ส่งลูก เรียนต่อต่างประเทศ

สารบัญ (คลิกอ่านส่วนที่สนใจได้เลย)


คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่ต้องการส่งลูกไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ แต่ต้องเตรียมเงินไว้เท่าไร จึงจะส่งลูกไปเรียนต่างประเทศได้ดังใจหวัง นี่คือเรื่องที่ต้องศึกษาและวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ

และเรื่องที่ต้องคิดมากที่สุดในการวางแผนส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศอย่างหนึ่งคือ ค่าเทอม เพราะทราบกันดีว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้จัดได้ว่าสูงพอตัว

เรื่องพื้นฐานที่ต้องรู้: ค่าเล่าเรียนของแต่ละประเทศ

ตัวเลือกสำหรับการศึกษาต่อต่างประเทศมีอยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือ ออสเตรเลีย แต่วันนี้เรารวบรวมค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาต่อในประเทศยอดฮิตอย่าง สหรัฐอเมริกา และ อังกฤษ มาให้ทั้งระดับปริญญาตรีและโท

ค่าเทอมในการเรียนต่อในสหรัฐอเมริกาปัจจุบัน

  • ป.ตรี: 900,000 – 2,000,000 บาทต่อปี
  • ป.โท: 650,000 – 2,500,000 บาทต่อปี

ค่าเทอมในการเรียนต่อในอังกฤษปัจจุบัน

  • ป.ตรี: 540,000 – 2,700,000 บาทต่อปี
  • ป.โท: 500,000 – 2,000,000 บาทต่อปี

 

*ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปตามมหาวิทยาลัยและหลักสูตรที่ศึกษา

นอกจากค่าเทอมแล้ว ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมยังประกอบด้วย ค่าสมัคร ค่าเดินทาง ค่าที่พักอาศัย ค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าครองชีพด้านอื่น ๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามประเทศ เมือง ชนิดที่พักอาศัย หลักสูตร  รวมถึงทุนสนับสนุน

เงินเฟ้อ: ศัตรูตัวร้ายของแผนส่งลูกเรียนนอก

นอกจากค่าใช้จ่ายในการส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศจะสูงแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่อาจทำให้แผนไม่สำเร็จคือ ‘เงินเฟ้อ’ เพราะเดิมที อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 3% ที่นำมาคำนวณเวลาวางแผนการเงินก็ร้ายใช่ย่อยอยู่แล้ว

แต่ทว่าเงินเฟ้อด้านการศึกษานั้นสูงถึง 5% เลยทีเดียว (สะท้อนว่าค่าเทอมปรับขึ้นเร็วกว่าสินค้าทั่วไป)

พอเห็นตัวเลข 5% หลายคนอาจย่ามใจว่าเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมาก แต่ในระยะยาว (ซึ่งแน่นอนการส่งลูกเรียนนอกอาจต้องใช้เวลาเตรียมตัวหลักสิบปี) ตัวเลขเท่านี้สร้างความต่างได้มหาศาล เช่น

เงิน 100 บาท ที่เพิ่มขึ้นปีละ 5%
ผ่านไป 15 ปี จะมีค่า 210 บาท (+110%)

ทีนี้ลองเปลี่ยนจาก ร้อย เป็น ล้าน จะเห็นภาพตรงนี้ชัดมาก

คำถามคือ เมื่อเงินเฟ้อร้ายขนาดนี้ ถ้าอยากส่งลูกไปศึกษาต่อต่างประเทศเราควรวางแผนอย่างไร?

เรายกข้อมูลมาให้ 4 สถานการณ์คือการศึกษาต่อในอเมริกาและอังกฤษ ในระดับ ป.ตรี และ ป.โท ลองมาดูว่าถ้ามีเวลาวางแผนและเก็บเงิน 15 ปี ควรเตรียมเงินประมาณไหน

ตัวอย่าง: ส่งลูกเรียนต่ออเมริกาและอังกฤษ

ส่งลูก เรียนต่อต่างประเทศ

ค่าเทอมการส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศเมื่อปรับเงินเฟ้อระยะเวลา 15 ปี | Source: hands-on.co.th as of 15/02/2023

ตอนนี้เราจะพอรู้แล้วว่าเราวางแผนจากค่าเทอมในปัจจุบันไม่ได้ แต่ต้องวางแผนไปยาว ๆ โดยคิดเงินเฟ้อด้วย (ในที่นี้เราจะยกข้อมูลเดิมข้างบนมา) เช่น

สหรัฐอเมริกา

  • ปริญญาตรี
    • ค่าเทอมต่อปี: 9 แสน – 2 ล้านบาท 
    • จบหลักสูตร 4 ปี (ยังไม่คิดเงินเฟ้อ): 3.6 ล้านบาท – 8 ล้านบาท
    • จบหลักสูตร 4 ปี (คิดเงินเฟ้อ 15 ปี): 8 ล้านบาท – 18 ล้านบาท
  • ปริญญาโท
    • ค่าเทอมต่อปี: 6.5 แสน – 2.5 ล้านบาท 
    • จบหลักสูตร 2 ปี (ยังไม่คิดเงินเฟ้อ): 1.3 ล้านบาท – 5 ล้านบาท
    • จบหลักสูตร 2 ปี (คิดเงินเฟ้อ 15 ปี): 2.8 ล้านบาท – 10.7 ล้านบาท

