคิดให้เราคิดเป็น  ประสบการณ์และความสำเร็จในการสร้างล้านแรกช่วยเพิ่มทักษะด้านความคิด การวิเคราะห์และการแก้ปัญหาได้อย่างหลากหลายมิติ ทำให้เวลาเราเจออุปสรรคหรือเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม เราจะใช้ความคิดและทักษะในการแก้ปัญหาเพื่อรับมือได้อย่างดีขึ้น

นอกจากเรื่องจิตใจและความรู้สึก สิ่งที่ท่านจะได้รับผลบวกอย่างไม่รู้ตัว คือ ท่านจะถูก “ยกระดับสถานะสังคม” ขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เช่น ธนาคารที่ท่านใช้บริการอยู่ก็จะปรับสถานะท่านในระบบธนาคารให้สูงขึ้น ส่งผลให้ท่านได้รับบริการที่ไม่เคยเจอมาก่อนจะมีเงินล้าน โดยท่านอาจจะได้รับข้อเสนอปรับเพิ่มวงเงินบัตรเครดิต  ได้รับดอกเบี้ยเงินฝาก/เงินกู้พิเศษมากขึ้น  แล้วท่านก็จะมีเจ้าหน้าที่การตลาดของธนาคาร มานำเสนอกองทุนและประกันที่ท่านไม่เคยเจอมาก่อนเพราะมีขั้นต่ำค่อนข้างสูง (ข้อด้อยของผู้มีเงินล้านคือมีคนมารุมขายของเยอะ!!)

ไม่ใช่แค่ ธนาคารเท่านั้น ค่ายมือถือ ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ  ที่ปัจจุบันมักมีการจัดกลุ่มลูกค้าและการให้บริการแบบ Privileged โปรแกรม ที่ท่านก็จะได้รับการบริการและการดูแลในระดับที่ดีขึ้นเช่นกัน

หนทางไปสู่ล้านแรก!!

1stM (1st Million)  นั้นถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกๆ คน บนโจทย์สำคัญเพียงเป้าหมายเดียวคือ การมีล้านแรก (ให้เร็วที่สุด)  ส่วนถ้าท่านมีเป้าหมายอื่นๆ ด้วย เช่น เก็บเงินเพื่อศึกษาต่อ เพื่อลูก และเพื่อเกษียณ แนะนำแผน GOAL

1stM นั้นกำหนดขั้นต่ำการลงทุน (ก้อนแรก) ไว้เพียง 5,000 บาท เพื่อให้ใครๆ ก็เข้าถึงได้ เพราะเราเข้าใจดีว่าใครๆ ก็อยากมีเงินล้านแรกเอาไว้เป็นทุนเอาไปเริ่มต้นสิ่งใหม่ในชีวิตหรือเอาไปตามล่าความฝันที่อยากทำ (ล่าฝัน ก็ต้องใช้เงินนะเธอ)

ท่านอาจจะสงสัยได้ว่าแล้วทำไม 1stM ต้องแนะนำให้ตัดเงินไปลงทุนเป็นก้อนเท่าๆ กัน ทุกๆ เดือน (ซึ่งก็กำหนดไว้ต่ำมากเช่นกันคือ 2,500 บาทต่อเดือน) เราเรียกว่าการทำ DCA (Dollar Cost Averaging) หรือแปลเป็นไทยว่า การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน จริงๆ แล้วการทำ DCA นี่เป็นส่วนหัวใจสำคัญของแผนการลงทุนแบบ 1stM และ GOAL เนื่องจากข้อดีของการทยอยลงทุนแบบเก็บไปเรื่อยๆ ทุกๆ เดือนอย่างมีวินัยก็คือ ไม่ว่าหุ้นขึ้น (ราคาแพง) หรือหุ้นจะลง (ราคาถูก) เราก็จะเข้าไปลงทุนแบบทีละนิดๆ อย่างสม่ำเสมอ นั่นคือก็การถัวเฉลี่ยต้นทุนและกระจายความเสี่ยงให้เราไปถึงเป้าหนึ่งล้านแรกไปได้อย่างระมัดระวังและราบรื่นที่สุด

1stM ถูกกำหนดระดับความเสี่ยงที่แนะนำให้ลงทุนเริ่มจากระดับ 4 (ปานกลาง) ถึง 7 (สูง) ต่างจาก Goal ที่ให้เลือกได้จากระดับ 1 ไปถึง 7 สาเหตุเป็นเพราะว่า 1stM เราแนะนำลงทุนในหุ้นอย่างน้อย 50% (ความเสี่ยงระดับ 4) และไปได้ถึงสูงสุดที่ 80% (ความเสี่ยงระดับ 7)

ด้วยความเชื่อที่ว่า ล้านแรกยิ่งมีได้เร็วยิ่งเป็นผลดี (ควรมีหุ้นเยอะหน่อย-เสี่ยงเยอะขึ้นเพื่อไปให้ถึงเป้าได้เร็วขึ้น) และโดยมากแผนนี้เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างเนื้อสร้างตัว (คนอายุยังไม่มาก-สามารถลงทุนบนความเสี่ยงที่สูงกว่าได้) ก็เลยเป็นสาเหตุที่แผนนี้ไม่สามารถเลือกความเสี่ยงต่ำกว่าระดับ 4 ได้ การลงทุนหุ้นน้อยเกินไป (เสี่ยงน้อยเกิน) ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงเช่นกัน นั่นก็คือความเสี่ยงที่จะได้เงินล้านแรกไม่ทันการจะเอาไปต่อยอดสิ่งสำคัญที่ท่านอยากได้อยากทำในชีวิต เหมือนกัน

สุดท้ายความดีงามอีกอย่างของ 1stM คือ เราจะคอยติตดามอย่างใกล้ชิดและแจ้งเตือนนักลงทุนให้ปรับพอร์ตการลงทุน (ผ่าน Mobile application) ตลอดระยะเวลาการลงทุนและดูแลท่านไปจนกว่าจะถึงเส้นชัยล้านแรกด้วยกัน

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมและเริ่มสร้างแผน ได้ที่ https://www.finnomena.com/1stM/


คำเตือน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน |  ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน