[สรุปเน้น ๆ เห็นภาพชัด เลือกกองทุน EM กองไหนดี]

วันนี้ เด็กการเงิน ขอมารีวิวกองทุนของฝั่ง Emerging Market กันบ้าง ซึ่งจะขอเเบ่งเป็น 3 EP. ซึ่ง EP แรกวันนี้จะเป็นกองทุนของ Emerging Market ทั้งหมด และตอนที่ 3 จะเป็นกลุ่ม BRIC และ LATAM และ Emerging Eastern Europe ซึ่งถือเป็นประเทศกลุ่ม EM เหมือนกัน แต่มีความเฉพาะเจาะจงประเทศมากกว่า

อย่างที่เคยบอกไปว่ากลุ่ม Emerging Markets มักจะมีความผันผวนจากราคาหุ้นขึ้นลงได้มาก มีประสิทธิภาพน้อยกว่า Developed Markets แต่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ และมีนักลงทุนสถาบันเข้าลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีปริมาณเงินหมุนเวียนเยอะขึ้น โดยที่สภาพคล่องยังรองรับได้ และค่าเงินเป็นที่ยอมรับในการแลกเปลี่ยนรองลงมาจากตลาด Developed Markets ประเทศในกลุ่มนี้ เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย ไต้หวัน ไทย เป็นต้น

ก่อนอื่นอยากให้รู้จักกับ MSCI Emerging Markets Index ก่อน ซึ่งครอบคลุมหุ้นขนาดกลางและใหญ่กว่า 1,406 ตัว ใน 27 ประเทศกลุ่ม EM ซึ่งถือเป็นตัวแทนตลาด EM ได้กว่า 85%

Top 5 Country

  • China 34.62%
  • Taiwan 14.55%
  • South Korea 13.42%
  • India 10.72%
  • Brazil 5.27%

Top 5 Sector

  • IT 21.19%
  • Financials 18.4%
  • Consumer Discretionary 16.26%
  • Communication Services 10.68%
  • Material 9.18%

Top 5 Stock

  • TSMC 6.38%
  • Alibaba 4.60%
  • Tencent 4.43%
  • Samsung 4.07%
  • Meituan 1.25%

โดยกองทุนกลุ่ม Emerging ที่เราเคยจัดกลุ่มกองทุนไปนั้นมีทั้งหมด 13 กองทุน เป็น Passive 2 กองทุน Mix 1 กองทุน (ETF + Active) และ Active 10 กองทุน 

เด็กการเงินขอเลือกมารีวิวทั้งหมด 5 กอง ซึ่งเป็นกองทุนที่มีผลตอบแทน ณ 11/08/2021 สูงสุด 5 อันดับแรก โดยดูผลตอบแทนจาก 3-Month, YTD, 1-Year, 3-Year และ 5-Year (หมายความว่าผลตอบแทนของกองทุนเหล่านี้สูงสุดอยู่ใน Top 5 อย่างน้อย 3 จาก 5 ช่วงเวลาที่กล่าวมา)

และเราก็ได้กองทุน Top 5 ประกอบไปด้วย Passive 1 กองทุน คือ TMBEMEQ Mix 1 กองทุน คือ 1AM-GEM และ Active 3 กองทุน ได้แก่ ABGEM, SCBEMEQ และ K-GEMO ตามไปดูรายละเอียดของแต่ละกองได้เลย (ข้อมูล ณ 31/07/2021)

Top 5 Emerging Market Fund

TMBEMEQ

ลงทุนผ่าน iShares MSCI Emerging Markets ETF

เน้นลงทุนในจีนกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 34.58% ตามด้วยไต้หวัน 14.45% เกาหลีใต้ 12.9% อินเดีย 11.13% และบราซิล 5.14% ในส่วนของ Sector ประกอบด้วย IT 20.81%, Financial 18.89%, Consumer discretionary 16.09%, Communication 10.4% และ Materials 9.09% และหุ้น 5 อันดับแรก ได้แก่ TSMC 6.39%, Alibaba 4.45%, Tencent 4.32%, Samsung 3.78% และ Meituan 1.34% สอดคล้องกับ MSCI Emerging Market

1AM-GEM

ลงทุนผ่าน Master Fund ถึง 5 กอง คือ 

iShares MSCI Emerging Markets ETF 37.91% + GS Emerging Markets Equity Fund 24.22% + UBS EQ-ALL CHINA USD-IA1 ACC 14.83% + ASK INDIA OPP FD 11.95% + PREMIA CHINA NEW ECON ETF HK 7.09%

