Blockchain: ระบบการเงินแบบใหม่ที่จะพลิกทุกอุตสาหกรรม

ระบบการบัญชีแบบ Medici ที่ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1500 ทำให้เศรษฐกิจของยุโรปพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ณ ปัจจุบัน ระบบ Blockchain ก็มีศักยภาพในการเริ่มต้นระบบดิจิตัลระดับโลกแบบใหม่เช่นกัน ซึ่งจะพลิกทุกอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นการเงิน ห่วงโซ่อุปทาน เฮลธ์แคร์ ระบบหลังบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย

Blockchain: ระบบการเงินแบบใหม่ที่จะพลิกทุกอุตสาหกรรม

ในปี 2018 ที่ผ่านมา เราได้ระบุถึงเงื่อนไขที่อาจทำให้ Blockchain ส่งผลกระทบในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ในฐานะนักลงทุนที่ตื่นตัวอยู่เสมอ เรายังคงเดินหน้าประเมินความเสี่ยงและโอกาสของมันต่อไป:

  • ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Blockchain คือการทำให้บันทึกข้อมูลมีความเป็น “ประชาธิปไตย” และมีการ “กระจายอำนาจ” มากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นระหว่างคนแปลกหน้าบนอินเตอร์เน็ต 2 คน ไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรตรงกลาง
  • นวัตกรรมของ Blockchain ที่ทำให้เกิดการทำ Tokenization (การสร้างตัวแทนของสินทรัพย์ต่าง ๆ ในรูปแบบดิจิทัล) และการแบ่งส่วนการถือครองสินทรัพย์ สามารถปลดล็อกการเข้าถึงสินทรัพย์ที่ไม่ได้มีสภาพคล่องสูง
  • Blockchain สามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของระบบหลังบ้านในอุตสาหกรรมการเงินได้แบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ นอกจากนี้ Blockchain ยังช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญสำหรับการทำการตลาด ทั้งในฝั่งของการเงินและธุรกิจอื่น ๆ
  • อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคปรากฏอยู่สำหรับการใช้เงินในรูปแบบของ Blockchain เพราะในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยี Blockchain สามารถรองรับได้เพียง 5 รายการต่อวินาที ในขณะที่บัตรเครดิตสามารถรองรับได้ 1,500 รายการต่อวินาที ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าช่องว่างนี้จะขยายกว้างขึ้น ถือเป็นจุดด้อยของระบบ Blockchain ที่มีความปลอดภัยมากกว่า
  • ประเทศจีนกำลังจะทำให้ค่าเงินหยวนของตัวเองกลายเป็นเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency, CBDC) ซึ่งมีข้อดีคือ 1) ช่วยลดการปลอมแปลงหรืออาชญากรรม 2) ทำรายการแบบข้ามประเทศได้ทันที 3) ลดค่าธรรมเนียม 4) เพิ่มโอกาสการเข้าถึงระบบการเงินของผู้คน และ 5) ช่วยในการมอบเงินกระตุ้นให้รายบุคคล นอกจากนี้ CBDC ของจีนยังอาจเป็นชนวนเร่งให้เกิดการลดบทบาทของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ในฐานะเงินทุนสำรองของโลก
  • สหรัฐฯ นั้นยังล้าหลังจีนอยู่ในเรื่องของโครงสร้างและความปลอดภัยของ Blockchain แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดี Joe Biden นั้นได้รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของโครงสร้าง Blockchain ด้วย

เนื่องจากวิวัฒนาการและวงจรของ Blockchain นั้นพัฒนาควบคู่ไปกับระบบอินเตอร์เน็ต เรื่องราวของ Blockchain จึงอาจฟังดูคุ้นเคย แม้ทั้งคู่จะถูกปรามาสจากนักวิจารณ์ แต่ทั้งคู่ก็มีศักยภาพเพียงพอในการปลดล็อกนวัตกรรมอีกมากมายไม่สิ้นสุด งานวิจัยของเรายังคงดำเนินต่อไป และผมขอเชิญให้คุณลองเข้าไปดู “Taken On Trust: Disrupting Money” โดยทีมงาน Franklin Templeton Emerging Markets Equity และลองอ่านบทความ “China’s digital currency is a threat to dollar dominance,” ที่เผยแพร่ใน Financial Times จากคุณ Michael Hasenstab ผู้ดำรงตำแหน่ง Chief Investment Officer of Templeton Global Macro ซึ่งเป็นบทความที่เขาจะพาไปสำรวจการแปลงสกุลหยวนของจีนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และผลกระทบของมัน

เนื้อหาต้นฉบับโดย Stephen Dover, CFA
Chief Market Strategist
Head of Franklin Templeton Investment Institute
Franklin Templeton

เรียบเรียงโดย FINNOMENA Admin

ข้อสงวนสิทธิ์

1. แฟรงคลิน เทมเพิลตัน (“Franklin Templeton”) ให้บริการการให้คำแนะนำทั่วไปแก่ FINNOMENA ในการออกแบบพอร์ตการลงทุน (Asset Allocations)

2. แฟรงคลิน เทมเพิลตัน (“Franklin Templeton”) ไม่รับผิดใด ๆ ต่อบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ บริการ เว็บไซต์ หรือเนื้อหาใด ๆ ที่ได้จัดทำหรือปรากฏในช่องทางต่าง ๆ ของบุคคลภายนอกนั้น อีกทั้ง Franklin Templeton ไม่ได้ให้คำรับรอง รับประกัน หรือเป็นตัวแทน ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายในเนื้อหาหรือความถูกต้องของข้อมูลในช่องทางต่าง ๆ ของบุคคลภายนอก และไม่รับผิดต่อสิ่งใด ๆ ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากสิ่งที่กล่าวไว้ข้างต้น

3. ในกรณีที่มีความแตกต่างกันระหว่างเอกสารภาษาอังกฤษกับการแปลเป็นภาษาไทย ให้ยึดถือตามเอกสารภาษาอังกฤษ

แหล่งข้อมูล

https://www.franklintempleton.com/investor/article?contentPath=html/ftthinks/common/cio-views/quick-thoughts-blockchain-innovates-and-disrupts.html