ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่า ตัวเลขในพอร์ตการลงทุนมีการปรับลดลงไป และเข้าสู่สภาวะ “พอร์ตแดง” หรือ “ติดลบ” กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งนักลงทุนอาจเกิดความสงสัยว่า ในภาวะเช่นนี้ นับเป็นจังหวะที่สามารถเข้าลงทุนใหม่ได้แล้วหรือยัง หรืออาจจะต้องรอให้ตลาดมีความเสถียรมากกว่านี้ ความไม่แน่นอนของตลาดอาจก่อให้เกิดความไม่มั่นใจแก่นักลงทุน และเกิดความลังเลใจว่าจะลงทุนดีหรือไม่

มาทำความรู้จักกับกองทุน AFMOAT-H จาก บลจ. ทาลิส ที่เปรียบเสมือนเป็นป้อมปราการ และมีความทนทานต่อทุกสภาวะของตลาด ในตอนนี้ที่สถานการณ์ต่าง ๆ เข้ามารุมเร้าราวกับถูกโจมตีรอบทิศทาง ส่งผลให้ภาพรวมของการลงทุนมีความกดดันอย่างหนัก ป้อมปราการนี้ยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่หรือไม่ ติดตามได้ในบทความนี้

สถานการณ์ของตลาดในฝั่งของ Growth Stock และ Value Stock ในมุมมองของ ทาลิส

สถานการณ์ปีนี้ของตลาดโลกมีความเสี่ยงหลัก ๆ คือ ปัญหาในเรื่องของเงินเฟ้อ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2021 และมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน และราคาสินค้าเกษตรเป็นหลัก ทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อยังคงอยู่ และผู้คนมีความกังวลว่า เงินเฟ้อจะยืดเยื้อต่อไปหรือไม่

ทางด้านสหรัฐฯ เอง เกรงว่า เมื่อเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ไม่มีเสถียรภาพ ทางธนาคารกลางหรือ FED จึงออกนโยบายคุมเงินเฟ้อโดยการลดสภาพคล่องในระบบ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อันจะเป็นวิธีที่สามารถต่อกรกับเงินเฟ้อได้ ซึ่งมีผลกระทบกับหุ้น Growth ประการแรกคือ เมื่อดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น มีผลทำให้ Discount Rate สูงขึ้น ส่งผลให้การประเมินมูลค่าของบริษัทต่าง ๆ ลดลง

ประการที่สองคือ ความคาดหวังในการเติบโตของหุ้น Growth ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อสถานการณ์ปัจจุบันไม่แน่นอน ความคาดหวังที่หุ้นจะโตถึง 30% – 50% จึงลดลง ทำให้การเติบโตลดลงด้วย ส่งผลให้ราคาหุ้น Growth ถูก Valuation ที่ปรับตัวลงค่อนข้างมาก จึงทำให้นักลงทุนเริ่มย้ายไปลงทุนในกลุ่ม Value Stock มากขึ้น เนื่องจากกลุ่ม Value มีผลตอบแทนจากเงินปันผล และค่อนข้างปลอดภัยกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น Growth เพียงอย่างเดียว จึงเป็นเหตุผลว่าช่วงที่ผ่านมาหุ้น Growth ถูกเทขาย ในขณะที่หุ้น Value อาจมีราคาลงบ้าง แต่ในระดับที่น้อยกว่าหุ้น Growth หรือหุ้นบางตัวอาจจะมีการปรับราคาขึ้น โดยเฉพาะหุ้น Value ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าจำเป็น เช่น กลุ่มอาหาร เป็นต้น เราจึงเห็นได้ว่า Growth Stock มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่า Value Stock นั่นเอง

วิธีการรับมือ เมื่อ Growth Stock ปรับตัวลดลง 

สิ่งที่นักลงทุนควรทำคือ การจัดสรรพอร์ตให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น ไม่ได้เทน้ำหนักไปยังหุ้น Growth หรือ หุ้น Value เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการลงทุนไม่ได้ขึ้นกับเรื่องเงินเฟ้อเท่านั้น การพิจารณาถึงพื้นฐานของตัวหุ้นก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน การจัดพอร์ตโดยการ Classified Combination โดยมีทั้งหุ้น Growth และ Value จะช่วยในเรื่องความสมดุลของพอร์ตในช่วงราคาตลาดผันผวน โดยไม่ทำให้ภาพรวมของพอร์ตเหวี่ยงขึ้นลงมากจนเกินไป บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกมีการใช้วิธี Classified Combination ซึ่งสามารถปรับตัวได้แม้อยู่ในช่วงวิกฤต และมีการนำเอาเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาช่วยปรับปรุงพัฒนาบริษัทให้มีความน่าสนใจและมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งนโยบายลักษณะนี้ เป็นนโยบายที่ทาง AFMOAT-H นำมาใช้ โดยจะมีการประเมินมูลค่าของหุ้นและเลือกลงทุนในหุ้นที่ Under Value เพื่อล้อกับแนวคิดที่ว่า สุดท้ายแล้ว ราคาหุ้นจะเป็นตัวสะท้อนภาพ Value ที่แท้จริงของตัวเอง หากกองทุนมีกระบวนการคัดสรรหุ้นที่ดี ก็สามารถหาโอกาสในการลงทุนได้

