ในปัจจุบันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงโลก ในแง่ของการลงทุนนั้น ผู้ลงทุนควรติดตามแนวโน้มการลงทุนที่จะเกิดขึ้น มีความรู้ความเข้าใจ และมองหาธุรกิจที่จะสร้างโอกาสให้เกิดผลกำไรในอนาคต

กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อินโนเวชั่น เอคควิตี้ ฟันด์ หรือ ABINNO เฟ้นหาหุ้นนวัตกรรมที่แตกต่าง เพื่ออนาคตที่ดีกว่า โดยลงทุนในหุ้นนวัตกรรมแห่งอนาคตทั่วโลก ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้น ผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ Aberdeen Standard SICAV I – Global Innovation Equity Fund มาดูกันว่า กองทุนตัวใหม่ล่าสุดจากอเบอร์ดีนจะมีความน่าสนใจขนาดไหน ไปดูกันเลย

ทำไมถึงต้องเลือกการลงทุนในนวัตกรรม

เพราะนวัตกรรมคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะกำหนดโอกาสการเติบโตของธีมการลงทุนในอนาคต เริ่มตั้งแต่โลกของเรามีการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมขึ้น ย้อนไปถึงยุคพลังงานน้ำ หรือในช่วงปี 1785 และได้มีการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน สังเกตว่า คลื่นลูกที่ 1 หรือ 1^st wave ไปจนถึงคลื่นลูกที่ 6 หรือ 6^th wave อันเป็นยุคปัจจุบัน ระยะเวลาของการพัฒนานวัตกรรมนั้น ใช้เวลาน้อยลงเรื่อย ๆ จากการใช้ระยะเวลามากถึง 50 – 60 ปี ในการพัฒนานวัตกรรมแต่ละช่วงยุคสมัย ได้มีการย่นระยะเวลาน้อยลงเรื่อย ๆ ในฐานะผู้ลงทุนแล้ว เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนในการค้นหาประเภทธุรกิจซึ่งจะเป็นผู้ชนะในอนาคต และควรเลือกลงทุนในหุ้นหรือ
ในธุรกิจประเภทใดที่สามารถตอบโจทย์กับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากระยะเวลาการพัฒนานวัตกรรมที่ใช้เวลาน้อยลงแล้ว อัตราการนำนวัตกรรมนั้น ๆ ไปใช้นั้น ก็มีจำนวนสูงขึ้นด้วย สังเกตได้จากความชันของกราฟที่มีการนำนวัตกรรมไปใช้ในช่วงปี 2010 จะเห็นได้ว่า ความชันของกราฟนั้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ประเภทใดเกิดขึ้น อัตราการนำไปใช้นั้น ก็จะสูงขึ้นเช่นกัน

ปัจจุบัน โลกกำลังอยู่ในคลื่นลูกที่ 6 หรือ 6^th Wave ซึ่งอยู่ในช่วงปี 2020 เป็นต้นไป โดยจะมีนวัตกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีอัตโนมัติ วิชาการหุ่นยนต์ การแปลงข้อมูลสู่ดิจิทัล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ทางอเบอร์ดีนเองได้มีการมองหานวัตกรรมที่แตกต่าง โดยการเฟ้นหาบริษัทที่กำลังจะเติบโตและเป็นผู้ชนะในอนาคต

ทำความรู้จักกับกองทุน ABINNO

• มีกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรุก เฟ้นหาหุ้นแบบ bottom – up และลงทุนทั่วโลกในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาวอย่างมั่นคง คัดสรรหุ้นเด่น และเลือกลงทุนหุ้นเพียง 30 – 50 บริษัท
• บริหารจัดการโดยการค้นคว้าวิจัยปัจจัยพื้นฐาน มุ่งเน้นการลงทุนแบบระยะยาว (long term approach) มีการซื้อขายหุ้นในพอร์ตต่ำ ลงทุนครอบคลุมหุ้นทุกขนาด ให้ความสำคัญต่อการวิเคราะห์ ESG ในการประเมินมูลค่าบริษัทในอนาคต
• จุดมุ่งหมายคือ พอร์ตการลงทุนแบบเชิงรุกที่แตกต่าง และให้ความสำคัญกับการคัดสรรหุ้น

กองทุนหลักเลือกลงทุนในหุ้นนวัตกรรมที่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตในอนาคต โดยมีกุญแจสำคัญคือ หุ้นที่มีนัยสำคัญที่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ในอนาคต ซึ่งประกอบไปด้วย 5 เสาหลัก ดังนี้

• How we live นวัตกรรมที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตให้ดีขึ้น
• How we make นวัตกรรมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
• How we save & spend นวัตกรรมที่ช่วยให้การเก็บออมและจับจ่ายใช้สอยเป็นเรื่องง่าย
• How we work นวัตกรรมที่ช่วยให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพ
• How we play นวัตกรรมสร้างประสบการณ์ชีวิตในรูปแบบใหม่

ตัวอย่างหุ้นในกองทุน ABINNO

• AbCellera บริษัทคิดค้นการพัฒนายาจากประเทศแคนาดา โดยทางบริษัทได้มีการนำเอาแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาเป็นตัวช่วยในการพัฒนายาให้มีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนสามารถพัฒนาตัวยาได้เร็วขึ้น และส่งเสริมให้บริษัทดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยมี Market Cap อยู่ที่ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และโอกาสการเติบโตของตลาดแอนติบอดีภายในปี พ.ศ.2568 จะมีมูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ปัจจุบัน AbCellera มีโครงการพัฒนายาอยู่ในมือ 140 โครงการ และคาดว่าจะได้รับค่าลิขสิทธิ์ 3 – 5 % สำหรับยาที่ออกสู่ตลาด