ซึ่งกองทุนหลักกองแรกเหมือนกับ TMBEMEQ แต่ 1AM-GEM ลงทุนประมาณ 38%

ในส่วนของ GS Emerging Markets Equity Fund ที่ลงทุนประมาณ 24% ก็เน้นลงทุนในจีนกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 33.2% ตามด้วยเกาหลีใต้ 12.3% อินเดีย 12.3% ไต้หวัน 12.1% และบราซิล 7.1% และหุ้น 5 อันดับแรก ได้แก่ TSMC 6.7%, Samsung 6.3%, Tencent 5.3%, Alibaba 5.2% และ China Merchants Bank 1.9%

นอกจากนี้ยังมีกอง UBS EQ-ALL CHINA ซึ่งเน้นลงทุนในจีน ASK INDIA OPP ลงทุนในอินเดีย และ PREMIA CHINA NEW ECON ETF HK ลงทุนในฮ่องกง

จะเห็นว่ากองทุน 1AM-GEM มีการกระจายการลงทุนในกองทุนหลักหลายกอง หลากหลายประเทศ แต่ก็ยังคงกระจุกตัวในจีนค่อนข้างมาก

ABGEM

ลงทุนผ่าน Aberdeen Standard SICAV I – Emerging Markets Equity Fund ซึ่งล่าสุดกองทุนหลักได้ overweight กลุ่ม IT (28.4% vs. 21.19%) และ overweight หุ้น Samsung (8.8% vs. 4.07%)

SCBEMEQ

ลงทุนผ่าน Fidelity Funds – Emerging Markets Focus Fund ล่าสุดกองทุนหลักได้ underweight ประเทศจีน (28.5% vs. 34.62%) และ overweight กลุ่มประเทศแอฟริกาใต้ แทนด้วยอินเดีย และฮ่องกง แทนด้วยบราซิล และ overweight กลุ่ม IT (27.4% vs. 21.19%) และหุ้น 5 อันดับแรก ได้แก่ TSMC 7.2%, HDFC Bank 4.7%, AIA 4.7%, LI NING 3.7% และ China Mengniu 4% ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจาก MSCI Emerging Market มาก

K-GEMO

ลงทุนผ่าน Schroder International Selection Fund Global Emerging Market Opportunities ล่าสุดกองทุนหลักได้ underweight ประเทศจีน (23.84% vs. 34.62%) และ overweight กลุ่ม Financials (30.81% vs. 18.4%) และมีหุ้น JD.com ติดอยู่ใน Top 5 ด้วย

ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกองทุนที่ไม่ได้ติด Top 5 สักเล็กน้อย

1) TISCOGEM (Passive) ลงทุนผ่าน Vanguard FTSE Emerging Markets ETF

2) M-EM และ TMBEAE (Active) ลงทุนผ่าน Master Fund คือ Baillie Gifford Worldwide Emerging Markets

3) KF-EM และ KT-EMEQ-A มี Master Fund ของ Vontobel Fund เหมือนกัน แต่ต่างกองกันเล็กน้อย KF-EM ลงทุนใน Vontobel Fund – Emerging Markets Equity ซึ่งเน้น quality growth และ overweight กลุ่ม IT ขณะที่ KT-EMEQ-A ลงทุนใน Vontobel Fund – mtx Sustainable Emerging Markets Leaders เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม sustainable ซึ่งกองทุน overweight จีน และกลุ่ม IT

4) LHEME-A (Active) ลงทุนใน Nomura Funds Ireland-American Century Emerging Markets Equity Fund 

5) K-SEMQ (Active) ลงทุนใน Templeton Emerging Markets Fund 

6) WE-DEWORLD (Active) ลงทุนใน Arisan Developing World Funds ซึ่งข้อมูลล่าสุดกองทุนเพิ่งจัดตั้งเมื่อต้นเดือนเมษายน 2564 ลงทุนในกองทุนหลัก 45% และถือ cash อยู่ 55% ซึ่งกองทุนหลักนี้ลงทุนใน Emerging Market ประมาณ 50% อีก 50% ที่เหลือลงทุนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งมีอเมริการาว ๆ 37%

จัดกลุ่มกองทุน Emerging Market มีเยอะแค่ไหนก็ไม่งง

=========

ผลตอบแทน as of 11/08/2021 (ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี สำหรับข้อมูลมากกว่า 1-yr)

  • TMBEMEQ: 3-month = 4.88%, YTD = 12.16%, 1-yr = 27.69%, 3-yr = 7.40%, 5-yr = 6.53%
  • 1AM-GEM: 3-month = 5.14%, YTD = 10.35%, 1-yr = 24.88%, 3-yr = 8.88%, 5-yr = 6.76%
  • ABGEM: 3-month = 7.65%, YTD = 13.64%, 1-yr = 38.11%, 3-yr = 11.85%, 5-yr = 7.02%
  • SCBEMEQ: 3-month = 0.69%, YTD = 7.09%, 1-yr = 32.26%, 3-yr = 7.23%, 5-yr = 6.76%
  • K-GEMO: 3-month = 3.41%, YTD = 5.82%, 1-yr = 28.21%, 3-yr = 11.81%, 5-yr = 11.78%

