(เงินล้าน) เคล็ดลับเงินล้านเพียง "หนึ่งเดียว" ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่หลายคนไม่รู้

หลายคนติดภาพ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เป็นมหาเศรษฐี  แต่หลายครั้งเราก็มักจะเจอว่าบัฟเฟตต์เชี่ยวชาญในด้านอื่น ๆ นอกจากการลงทุนเช่นกัน

ในสารคดีของ HBO ที่ชื่อ Becoming Warren Buffett ในปี 2017 บัฟเฟตต์ได้สอนเด็กนักเรียนไฮสคูลกลุ่มหนึ่ง เขาไม่ได้สอนเรื่องวิธีการทำเงินหรอก แต่เป็นวิธีการใช้ชีวิตที่ดี รวมถึงการเป็นคนที่ดีต่างหาก

บัฟเฟตต์มีบทเรียนหนึ่งที่ได้รับมาจากพ่อของเขา นั่นก็คือการมี “สิ่งชี้วัดภายใน” (Inner Scorecard) แทนที่จะเป็น “สิ่งชี้วัดภายนอก (Outer Scorecard) จริง ๆ แล้วทั้งคู่สามารถพาเราไปสู่ความสำเร็จได้ แต่บัฟเฟตต์บอกว่ามีแค่อันเดียวที่สำคัญกว่าอีกอันหนึ่ง ซึ่งสำหรับบัฟเฟตต์ก็คือสิ่งชี้วัดภายใน

“สิ่งมีชี้วัดภายใน” (Inner Scorecard) คืออะไรกันแน่?

มาเริ่มกันที่สิ่งชี้วัดภายนอก (Outer Scorecard) ก่อนดีกว่า สิ่งนี้คืออะไรที่หลาย ๆ คนปรารถนา เป็นสิ่งชี้วัดจากภายนอก เช่น ภาพลักษณ์ความสำเร็จ ชื่อเสียง ฯลฯ ส่วนใหญ่จะถูกขับเคลื่อนโดยความโลภของเรา และจะเป็นสิ่งที่ผู้คนมักใช้ตัดสินเรา

สิ่งชี้วัดภายใน (Inner Scorecard) ในทางตรงข้าม จะเป็นสิ่งที่อธิบายเนื้อแท้ของเรา ว่าเราเป็นใคร มีความเชื่ออะไร ต้องการอะไรกันแน่ จุดสำคัญคือแทนที่จะโฟกัสว่าคนอื่นจะคิดกับเราอย่างไร เราจะยึดมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้อง และเน้นการช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่า

วอร์เรน บัฟเฟตต์เลือกเส้นทางที่มุ่งเน้นสิ่งชี้วัดภายใน ประเด็นนี้คุณ Guy Spier ซึ่งเป็นนักลงทุนและผู้เขียนหนังสือ The Education of a Value Investor ได้ระบุไว้ว่า

“หนึ่งในคุณลักษณะของบัฟเฟตต์คือการที่เขาใช้ชีวิตตามสิ่งชี้วัดภายในอย่างชัดเจน มันไม่ใช่แค่การทำสิ่งที่เขาคิดว่าใช่ แต่ต้องเป็นสิ่งที่เขาคิดว่า “ใช่สำหรับเขา” ด้วย ไม่มีอะไรที่เขาแสร้งทำหรือถูกบังคับให้ทำเลย เขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะทำสิ่งที่ขัดต่อพื้นฐานหรือความเชื่อของตัวเอง”

หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เห็นภาพ งั้นเดี๋ยวยกตัวอย่างการใช้สิ่งชี้วัดภายในของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มาให้ดู 4 อันครับ

1. เริ่มจากการสอนตอนยังเด็ก

ในหนังสือ The Snowball: Warren Buffett and the Business of Life ของคุณ Alice Schroeder เธอเล่าว่าบัฟเฟตต์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกไว้ดังนี้

“ผมคิดว่าพ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับบทเรียนที่สอนลูกในวัยที่ยังเด็กมาก ๆ เพราะหากพ่อแม่ให้ความสำคัญกับการที่ “คนอื่นจะคิดอย่างไรกับเรา จนหลงลืมว่าเราควรทำตัวอย่างไร” ลูกก็จะกลายเป็นคนที่ใช้สิ่งชี้วัดภายนอก สำหรับพ่อของผมนั้น เขาเป็นคนที่ใช้สิ่งชี้วัดภายในแบบ 100% เลยครับ”