Why is MOAT ? หุ้นปราการคืออะไร

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

  • Economic MOAT เป็นคำที่ Warren Buffet ได้บัญญัติขึ้น และนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย
    ในแวดวงการตลาดอาจคุ้นเคยกับคำว่า Barriers to Entry ของธุรกิจ ซึ่งมีความหมายคล้ายกัน
  • หุ้นที่มี MOAT หมายถึง หุ้นที่มีปัจจัยป้องกันซึ่งจะช่วยไม่ให้คู่แข่งเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดได้ สามารถสร้างกำไรให้กับบริษัท มีโอกาสเติบโตในระยะยาว คล้ายกับมีคูเมืองล้อมป้อมปราการนั่นเอง

ปัจจัย 5 ประการหนุนบริษัทที่มี MOAT มีความได้เปรียบจากคู่แข่ง

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk 

  • การได้เปรียบของสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน หมายถึง บริษัทที่มีแบรนด์ ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร หรือสัมปทานต่าง ๆ ทำให้คู่แข่งเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดได้ยาก เนื่องจากลูกค้าซื้อแบรนด์นี้โดยเฉพาะ
  • ต้นทุนการเปลี่ยนย้ายที่สูง เช่น ธุรกิจซอฟต์แวร์ ซึ่งหากเปลี่ยนไปใช้สินค้าตัวอื่นอาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนอุปกรณ์ใหม่ ๆ หรือใช้บุคลากรเพิ่มขึ้นในการทำงาน มีความเสี่ยงในการผิดพลาด เป็นต้น
  • พลังแห่งเครือข่าย เกิดขึ้นเมื่อมีการใช้บริการมากขึ้น เช่น ธุรกิจขายตรง ธุรกิจบันเทิง
  • ความได้เปรียบทางด้านต้นทุน บริษัทใดที่มีต้นทุนในการทำธุรกิจน้อยกว่าบริษัทอื่น ๆ ก็จะสามารถทำกำไรได้ เช่น มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งราคาต่ำกว่าเทคโนโลยีของคู่แข่ง เป็นต้น
  • ตลาดที่มีขนาดจำกัด เช่น ใช้เงินลงทุนมหาศาล แต่มี Market Share ที่คู่แข่งไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดได้

เลือกตลาดประเภท Wide MOAT เพื่อคัดสรรหุ้นที่มีคุณภาพ

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

MOAT จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ Wide/Narrow/ None ซึ่งแบ่งตามระยะเวลาของการได้เปรียบในเชิงธุรกิจที่ยังคงอยู่ โดย Wide MOAT เป็นระยะเวลาที่บริษัทมีความได้เปรียบเชิงธุรกิจตามคุณสมบัติของ MOAT มากกว่า 20 ปีขึ้นไป ซึ่งกองทุน AFMOAT-H เน้นการลงทุนที่เป็นลักษณะของ Wide MOAT โดยคัดเลือกหุ้นที่อยู่ใน Morningstar Wide Moat Focus Index อันมีความสามารถในการคงความได้เปรียบจากคู่แข่งอย่างยาวนาน เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบ Defensive stock และในขณะเดียวกันก็ต้องการเติบโตไปด้วย

เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นจาก Morningstar

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

  • มีการทำ Fundamental Research วิเคราะห์พื้นฐานของบริษัท เช่น ดูงบการเงินในอดีต เยี่ยมชมบริษัท นัดพบผู้บริหาร เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลต่อไป
  • วิเคราะห์ความได้เปรียบทางธุรกิจ โดยการ Research ผลประกอบการช่วงระยะเวลา 20 ปีขึ้นไป
  • ทำการวิเคราะห์มูลค่าบริษัท
  • คำนวณราคาหุ้นที่เหมาะสมโดยการคิด Fair Value Estimate จากการ Discounted Cash Flow
  • นำมาจัดอันดับและทำการคัดเลือกบริษัทที่มี MOAT ในราคาที่เหมาะสม โดยจะมีการ Re – Model ทุก 3 เดือนเพื่อติดตามผลและคัดเลือกหุ้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด

