บทความนี้จะมาเล่าเรื่องอาชีพสายการเงินอาชีพหนึ่ง เป็นอาชีพที่เป็นนายตัวเอง มีอิสระในการจัดการเวลาในชีวิตของตัวเอง ได้ใช้ความรู้ทางการเงินในการช่วยเหลือผู้อื่นให้ไปถึงเป้าหมายที่เขาต้องการ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างรายได้เลี้ยงดูตนเองได้ อาชีพนั้นก็คือ “ผู้แนะนำการลงทุน” นั่นเอง

สำหรับผู้ที่สนใจในสายอาชีพนี้โดยเฉพาะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้จะพาไปดูกันตั้งแต่พื้นฐานว่า การเป็นผู้แนะนำการลงทุนต้องทำอะไรบ้าง ทักษะความรู้อะไรบ้างที่จำเป็นในการเป็นผู้แนะนำการลงทุนที่ดี และที่สำคัญก็คือ ใบอนุญาต (License) ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องมีในการประกอบอาชีพนี้

6 ขั้นตอนสู่การเป็นผู้แนะนำการลงทุนมีอะไรบ้าง?

6 STEP สู่การเป็น “ผู้แนะนำการลงทุน” อาชีพอิสระที่สร้างทั้งคุณค่าและรายได้

ขั้นตอนที่ 1: เข้าใจหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุน

“ผู้แนะนำการลงทุน” โฟกัสหลักอยู่ที่การให้คำแนะนำด้านการลงทุน เพื่อช่วยให้ลูกค้าบริหารเงินและเดินไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ หน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุน ไม่ได้มีแค่การแนะนำกองทุน หุ้น หรือสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ แต่ยังรวมถึงการช่วยลูกค้าวางแผนการออม การลงทุนระยะยาว การเตรียมเกษียณ หรือแม้กระทั่งแผนการศึกษาบุตร โดยทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้เงินของลูกค้างอกเงยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพราะเรื่องเงินเกี่ยวพันอยู่ทุกช่วงชีวิต ผู้แนะนำการลงทุนที่ดีจึงต้องทำความเข้าใจทั้งเป้าหมาย ไลฟ์สไตล์ และความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ ไม่ใช่เพียงแค่ขายผลิตภัณฑ์การเงิน แต่คือการให้คำแนะนำที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางจริง ๆ ภาพการทำงานของผู้แนะนำการลงทุนไม่ใช่เพียงการพบเจอพูดคุยกับลูกค้าแค่ครั้งเดียว จัดพอร์ตให้ลูกค้าเสร็จแล้วก็จบกันไป แต่ต้องอาศัยการพูดคุยกับลูกค้าหลายครั้ง เพื่อให้เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และเริ่มแนะนำแผนทางการเงินให้กับลูกค้าได้

ผู้แนะนำการลงทุนจะต้องทำความรู้จักกับลูกค้าให้มากที่สุด ทำความเข้าใจเป้าหมายของลูกค้า ทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างไปถึงเป้าหมาย แล้วถึงค่อยแนะนำแผนทางการเงินให้กับลูกค้าว่าเขาเหมาะกับผลิตภัณฑ์อะไร ในสัดส่วนเท่าไร  และหลังจากวางแผนแล้วก็ยังมีหน้าที่ติดตามและดูแลกันไปตลอดเส้นทาง จนกว่าลูกค้าจะไปถึงเป้าหมายการเงินที่ต้องการ

ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบว่าตนเองเหมาะกับอาชีพนี้หรือไม่

ผู้แนะนำการลงทุนเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะหลากหลายรอบด้าน ทั้งศาสตร์และศิลป์ต้องใช้ครบหมด ต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติที่ผู้แนะนำการลงทุนควรจะต้องมี ถ้าเกิดอ่านแล้วรู้สึกว่าใช่คุณ คุณสามารถทำอาชีพผู้แนะนำการลงทุนได้ดีแน่นอน