2. ดูให้ดีว่าเรามักจะสุงสิงกับใคร

ในฤดูร้อนหลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย บัฟเฟตต์ต้องไปเข้าค่ายหลายสัปดาห์ ประสบการณ์นั้นสอนให้เขาเข้าใจว่า ทำไมถึงควรสุงสิงกับคนที่เก่งกว่า โดยบัฟเฟตต์เล่าให้ฟังใน The Snowball ว่า
“เพื่อที่จะกลืนไปกับสังคมนั้นได้ สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงอ่านการ์ตูน ประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ผมเข้าไปที่นั่น ผมและคนอื่นๆ เอาแต่อ่านหนังสือการ์ตูนกัน คลังคำศัพท์ของผมหดหายไปมาก ผมได้เรียนรู้ว่ามันคุ้มค่าที่จะสุงสิงกับคนที่เก่งกว่าเพราะเราจะได้พัฒนาขึ้น และถ้าคุณสุงสิงกับคนที่ทำตัวแย่กว่าคุณ ไม่นานหรอกคุณก็จะไถลลื่นลงไป”
จะเห็นได้ว่า ถ้าเราไหลไปตามคนหมู่มาก เพียงเพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา โดยที่พวกเขานั้นไม่ได้เก่งกว่าหรืออาจจะด้อยกว่าเราด้วยซ้ำ เราก็จะไม่ได้พัฒนาตัวเอง เราต้องกล้าที่จะโดดเด่นและแตกต่าง ค้นหาให้เจอว่าตัวเองอยากจะเก่งอะไร แล้วไปสุงสิงกับคนที่เก่งกว่าในเรื่องนั้น ๆ

3. อย่าลืมกฏ 2 ข้อที่สำคัญที่สุดสำหรับการลงทุน

สิ่งชี้วัดภายในที่บ่งบอกถึงปรัชญาการลงทุนของบัฟเฟตต์นั้นมีสั้น ๆ ง่าย ๆ แค่สองข้อ
“ข้อ 1 คือ ห้ามขาดทุน ข้อที่ 2 คือ อย่าลืมข้อที่ 1”
สิ่งที่บัฟเฟตต์ยึดมั่นมาตลอดก็คือ Mindset ของเขา นั่นคือการใช้วิธีลงทุนที่สมเหตุสมผล อธิบายให้เห็นภาพขึ้นก็คือการทำการบ้านก่อน การหาบริษัทที่ยั่งยืนและมีชื่อเสียงดี ไม่ทำตัวเหลาะแหละหรือมองการลงทุนเป็นการพนัน บัฟเฟตต์ไม่เคยเตรียมตัวลงทุนเพื่อที่จะขาดทุน พวกเราเองก็ควรจะเป็นอย่างนั้นเช่นกัน

4. อย่าวอกแวกออกจากสิ่งที่มีความหมายที่สุดสำหรับเรา

ความสำเร็จของบัฟเฟตต์นั้นนอกจากจะมาจาก “สิ่งที่เขาทำ” แล้ว ยังหมายรวมถึง “สิ่งที่เขาไม่ได้ทำด้วย” แม้ว่าจะมีความคาดหวังต่อตัวเขามากมาย แต่บัฟเฟตต์ก็ได้เรียนรู้มานานแล้วว่าสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดคือ “เวลา” และเขาก็เชี่ยวชาญในการตั้งขอบเขตให้กับตัวเอง
และนี่คือ…คำพูดจากบัฟเฟตต์ซึ่งเป็นบทเรียนชีวิตที่มีพลังมาก
“ความแตกต่างระหว่างผู้ที่ประสบความสำเร็จ กับผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ก็คือ คนที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ นั้นพูดปฏิเสธเกือบ ๆ ทุกเรื่อง”
คำแนะนำนี้หมายความถึงสิ่งชี้วัดภายในเลยละ เราควรต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเราควรมุ่งมั่นทำอะไรเพื่อทำให้ชีวิตเรียบง่ายขึ้น นั่นหมายความถึงการพูดปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสิ่งไม่สำคัญซึ่งจะบินมาหาเราทุกวัน และไปโฟกัสกับการตอบรับในสิ่งที่สำคัญกับเราเพียงไม่กี่สิ่งแทนต่างหาก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ “สิ่งชี้วัดภายใน” ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญสุดก็คือตัวเราต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเราต้องการอะไร เราชอบอะไร สิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องคืออะไร หาจุดยืนของตัวเองให้เจอ แล้วดำเนินการตามนั้น ไม่ไหลไปตามกระแสหรือความคิดของคนหมู่มาก หรือสนใจสายตาของคนอื่นมากเกินไป เราก็จะเจอหนทางการทำเงินที่เหมาะกับเราจริงๆ
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.inc.com/

แผนการเงินที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งชี้วัดภายในของหลาย ๆ คน
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีเป้าหมายนี้
ก็สร้างแผนลงทุนในกองทุนรวมด้วยแอป LINE ได้ง่ายๆ เลยผ่านมือถือ คลิก!
https://www.finnomena.com/line/intro

iran-israel-war