กองทุนเปิด เอ เอฟ ยูเอส ไวท์ โมด เฮดจ์ (AFMOAT-H)

กองทุนเปิด เอ เอฟ ยูเอส ไวท์ โมด เฮดจ์ : AFMOAT-H จาก บลจ.ทาลิส เป็นกองทุนรวม ฟีดเดอร์ ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน VanEck Morningstar Wide Moat ETF (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยกองทุนจะลงทุนในกองทุนหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในสภาวการณ์ปกติกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging)ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ

กองทุน VanEck Morningstar Wide Moat ETF : MOAT (กองทุนหลัก) อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ VanEck Associates Corporation จดทะเบียนอยู่ใน Chicago Box Options Exchange (CBOE) ประเทศสหรัฐอเมริกา

  • มีจุดประสงค์การลงทุนที่ต้องการเลียนแบบ Morningstar Wide Moat Focus Index เพื่อให้มีผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีมากที่สุด
  • ไม่ได้จำกัดลงทุนในหุ้น Value เท่านั้น ซึ่งกองทุนมีการแบ่งสัดส่วนการลงทุนทั้ง Growth Stock/Quality Stock/ Value Stock

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talkสรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk         

ตัวอย่างของหุ้นที่ลงทุน ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2022

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk 

ณ  30 เมษายน 2022 ทางกองทุนจะคัดเลือกลงทุนในหุ้นจำพวกสินค้าจำเป็น เช่น บริษัทยา บริษัทอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บริษัทยาสูบ บริษัทอุปกรณ์การแพทย์ บริษัทออกแบบผลิตซอฟต์แวร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทที่ให้บริการการทำธุรกรรมการเงิน เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทประเภทนวัตกรรมและเทคโนโลยีอยู่ในพอร์ตด้วย อาทิ Alphabet/Meta/Intel/Microsoft เป็นต้น แต่เนื่องจากสถานการณ์ช่วง 4 – 5 เดือนที่ผ่านมา หุ้นประเภทนี้อาจมีผลการดำเนินงานต่ำ ทางกองจึงให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทจำพวกสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก

หลักเกณฑ์ในการลงทุน

  • Apply MOAT Concept โดยการคัดเลือกบริษัทที่มีคุณสมบัติเข้าข่าย Wide MOAT และทำ Valuation ต่าง ๆ จากนั้น ทำการ Classified บริษัทเหล่านี้เข้ามาลงทุน
  • จัด Ranking โดยเทียบ Valuation Screening กับราคาหุ้น เพื่อหาหุ้นที่ Under Value และเลือกลงทุนในหุ้นตัวนั้น มีจังหวะการลงทุนที่มีการ Take Profit
  • ใช้หลัก Equal Weight ซึ่งเป็นการจัดพอร์ตที่เน้น Fundamental ของหุ้นเป็นหลักมากกว่าการโฟกัสที่ Market Cap ซึ่งถือเป็นข้อดีในจังหวะที่ตลาดมีความผันผวน เนื่องจากพอร์ตมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีพอสมควร และลดความเสี่ยงในกรณีที่กองทุนถูก Dominate โดยหุ้นบางตัวเป็นหลัก ซึ่งกองทุนอาจผันผวนตามหุ้นนั้น ๆ ได้

ผลการดำเนินงานของ MOAT (กองทุนหลัก)

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

Source : https://www.vaneck.com/us/en/investments/morningstar-wide-moat-etf-moat/performance-distributions/

คำเตือน : ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

ข้อมูล ณ 31 มีนาคม 2565 ผลการดำเนินงานของ MOAT หากเทียบเฉพาะไตรมาสที่หนึ่ง ในปีนี้ MOAT ETF ต่างประเทศ มีผลตอบแทนติดลบประมาณ 2% สำหรับกองทุน AFMOAT-H ของไทย มีผลตอบแทนติดลบ 2.3% เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยน (ทาง บลจ. มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงเกือบทั้งหมด) ในขณะที่ NASDAQ ติดลบประมาณ 8% และ S&P ติดลบประมาณ 4%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดอเมริกามีการปรับตัวลงมาหนัก ๆ จากเงินเฟ้อและการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ FED ทำให้ในช่วงไตรมาสที่สอง ตลาด S&P ปรับลดลงมา 13% NASDAQ ปรับลด 20% และ MOAT ปรับลด 11% ทั้งนี้ ก็ยังถือว่าปรับลดน้อยกว่าตลาด S&P และ NASDAQ ทำให้ year to date ของAFMOAT-H (เมื่อวันที่ 24 พ.ค.65) มีผลตอบแทนติดลบเกือบ 13% แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับภาพรวมของกองทุนอื่น ๆ ก็ยังถือว่าติดลบน้อยกว่า กล่าวคือ กอง MOAT เปรียบเสมือนตัวรองรับตอนที่ตลาดอยู่ในช่วงขาลงก็ว่าได้ เนื่องจากมีการ Diversified หุ้น และไม่ได้ขึ้นกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ภายในกองทุนเองมีการแบ่งประเภทหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม Value 40% Growth 30% และ Core 30% ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงที่สมดุล ในเวลาที่หุ้นปรับราคาขึ้น หุ้นประเภท Growth และ Core ก็จะสามารถดัน Performance ให้เทียบเคียงกับ S&P ได้