1. มีความสนใจเรื่องการเงินการลงทุน

ทักษะแรกที่สำคัญที่สุด (ขาดข้ออื่นไปยังพอทำงานได้ แต่ขาดข้อนี้ไปจบเลย) คือ “ความรู้เรื่องการเงินการลงทุน” ขอใช้คำว่ามีความสนใจเรื่องการเงินการลงทุน เพราะถ้าเรายังสนใจและศึกษาอยู่เรื่อย ๆ ความรู้เราต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

แล้วความรู้เรื่องไหนบ้างที่ผู้แนะนำการลงทุนควรจะมี? คำถามนี้ขอหยิบไปตอบในขั้นตอนที่ 3

2. มีใจบริการ

ผู้แนะนำการลงทุนเป็นคนที่ให้คำแนะนำกับ “ลูกค้า” เพราะฉะนั้นโฟกัสตลอดการทำงานเป็นผู้แนะนำการลงทุน คือ การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ผู้แนะนำการลงทุนต้องไม่แนะนำผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มให้กับลูกค้าเพียงเพื่อให้ตัวเองได้ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมสูง ๆ แต่ผู้แนะนำการลงทุนต้องยึดเป้าหมายของลูกค้ามาก่อน ซึ่งการจะเอาความต้องการของลูกค้ามาก่อนความต้องการส่วนตัว ต้องมาจากการมีใจรักในการบริการ

3. มีทักษะในการพูดคุยและรับฟัง

การจะรู้จักใครสักคน เราต้องพูดคุยกับคนคนนั้นเยอะ ๆ ผู้แนะนำการลงทุนจะรู้จักลูกค้าและเข้าใจไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ ก็ต้องผ่านการพูดคุยเยอะ ๆ เช่นกัน

ทักษะนี้เป็นทักษะที่ผู้แนะนำการลงทุนหลายคนอาจจะมองข้ามไป เพราะไปโฟกัสที่การมี hard skill มากกว่า แต่จริง ๆ แล้วการมี soft skill เรื่องทักษะในการพูดคุย การมีมนุษยสัมพันธ์ การเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นทักษะที่จะชี้วัดเลยว่า คุณจะเป็นผู้แนะนำการลงทุนที่คนชื่นชอบได้หรือเปล่า เพราะถึงคุณจะมีความรู้แน่น แต่ถ้าไม่สามารถถ่ายทอดให้คนเชื่อถือได้ หรือไม่สามารถพูดให้คนเปิดใจกับคุณได้ ก็ไม่มีใครไว้ใจให้คุณดูแลอยู่ดี

4. กล้าตัดสินใจ

กล้าตัดสินใจ ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้เราไปบังคับให้ลูกค้าทำตามที่เราบอก แต่หมายถึง การที่เราแนะนำแนวทางที่เหมาะสมกับเป้าหมายการเงินของลูกค้า แล้วนำเสนอทางเลือกต่าง ๆ พร้อมอธิบายเหตุผล และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นให้ลูกค้าเข้าใจอย่างรอบด้าน เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นใจ

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีแผนการเงินไหนที่การันตีว่าจะได้ผล 100% ทุกแผนมีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นไปตามแผน ผู้แนะนำการลงทุนต้องกล้าที่จะตัดสินใจจากความรู้และประสบการณ์ที่มี และรายงานความเสี่ยงทุกอย่างให้กับลูกค้าทราบ ผู้แนะนำการลงทุนต้องมั่นใจที่จะนำทางให้ลูกค้า เพราะถือว่าเรามีความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการเงินมากกว่า และความรู้ตรงนั้นสามารถทำให้ชีวิตผู้อื่นดีขึ้นได้

5. Active ในการเรียนรู้อยู่เสมอ

ทุกวันมีเรื่องให้เรียนรู้ใหม่อยู่ตลอด ไม่ใช่เฉพาะเรื่องความรู้ทางการเงิน แต่หมายถึงทุกอย่างที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิต เพราะอย่างที่เขียนไว้ในตอนต้นว่า เรื่องเงินเป็นเรื่องที่แทรกซึมอยู่ในทุกด้านของชีวิต คนที่ใช้ชีวิตได้ดีก็จะแนะนำเรื่องการเงินได้ดีด้วย ดังนั้น ผู้แนะนำการลงทุนต้องเป็นคนที่กระตือรือร้นในการอัปเดตข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ให้คำแนะนำกับลูกค้าได้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน

จริงอยู่ว่าเรื่องหลักการวางแผนหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอาจจะเปลี่ยนไม่มาก แต่เรื่องมุมมองการลงทุนรับรองว่าเปลี่ยนบ่อยแน่นอน ซึ่งผู้แนะนำการลงทุนทุกท่านสามารถติดตามข่าวสารของตลาดและมุมมองการลงทุนจาก Finnomena Funds ได้ตามช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์, Facebook, Instagram, X, Blockdit, Youtube และ Tiktok รับรองว่าอัปเดตตลอดไม่ตกข่าวแน่นอน

ขั้นตอนที่ 3: เพิ่มพูนความรู้และทักษะ

หลังจากเข้าใจหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุน และสำรวจตนเองเรียบร้อยแล้วว่าเรามีทักษะที่เหมาะกับการเป็น ผู้แนะนำการลงทุน ขั้นต่อไปคือการศึกษาหาความรู้เรื่องการวางแผนการเงิน และฝึกทักษะในการให้คำปรึกษา

ความรู้ที่ผู้แนะนำการลงทุนควรจะต้องมี หรือ Service Solution ที่ควรจะสามารถมอบให้ลูกค้าได้ ถ้าจะพูดถึงเรื่องนี้พูดทั้งวันก็คงไม่จบ เพราะมันกว้างมาก ๆ ผู้แนะนำการลงทุนอาจจะให้คำแนะนำง่าย ๆ อย่างการออมเงิน ไปจนถึงการที่ลูกค้ามาปรึกษาเรื่องควรจะเลือกหมอผ่าตัดที่โรงพยาบาลไหนดี อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ผู้แนะนำการลงทุนควรจะให้คำแนะนำได้ หรือถ้าหากไม่รู้ก็ควรจะชี้แนะแนวทางในการแก้ปัญหาให้ได้

กรณีนั้นอาจจะเป็นกรณีพิเศษหน่อย แต่สำหรับเคสปกติแล้ว ตัวอย่างสกิลที่ผู้แนะนำการลงทุนควรจะต้องมี เช่น การบริหารเงินส่วนบุคคล, ความรู้เรื่องภาษี, การวางแผนเกษียณ, การซื้อประกัน (เพื่อปกป้องเงินของลูกค้ากรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด) และการลงทุน (เพื่อสร้างเงินให้งอกเงย) ทั้งหมดนี้ก็พอจะครอบคลุมในการให้คำแนะนำแล้ว

สำหรับทักษะที่ต้องเพิ่มพูน เช่น ทักษะในการสื่อสารและรับฟัง คนที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนต้องเป็นผู้ฟังที่ดีมากๆ ต้องมี empathy ในการเข้าใจผู้อื่น เป็นคนที่น่าเชื่อถือและกล้าตัดสินใจ ซึ่งทักษะต่าง ๆ เหล่านี้สามารถสร้างได้แน่นอน โดยเริ่มจากการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และใส่ใจลูกค้าอย่างเต็มที่ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะช่วยให้ชีวิตของเขาดีขึ้นจริง ๆ

ขั้นตอนที่ 4: สอบ License

หมายเหตุ: บทความนี้จะพูดถึงเฉพาะ License ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพผู้แนะนำการลงทุน

ในขั้นตอนที่ 3 คือการสั่งสมความรู้ที่อยู่ในหัว ส่วนในขั้นตอนที่ 4 คือการพิสูจน์ว่าเรามีความรู้นั้นจริง ๆ ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็คือ การสอบใบอนุญาต (License) ในการเป็นผู้แนะนำการลงทุน

สำหรับคนที่สงสัยเรื่อง License การสอบสายการเงินต่าง ๆ ในประเทศไทยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่

  1. กลุ่มใบอนุญาต
    ใบอนุญาต คือ สิ่งที่ต้องมีในการประกอบอาชีพผู้แนะนำการลงทุนตามที่ กลต. กำหนด ถ้าไม่มีถือว่าผิดกฎหมาย การสอบใบอนุญาต เช่น IC (Investment Consultant), IP (Investment Planner) หรือ IA (Investment Analyst)
  2. กลุ่มคุณวุฒิ
    ใบคุณวุฒิ คือสิ่งที่ยืนยันว่าเราผ่านการอบรมในระดับต่าง ๆ จะมีหรือไม่มีก็ได้ในการประกอบอาชีพ ตัวอย่างคุณวุฒิสายการเงิน เช่น CFP, AFPT, CFA