• Coursera เป็นแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์จากประเทศสหรัฐอเมริกา มี Market Cap อยู่ที่
  2 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีวิสัยทัศน์ในการมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตให้กับผู้เรียนทั่วโลก เป็นนวัตกรรมที่ช่วยเสริมสร้างทักษะความรู้อย่างแท้จริง ให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงหลักสูตรออนไลน์และปริญญาจากมหาวิทยาลัยและบริษัทชั้นนำ ซึ่งสามารถเลือกเรียนได้ทุกที่ ทุกช่วงเวลา โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและพันธมิตรในอุตสาหกรรมมากกว่า 200 ราย ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเรียน 87 ล้านคน

• Kornit Digital อุตสาหกรรมสิ่งทอจากประเทศอิสราเอล มี Market Cap อยู่ที่ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการลดต้นทุนการผลิต และลดการใช้น้ำจากการผลิตสิ่งทอ โดยหลีกเลี่ยงการผลิตที่มากเกินความจำเป็นซึ่งส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนำไปสู่การผลิตที่มีความยั่งยืน (Sustainability)

• adyen แพลตฟอร์มการชำระเงินจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีการพัฒนานวัตกรรมให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่ายจากการทำธุรกรรมผ่านทางช่องทางเดียวเท่านั้น เพื่อลดการซ้ำซ้อนของข้อมูล นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการชำระเงินแล้ว ยังช่วยจัดการกับความเสี่ยง การบริหารจัดการรายได้ และมีระบบที่สามารถจัดเก็บฐานข้อมูลการชำระเงินของลูกค้าได้อีกด้วย โดยมี Market Cap อยู่ที่เก้าหมื่นแปดพันล้านเหรียญสหรัฐ

ภาพรวมของพอร์ตการลงทุน

• กองทุนหลักลงทุนครอบคลุมหุ้นทุกขนาด โดยผสมผสานระหว่างหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก จึงทำให้ไม่พลาดโอกาสลงทุนในหุ้นระยะเพิ่งเริ่มต้นที่กำลังเติบโตเร็ว ไปพร้อมกับลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่เติบโตอย่างมั่นคง
• Portfolio ของกองทุน ABINNO มีความสมดุลในแง่ของการลงทุนในบริษัททั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยแบ่งเป็นสัดส่วน 60 : 40 ซึ่งจะลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ 60 % และลงทุนในบริษัทขนาดกลาง – เล็ก 40%
• มีการลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวน 4% รองลงมาคือ ประเทศอิสราเอล 9.8% เยอรมัน 9.2% เนเธอร์แลนด์ 6.2% ไต้หวัน 5.0% (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2021)

มีการแบ่งสัดส่วนประเภทการลงทุนเป็น เทคโนโลยี 27.4% อุตสาหกรรม 23.2% สาธารณสุข 18.4%  ธุรกิจด้านบริการ 9.2% (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2021)  สรุปจุดเด่นของกองทุน ABINNO  

• Diversified ลดความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัว มีการกระจายการลงทุนในหลาย ๆ ประเทศ กระจายลงทุนหลากหลายธีมนวัตกรรมและประเภทธุรกิจ ครอบคลุมหุ้นทุกขนาด ทั้งตลาดเกิดใหม่และตลาดพัฒนาแล้ว
• Disruptive ลงทุนในบริษัทนวัตกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม มีความได้เปรียบในการแข่งขันและมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

• Differential กลยุทธ์คัดสรรหุ้นมีความโดดเด่นด้วยพอร์ตลงทุนที่แตกต่าง โดยปัจจุบันให้น้ำหนักหุ้นสหรัฐฯ น้อยกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด (ณ 31 ธันวาคม 2021 กองทุนหลักลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่ 4% น้อยกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัดที่ 61.31%) เนื่องจากมีการศึกษาว่า หากเทียบอัตราการเติบโตทางด้านนวัตกรรมแล้ว ประเทศอิสราเอลมีการเติบโตทางด้านนวัตกรรมที่มากกว่าสหรัฐ ฯ ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ว่า มีการลงทุนในประเทศอิสราเอลรองลงมา และให้น้ำหนักหุ้นสหรัฐฯ น้อยกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด

นอกจากนี้ ยังมีวิสัยทัศน์ต่อการลงทุนในระยะยาว และมีผลลัพธ์ด้าน ESG ที่น่าพึงพอใจ โดยกองทุน ABINNO อยู่ในระดับ A

ความเสี่ยงของกองทุน

สูง (ระดับความเสี่ยง 6 )

กองทุน ABINNO จะมีการ IPO ในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม 2565 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด  หากต้องการ จอง IPO สามารถติดต่อได้ที่ผู้สนับสนุนการขาย หรือผู้ดูแลบัญชีของท่าน
Line : @abrdn_th หรือติดต่อแผนกลูกค้าสัมพันธ์ : 02-352-3388 หรือ Email: client.services.th@abrdn.com

สนใจศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://bit.ly/ABINNOFINNOMENA

คำเตือน

• ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
• ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
• การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
• กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน
• ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม