รู้จักหุ้นญี่ปุ่นในพอร์ต Warren Buffett ขุมทรัพย์ Value Stock สำหรับเก็บสะสมระยะยาว พร้อมวิเคราะห์โอกาสการลงทุน และแนะนำกองทุน F-Pick หุ้นญี่ปุ่น ASP-NGF
มีหุ้นญี่ปุ่นอยู่ 5 ตัวที่ Warren Buffett เข้าลงทุนมาตั้งแต่ปี 2020 และทยอยเก็บสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมีสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ถึงตัวละ 10% ซึ่งคาดว่าปัจจุบัน Berkshire Hathaway มีมูลค่าการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นสูงถึง 2.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมยืนยันชัดเจนว่าเป็นการลงทุนระยะยาว ประกอบด้วย
1. Marubeni Corporation
บริษัทการค้าระหว่างประเทศที่มีธุรกิจครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ทั้งด้านพลังงาน เครื่องจักร สินค้าอุปโภคบริโภค รวมไปถึงด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วย ถือเป็นองค์กรเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่มีอายุมากกว่า 167 ปี ซึ่งสามารถยืนหยัดเติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง
2. Itochu Corporation
บริษัทพาณิชย์รายใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า พลังงาน และโลจิสติกส์ โดยเป็นผู้นำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีรายได้จากหลายช่องทาง ครอบคลุมแทบทุกภาคส่วนของญี่ปุ่น และดำเนินธุรกิจมากว่า 167 ปี
3. Sumitomo Corporation
หนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งมีอายุเกิน 100 ปี ดำเนินกิจการในด้านโลหะ โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีการสื่อสาร และทำธุรกิจเทรดดิ้งทั่วโลก รวมถึงเป็นยักษ์ใหญ่ขยายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น
4. Mitsui & Co., Ltd.
บริษัทพาณิชย์ที่มีการลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี เหมืองแร่ และบริการก่อสร้าง ซึ่งบริษัทได้ขยายธุรกิจมากมาย จนมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและได้รับความเชื่อมั่นจากหุ้นส่วนธุรกิจทั่วโลก
5. Mitsubishi Corporation
หนึ่งในบริษัทพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ พลังงาน อาหาร การเงิน ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ทั้ง 5 บริษัทเป็นที่รู้จักในชื่อ Sogo Shosha หรือบริษัทการค้าที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจญี่ปุ่น และมีบทบาทสำคัญที่คอยเชื่อมโยงตลาดโลกกับธุรกิจในประเทศ ซึ่งยังมีอีก 2 บริษัทในกลุ่มนี้ คือ Toyota Tsusho และ Sojitz
ญี่ปุ่นเป็นไม่กี่ประเทศที่หุ้น Value ชนะหุ้น Growth
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ภาพของตลาดหุ้นโลกเป็นช่วงเวลาที่หุ้น Growth กลุ่มเทคโนโลยี AI เติบโตได้ดีมาก แต่ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นไว้หนึ่งแห่ง
Source: Finnomena Funds as of 25/04/2025
ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของผลตอบแทนระหว่างหุ้น Value และหุ้น Growth ใน 3 ตลาดหลัก ได้แก่ หุ้นญี่ปุ่น หุ้นโลก และหุ้นสหรัฐฯ โดยใช้ดัชนี MSCI เปรียบเทียบกันในช่วง 2 ปี (มกราคม 2023 – เมษายน 2025) ชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญ ดังนี้
อัตราส่วนของ MSCI Japan Value Index / MSCI Japan Growth Index สะท้อนว่าหุ้น Value ของญี่ปุ่นมีผลตอบแทนดีกว่าหุ้น Growth ชัดเจน โดยค่า Index ล่าสุดอยู่ที่ 117.55 เพิ่มขึ้นประมาณ 17.55%
แต่ตัวแทนหุ้นโลกอย่าง MSCI World Value Index / MSCI World Growth Index และตัวแทนหุ้นสหรัฐฯ MSCI USA Value Index / MSCI USA Growth Index พบว่าค่า Index อยู่ต่ำกว่า 100 แปลว่าหุ้น Value ให้ผลตอบแทนแพ้หุ้น Growth
เพราะตลาดญี่ปุ่นมีปัจจัยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม การปรับโครงสร้างบริษัท การจ่ายปันผล และแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติ เช่น Warren Buffett
มุมมองหุ้นญี่ปุ่นโดย Finnomena Funds
- เงินเฟ้อญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับสูง และยังมีแรงหนุนเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นจากการขึ้นค่าจ้างที่สูง ทำให้ BoJ มีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อสกุลเงินเยน (JPY) มีโอกาสแข็งค่าต่อ ซึ่งเป็นปัจจัยหนักที่กดดันราคาหุ้น
- แต่ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดค่อนข้าง Price In ต่อแนวโน้ทการขึ้นดอกเบี้ยของ BนJ ไว้มากแล้ว
- เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังมีทิศทางที่แข็งแกร่งจากภาคการบริการหนุนจากภาคท่องเที่ยว
- รัฐบาลญี่ปุ่นยังเดินหน้าเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ แต่มีความซับซ้อนในเรื่องการรักษาสมดุลความสัมพันธ์กับจีนและการพึ่งพิงการทหารจากสหรัฐฯ
- การที่ผู้ซื้อหุ้นรายใหญ่อย่าง Warren Buffet ทยอยเก็บสะสม 5 หุ้นญี่ปุ่น และการซื้อหุ้นคืนของบริษัทญี่ปุ่นที่ทำสถิติสูงสุด คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.9 ล้านล้านเยนในปี 2024 เป็นปัจจัยกระตุ้นต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาว
- ประมาณการกำไรของตลาดหุ้นถูกปรับลงเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ Valuation สมเหตุสมผลขึ้น
Finnomena Funds คงคำแนะนำ Neutral ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เน้นการลงทุนแบบ Selective ผ่านกองทุน ASP-NGF หรือพอร์ต DR หุ้นนอกด้วยกลยุทธ์ Definit Global Select (DGS)
กองทุนหุ้นญี่ปุ่นแนะนำ ASP-NGF
ASP-NGF หรือ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสนิปปอนโกรท (ความเสี่ยงระดับ 6) มีนโยบายการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น ผ่านกองทุนหลัก Nippon Growth (UCITS) Fund บริหารและจัดการโดย E.I. Sturdza Strategic Management Limited โดยมีเป้าหมายคว้าโอกาสการลงทุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่น
Investment Process ของกองทุนมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของพอร์ตด้วยความสามารถในการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคและอุตสาหกรรมที่ตลาดยังไม่ได้รับรู้ คัดเลือกหุ้นขนาดใหญ่ Large Cap มูลเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ พิจารณาทั้งหุ้น Growth และ Value ทั้งหมดประมาณ 30 ตัว เน้น Selective สูง ไม่อ้างอิงดัชนี
ตัวอย่าง Top Holdings as of 14/05/2025 ได้แก่ Mitsubishi UFJ Financial Group, Sumitomo Mitsui Financial, Mizuho Financial Group, Itochu Corp และ Isetan Mitsukoshi Holdings เป็นต้น
Source: Finnomena Funds, Morningstar data 17/05/2023 – 23/04/2025
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by Krungsri ติดต่อทีม Kept Help Center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299