 

ที่ Finnomena Funds เราเปิดรับพาร์ทเนอร์ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาตตั้งแต่ IC Complex 2 ขึ้นไป (สามารถแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมและตราสารหนี้ที่มีลักษณะซับซ้อนได้) ซึ่งในแต่ละที่ก็จะมีเงื่อนไขในการเป็นพาร์ทเนอร์แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องการใบอนุญาต IC หรือ IP ไม่เกินนี้

อาชีพผู้แนะนำการลงทุน ไม่ได้จำกัดว่าต้องเรียนจบสายการเงินโดยตรง แต่ต้องมีวุฒิปริญญาตรี ประกอบกับการผ่านการอบรม และสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถของแต่ละคน

ขั้นตอนที่ 5: เลือกพาร์ทเนอร์ที่อยากร่วมงานด้วย

ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้แนะนำการลงทุนอิสระก็จริง แต่การลุยเดี่ยวออกไปทำคนเดียวนั้นทำได้ยาก การจะไปหาลูกค้าแล้วเรียกเก็บเป็นค่าแนะนำการลงทุนก็คงไม่มีใครอยากจ่ายให้ ดังนั้นการมีพาร์ทเนอร์จะช่วยทั้งในเรื่องการให้คำแนะนำลูกค้า และการสร้างรายได้ให้กับผู้แนะนำการลงทุนได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่เปิดรับผู้แนะนำการลงทุนเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ โดยให้สิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไป สำหรับที่ Finnomena Funds ก็เปิดรับผู้แนะนำการลงทุนเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับเราเช่นกัน ท่านที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ finnomena.com/fa/

อ่านเพิ่มเติม Finnomena Funds ให้สิทธิประโยชน์อะไรกับผู้แนะนำการลงทุนบ้าง?

ขั้นตอนที่ 6: ออกไปหาลูกค้าคนแรก

ขั้นตอนสุดท้าย คือการเริ่มออกไปให้คำแนะนำเรื่องการเงินให้กับลูกค้าคนแรกของคุณ เริ่มแรกที่ยังไม่มีคอนเนคชันหรือชื่อเสียงที่จะทำให้ลูกค้าแนะนำกันปากต่อปาก การหาลูกค้าอาจจะทำได้ยาก ดังนั้นเริ่มต้นง่ายที่สุดคือการให้คำแนะนำกับคนใกล้ตัว อาจจะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงของเราก็ได้ หรือถ้ายังไม่ได้วางแผนการเงินส่วนตัวก็เริ่มจากตัวเอง เราต้องดูแลตัวเราเองให้ดีก่อนถึงจะไปดูแลคนอื่นได้

การเดินทางหมื่นลี้เริ่มจากก้าวหนึ่งก้าว การจะเป็นผู้แนะนำการลงทุนที่ดูแลลูกค้าหลักร้อยก็ต้องเริ่มจากดูแลลูกค้าคนแรกให้ดีก่อน จาก 1 คนเป็น 2 คน จาก 2 คนเป็น 3 คน ค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ ถ้าเรายังรักและหลงใหลในอาชีพนี้ รับรองว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

สนใจสมัครเป็นผู้แนะนำการลงทุนกับ Finnomena Funds

ครบทั้ง 6 ขั้นตอนเบื้องต้นสำหรับเส้นทางการเป็นผู้แนะนำการลงทุน หวังว่าจะเป็นแนวทางให้ผู้ที่สนใจในอาชีพสายนี้ไม่มากก็น้อย

ท่านใดสนใจสมัครเป็นผู้แนะนำการลงทุนกับ Finnomena Funds สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ 

finnomena.com/fa/


คำเตือน: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับอาชีพผู้แนะนำการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนหรือแนะนำให้ลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพนี้ควรศึกษาหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