แม้ลงทุนกระจุกตัวอยู่ในสหรัฐฯ เป็นหลัก ก็ยังไม่เป็นที่น่ากังวล

หากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน ซึ่งไม่อาจเรียกได้ว่าดีนัก อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ถือได้ว่าเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อถึงจังหวะที่สามารถลงทุนได้แล้ว เงินจะไหลจากทั่วโลกไปลงทุนที่สหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การลงทุนแบบ Equal Weight เป็นการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงในตลาดอยู่แล้วในระดับหนึ่ง เนื่องจากไม่ได้ลงทุนกระจุกอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งมากเป็นพิเศษ และมีการแบ่งกลุ่มการลงทุนใน Combination ที่ค่อนข้างสมมาตร

แม้จะเป็นการลงทุนจะในหุ้นที่อยู่ในสหรัฐฯ ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็เป็นบริษัทระดับ International ซึ่งสัดส่วนการทำธุรกิจในต่างประเทศมากน้อยแตกต่างกันไป ดันนั้น การลงทุนในหุ้นกองนี้จึงไม่ได้พึ่งพิงกับเศรษฐกิจสหรัฐ ฯ เพียงประเทศเดียว แต่พึ่งพิงกับเศรษฐกิจทั่วโลก เช่น บริษัทยา Merck & CO INC รายได้ในสหรัฐฯอยู่ที่ 40% และต่างประเทศอีก 60%  Kellogg Co รายได้ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 60% ทั่วโลกอีก 40% ปัจจุบัน หุ้นในสหรัฐที่เป็น Multi National จะมีจำนวนค่อนข้างมาก และสัดส่วนรายได้กระจายจากสหรัฐไปยังประเทศอื่น ๆ คิดเป็น 30% -70%

บทสรุป จุดเด่นกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการจาก บลจ. ทาลิส

สรุป LIVE: เจาะลึกกองทุน AFMOAT-H กองทุนป้อมปราการเหล็ก ทนทานทุกสภาวะตลาด" I สรุป LIVE Market Talk

  • เป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน VanEck Morningstar Wide Moat ETF(MOAT) กองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว ซึ่งกองทุนหลักเป็นกองทุน ETF ภายใต้การบริหารจัดการของ VanEck Associates Crop
  • เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและรับความเสี่ยงด้านตราสารทุนได้
  • เป็นกองทุนแบบ Passive มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทในสหรัฐ ในดัชนี Morningstar Wide Moat Focus Index และเป็นหุ้นที่ได้เปรียบทางธุรกิจจากคู่แข่งในระยะยาว โดยลงทุนในหุ้นหลายธุรกิจ เช่น เทคโนโลยี สุขภาพ การเงิน อุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น กระจายการลงทุนในหุ้นถึง 50 ตัว ในลักษณะ Equal Weight

ปัจจัยความเสี่ยง :

Equity Market Risk – ความเสี่ยงตลาดตราสารทุน

Equity Securities Risk – ความเสี่ยงของตราสารทุน

Concentration Risk – ความเสี่ยงจากการกระจุกตัว

Operation Risk – ความเสี่ยงจากการดำเนินงาน
Index Tracking Risk – ความเสี่ยงจากการไม่สามารถลงทุนได้ตามดัชนี

 ความเสี่ยงของกองทุน

สูง (ระดับความเสี่ยง 6 )

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาทำการตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” สนใจกองทุน AFMOAT-HA คลิก https://finno.me/AFMOAT-FB หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด เลขที่ 89 ชั้น 10 ห้อง 1001-1002 อาคาร AIA Capital Center ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ : 02 015 0222 Website : https://www.talisam.co.th

คำเตือน

  • ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • กองทุนนี้และกองทุนหลักลงทุนในต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงที่ทางการของประเทศที่ลงทุนอาจออกมาตรการในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์ที่ไม่ปกติทำให้กองทุนไม่สามารถนำเงินกลับเข้ามาในประเทศซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนอาจได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนด
  • ในสภาวการณ์ปกติกองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด โดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
  • ดูข้อมูลของกองทุนหลัก ได้ที่ vaneck.com