หุ้นเอเชีย

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2025 ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงพร้อมกันอย่างรุนแรง นำโดย KOSPI ของเกาหลีใต้ ที่ร่วง -5.90% ลงมาที่ระดับ 3,878.64 จุด และ Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ที่ปรับตัวลง -2.0% มาที่ 50,441.67 จุด ขณะที่ดัชนี TOPIX ลดลง -2.30% และ Hang Seng China Enterprises Index (HSCEI) ร่วง -1.41% สะท้อนแรงเทขายต่อเนื่องจากนักลงทุนทั่วภูมิภาคหลังตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงจากความกังวลต่อฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีและการประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริงของหุ้นกลุ่ม AI

เกาหลีใต้: ดัชนี KOSPI หลุดแนวรับสำคัญที่ 4,000 จุด และต้องใช้มาตรการ Sell-side Circuit Breaker ชั่วคราวในช่วงเช้า หลังแรงขายถาโถมในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดย Samsung Electronics ร่วง -4.8% และ SK Hynix ดิ่ง -3.6% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิกว่า 596.8 พันล้านวอนต่อเนื่องเป็นวันที่สอง สาเหตุหลักมาจากความกังวลต่อการควบคุมการส่งออกชิปรุ่นใหม่ของ Nvidia และแรงกดดันจากค่าเงินวอนที่อ่อนค่ามาที่ 1,445 วอนต่อดอลลาร์ ด้านรัฐบาลยังคงเดินหน้านโยบาย “Korea’s First Budget to Open the AI Era” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ แต่ตลาดมองว่าปัจจัยดังกล่าวยังไม่เพียงพอจะสกัดแรงขายในระยะสั้น

ญี่ปุ่น: ตลาดโตเกียวเปิดร่วงแรงตามวอลสตรีท โดย SoftBank Group ดิ่ง -9.4% จากแรงขายในหุ้นกลุ่มลงทุนเทคโนโลยี ขณะที่ Advantest และ Fujikura ร่วง -7.0% และ -5.65% ตามลำดับ ส่วน Fast Retailing เจ้าของแบรนด์ Uniqlo ปรับขึ้นสวนตลาด +2.2% จากแรงซื้อหุ้น Defensive หลังรายงานยอดขายเดือนตุลาคมเติบโตเหนือคาด ภาคส่วนที่อ่อนตัวมากที่สุดคือโลหะนอกกลุ่มเหล็ก เทคโนโลยีสารสนเทศ และเครื่องจักร ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวในกรอบแคบ 153.5 เยนต่อดอลลาร์ โดยนักลงทุนยังคงคาดว่า BoJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในรอบประชุมถัดไป

จีนและฮ่องกง: ดัชนี HSCEI ร่วง -1.41% ปิดที่ 9,043.71 จุด ตามแรงกดดันจากตลาดโลก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จากรัฐบาลปักกิ่ง หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม สะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจจีนในช่วงปลายปี

โดยรวมแล้ว การร่วงของตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้สะท้อนการหมุนเวียนเงินทุนกลับไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินในเอเชียส่วนใหญ่ เช่น เยน วอน และหยวน อ่อนค่าลงพร้อมกัน

Finnomena Funds ประเมินว่า ภาวะการขายในรอบนี้เป็นเพียง “Technical Correction” หลังตลาดหุ้นเอเชียโดยเฉพาะเกาหลีใต้และญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นแรงในเดือนที่ผ่านมา โดยปัจจัยพื้นฐานของทั้งสองประเทศยังคงแข็งแกร่ง

มุมมองโดยรวมยังคง “Slightly Positive” ต่อเอเชียทั้งในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีนพร้อมแนะนำทยอยสะสมกองทุน SCBKEQTG สำหรับหุ้นเกาหลี, ASP-NGF สำหรับหุ้นญี่ปุ่น และ MEGA10CHINA-A สำหรับหุ้นจีน

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Tax Cal