ความผันผวน as of 11/08/2021

  • TMBEMEQ: 1-yr = 9.15%, 3-yr = 15.35%, 5-yr = 12.96%
  • 1AM-GEM: 1-yr = 9.06%, 3-yr = 14.6%, 5-yr = 12.12%
  • ABGEM: 1-yr = 11.41%, 3-yr = 17.61%, 5-yr = 14.91%
  • SCBEMEQ: 1-yr = 13.11%, 3-yr = 19.73%, 5-yr = 16.56%
  • K-GEMO: 1-yr = 15.43%, 3-yr = 21.05%, 5-yr = 17.37%

ค่าธรรมเนียม

  • TMBEMEQ: TER = 1.13%, FE = 0% (spread เก็บเข้ากองทุน 0.1%)
  • 1AM-GEM: TER = 1.22%, FE = 1.07%
  • ABGEM: TER = 2.05%, FE = 1.5%
  • SCBEMEQ: TER = 1.73%, FE = 0.535%
  • K-GEMO: TER = 1.4845%, FE = 1.5%

การป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน

  • TMBEMEQ: ไม่มีการป้องกันความเสี่ยง
  • 1AM-GEM: ไม่มีการป้องกันความเสี่ยง
  • ABGEM: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจ
  • SCBEMEQ: ป้องกันความเสี่ยงทั้งหมด/เกือบทั้งหมด (มากกว่า 90%)
  • K-GEMO: ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน (ไม่น้อยกว่า 75%)

สรุป

สำหรับนักลงทุนที่ชอบกอง Passive กองทุน TMBEMEQ ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะนอกจากจะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกแล้วนั้น performance กองก็ยังคงติด Top 5 อีกด้วย

ถึงแม้ว่ากองทุน ABGEM จะมีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกองทุนอื่น แต่เมื่อดูที่ผลตอบแทนแล้วนั้น กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ในอันดับ 1 ในทุกช่วงเวลา ยกเว้น 5 ปีที่อยู่อันดับ 2 ทั้งนี้กองทุน ABGEM ก็มีความผันผวนสูงกว่ากองทุน TMBEMEQ และ 1AM-GEM

กองทุน K-GEMO มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 5 ปีย้อนหลังสูงสุด แต่ก็มีความผันผวนมากที่สุดใน 5 กองทุนที่นำมาเปรียบเทียบ

กองทุน 1AM-GEM มีผลตอบแทนประมาณอันดับที่ 3 เกือบทุกช่วงเวลา แต่ก็มีความผันผวนต่ำสุดใน 5 กองทุนที่นำมาเปรียบเทียบ

สำหรับสาวกคนรัก Baillie Gifford ต้องไม่พลาดกองทุน M-EM ที่เพิ่งจัดตั้งกองทุนเมื่อไม่นานมานี้ และ TMBEAE ที่เพิ่งเปลี่ยนกองทุนหลัก ซึ่งลงทุนผ่าน Baillie Gifford Worldwide Emerging Markets Leading Companies Fund ซึ่งเป็นกองทุนประเภท High conviction มีหุ้นอยู่ในพอร์ตประมาณ 40-80 ตัว ซึ่งล่าสุดเดือนมิถุนายน มีหุ้นในพอร์ตเพียงแค่ 44 ตัว ถือว่ามีการกระจายความเสี่ยงต่ำ เพราะต้องการผลตอบแทนที่เด่นชัด

ถ้าหากสนใจกองทุนที่ลงทุนทั้งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และ EM กองทุน WE-DEWORLD ก็น่าสนใจ เพราะกองทุนหลักนี้ลงทุนใน Emerging Market ประมาณ 50% อีก 50% ที่เหลือลงทุนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งมีอเมริการาว ๆ 37%

คำเเนะนำของเด็กการเงิน

กลุ่ม Emerging Market แม้ว่าจะฟื้นตัวช้ากว่า Developed Market แต่สาย Contrarian สามารถใช้โอกาสนี้สะสมได้ โดยส่วน Emerging Market สามารถมีได้ 15-20% ของพอร์ต ร่วมกับกองทุนหุ้นจีน H-Share หุ้นอินเดีย หุ้นเกาหลีใต้ และอาเซียน มากน้อยขึ้นอยู่กับความเสี่ยง

เด็กการเงิน DekFinance

ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/DekFinance101/posts/236614735022664


คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”