อัญมณีแห่งตะวันออก และการออกเหรียญใหม่ เพื่อโอกาสทางการลงทุนที่มากกว่า

บทความนี้เขียนโดย Marcus Lim, Zipmex CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง

ในประวัติศาสตร์จีนนั้นมักจะนำหน้าอยู่เสมอในด้านนวัตกรรม ในฐานะผู้ประดิษฐ์เข็มทิศ ดินปืน และ กระดาษ รวมถึงการปูทางสำหรับการค้าข้ามชาติกับเครือข่ายเส้นทางสายไหมโบราณ และการค้าทางทะเล

ตอนนี้ประเทศจีนกำลังแกะสลักชื่อของตัวเองในเรื่องที่เกี่ยวกับบล็อกเชน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจสำหรับประเทศที่ฝังแน่นอยู่ในแนวคิดของการรวมศูนย์ของอำนาจการปกครอง แต่กลับมีความสนใจเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจ และยุทธศาสตร์ที่ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ของจีนได้กลายเป็นแชมป์เทคโนโลยีบล็อกเชนล่าสุดเมื่อเขาตอกย้ำความต้องการในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมากขึ้น

เพื่อให้จีนสามารถครองความยิ่งใหญ่และได้รับ “ความได้เปรียบในอุตสาหกรรมชนิดใหม่”

ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง หลังจากประกาศความต้องการไปแบบนี้ก็ได้ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนเกือบ 200 แห่งพุ่งขึ้นถึง 8% ตามดัชนีที่รวบรวมโดย East Money Information หลังจากที่ประชาชนเรียกร้องให้มีการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนอย่างรวดเร็ว

ข่าวล่าสุดที่เกิดขึ้นก็คือธนาคารประชาชนจีนกำลังพยายามหาทางเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางแม้ว่าจะเคยห้ามสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ในอดีตถึงหลายต่อหลายครั้ง

แล้วนี่ก็คือสาเหตุหลักที่ว่าทำไมเอเชียถึงกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกในอนาคต ดังนั้นเรามาดูกันว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้อัญมณีแห่งตะวันออกเปลี่ยนไป

สร้างอาณาจักรตะวันออก

ด้วยความที่เอเชียเพิ่งเอาจริงเอาจังในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล เหล่าบริษัทขนาดใหญ่และหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลพอสมควร จึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศจีนกำลังมองหาโอกาสและช่องทางทางการตลาดในเรื่องการเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

ปัจจุบันจีนถือสิทธิบัตร Blockchain และ Crypto มากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลก และแม้จะมีการปราบปรามสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ นับตั้งแต่ก่อตั้ง Bitcoin แต่สาธารณรัฐประชาชนจีนยังเป็นผู้นำของโลกในการขุด Bitcoin ในปัจจุบัน

การขุด Cryptocurrency นั้นส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย ในปี 2014 เกิดการขุด Bitcoin เอเชียเป็นเพียงแห่งเดียวใน 10 อันดับแรกของโลกในแง่ของการกระจายอัตราแฮช – แต่ตอนนี้ 80% ของผู้ขุดอันดับต้น ๆ มาจากเอเชีย (ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน)

เอเชียได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นศูนย์กลางการค้า การเดินทาง และประเพณีของทั่วโลก – เอเชียเป็นตลาดสำคัญสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพใด ๆ ที่กำลังมองหาลูกค้ามากกว่าสี่พันล้านคน

คุณ สี จิ้น ผิง ในฐานะประธานาธิบดีของจีนได้กล่าวเอาไว้ว่า ประเทศจีนควรมุ่งมั่นที่จะอยู่ในระดับแนวหน้ารวมถึงก้าวขึ้นเป็นผู้นำของนวัตกรรมและพยายามช่วงชิงความได้เปรียบด้านการแข่งขันในด้านบล็อกเชน ล่าสุด ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ได้ผ่านนโยบายใหม่ที่ควบคุมการเข้ารหัสในประเทศที่หลายคนกล่าวว่าจะช่วยสร้างรากฐานใหม่สำหรับสกุลเงินดิจิทัลในระดับชาติ

การพยายามควบคุมแบบค่อยเป็นค่อยไปในขณะที่ผลักดันนโยบายที่จะส่งเสริมออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ผลักดันการใช้สกุลเงินดิจิทัล นอกเหนือจากจีนแล้วญี่ปุ่นก็เป็นประเทศแรกในโลกที่ให้การรับรอง Bitcoin ในรูปแบบการชำระเงินในชีวิตประจำวันทั่วไป

ประเทศไทยยังเป็นประเทศแรกในโลกที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ส่งเสริมให้มี ICO Portal อย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ผู้ที่ต้องการระดมทุนสามารถนำเสนอโทเค็นที่สอดคล้องกับกฎหมายไทยได้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หน่วยงานด้านการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลสิงคโปร์ได้พาดหัวข่าวในการหาทางเพิ่มภาษีสินค้าและบริการสำหรับการทำธุรกรรม Crypto ซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน

นอกจากนี้ในปี 2019 หน่วยงานกำกับดูแลของอินโดนีเซียก็ได้ยอมรับ Cryptocurrencies อย่างเป็นทางการ เช่น การทำ Bitcoin ให้เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งทำให้สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายที่ถูกต้องตามกฎหมาย การแลกเปลี่ยนในภูมิภาคเอเชียยังเป็นประโยชน์ต่อการเลือกการควบคุมตนเอง มีสมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราเสมือนจริงในญี่ปุ่นซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลของประเทศในปี 2018 และศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลก็ได้พยายามพัฒนาทีมที่มีการผสมผสานของผู้นำทางการเงินแบบดั้งเดิมเพื่อช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ

ความแข็งแกร่งของตัวเลข

เนื่องจากความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นของชาวเอเชียทำให้มีความต้องการทางเลือกในการลงทุนเพิ่มขึ้นมากขึ้น เศรษฐีกว่าร้อยละ 60 ของโลกอาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้มีโอกาสทางการตลาดที่ยิ่งใหญ่ และในฐานะที่หน่วยงานกำกับดูแลเปิดทางให้ Crypto จำนวนมากออกสู่ตลาดจึงไม่น่าแปลกใจที่มีการแลกเปลี่ยนที่สำคัญหลายแห่งในเอเชีย

แม้จะมีการลดลงของราคาในช่วงที่ผ่านมาบ้างจนทำให้หลายประเทศยอมแพ้และหมดความหวังในเรื่องราคาที่จะทะยานขึ้นไปบนดวงจันทร์ (To The Moon) แต่ความนิยมในเอเชียเกี่ยวกับ Crypto ยังคงแข็งแกร่ง ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดขึ้น 7% ในขณะที่ข้อตกลง Crypto ที่ดำเนินการในอเมริกาลดลงถึง 19% ในด้านการซื้อขาย เงินเยนของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ซื้อขายกันมากที่สุดในการแลกเปลี่ยน Crypto ทั่วโลก

เราเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลจะพัฒนาและยกระดับฐานะสินทรัพย์ที่มีทางเลือกไม่เหมือนใคร และเชื่อว่าในท้ายที่สุดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหลายจะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศการลงทุนระดับโลก (Ecosystem) หากประเทศที่มีศูนย์กลางเช่น จีน สามารถผลักดันเทคโนโลยีที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิมและพัฒนาไปจนถึงขั้นที่จำเป็นต่อหลาย ๆ อุตสาหกรรม ในวันนั้นก็จะเป็นวันที่สินทรัพย์ดิจิทัลผงาดและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในระดับโลก

Zipmex

iran-israel-war