 

อังกฤษ

  • ปริญญาตรี
    • ค่าเทอมต่อปี: 5.4 แสน – 2.7 ล้านบาท 
    • จบหลักสูตร 4 ปี (ยังไม่คิดเงินเฟ้อ): 2.2 ล้านบาท – 10.8 ล้านบาท
    • จบหลักสูตร 4 ปี (คิดเงินเฟ้อ 15 ปี): 4.8 ล้านบาท – 24.2 ล้านบาท
  • ปริญญาโท
    • ค่าเทอมต่อปี: 5 แสน – 2 ล้านบาท 
    • จบหลักสูตร 2 ปี (ยังไม่คิดเงินเฟ้อ): 1 ล้านบาท – 4 ล้านบาท
    • จบหลักสูตร 2 ปี (คิดเงินเฟ้อ 15 ปี): 2.1 ล้านบาท – 8.5 ล้านบาท

 

จะเห็นได้เลยว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 110% เมื่อเวลาผ่านไป 15 ปี

คิดบนพื้นฐานว่าพ่อแม่ใช้เวลาเก็บเงิน 15 ปี และเริ่มจ่ายค่าเทอมในปีที่ 16 (ซึ่งเงินเฟ้อยังดำเนินต่อ) เป็นต้นไป

แน่นอนว่าครอบครัวหนึ่งอาจมีบุตรหลายคนที่ต้องส่งไปศึกษาต่อในเวลาแตกต่างกัน และนอกจากเรื่องของการศึกษาบุตรเรายังมีเป้าหมายอื่น ๆ ในชีวิตที่ต้องวางแผนอีก จะดีไหมถ้ามีนวัตกรรมมาช่วยคุณพ่อคุณแม่แบบเรา ๆ วางแผนการเงินส่งลูกเรียนต่อได้ง่ายขึ้น อย่าง Goals Navigator

วางแผนส่งลูกเรียนนอกให้สำเร็จพร้อมกับเป้าหมายอื่น ด้วย Goals Navigator

Goals Navigator คือนวัตกรรมวางแผนการลงทุนระดับโลกที่ FINNOMENA FUNDS และ Franklin Templeton ร่วมกันพัฒนาและออกแบบ สิ่งที่ทำให้ Goals Navigator แตกต่างจากการวางแผนทั่วไป คือ

  • Success Driven เป็นแผนการลงทุนที่มุ่งเน้นความสำเร็จสูงสุดของเป้าหมายในระยะยาว เพียงแค่เรากำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการลงทุนเพื่ออะไร  
  • Multi-Goal ครอบคลุมการวางแผนในทุกช่วงจังหวะของชีวิต ทั้งเกษียณ ส่งลูกเรียน เที่ยวทั่วโลก ฯลฯ ทำให้ชีวิตที่มีหลายเป้าหมาย จัดการง่ายในที่เดียว
  • Multi-Priority ช่วยจัดสรรเงินลงทุนตามความสำคัญของเป้าหมาย แบ่งได้เป็น Need, Want, Wish, Dream ให้สิ่งสำคัญและจำเป็น เข้าใกล้สำเร็จได้ก่อน
  • Lifetime Monitoring ช่วยดูแล ติดตามผล และให้คำแนะนำปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ พร้อมเคียงข้างไปจนถึงเป้าหมายอย่างใกล้ชิด

Goals Navigator คืออะไร? นวัตกรรมวางแผนการลงทุนระดับโลก ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายชีวิต

เราสามารถใช้ Goals Navigator ทำให้เป้าหมายส่งลูกเรียนนอกเป็นจริงได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบแผนการลงทุนที่เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ ทีนี้เราลองมาดูกันเบื้องต้นว่า Goals Navigator ช่วยเราอย่างไรได้บ้าง

เริ่มแรกโปรแกรมจะให้เรากำหนดเป้าหมาย, ความสำคัญของแผนลงทุน, จำนวนเงินลงทุนครั้งแรก, เงิน DCA, เงินที่จะ DCA เพิ่มในแต่ละปี, จำนวนเงินที่ต้องใช้ในแต่ละช่วงเวลา (ปีการศึกษา) นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คำนวณเงินเฟ้อในแผนการลงทุนได้ด้วย

ส่งลูก เรียนต่อต่างประเทศ

ตัวอย่างแผนการเงินสำหรับการส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศ | Source: FINNOMENA FUNDS as of 12/10/2023

ในกรณีนี้ เราต้องการส่งลูกศึกษาต่อในประเทศอังกฤษในระดับปริญญาตรี ระยะเวลาวางแผน 15 ปี มีการกำหนดเงินลงทุนขั้นต้นและ DCA ดังภาพ และกำหนดเงินเฟ้อไว้ที่ 5% โดยมีเงื่อนไขคือจะต้องดึงเงินออกปีละ 2.5 ล้านบาทเมื่อเริ่มการศึกษา 

Goals Navigator จะวิเคราะห์ผลลัพธ์ออกมาให้ว่าสิ่งที่เราต้องการ มีโอกาสบรรลุเป้าหมายแค่ไหน หรือหากเป็นเป้าหมายที่เกินจริง (Goal is not realistic) ก็จะแสดงข้อความแจ้งเตือนให้เราปรับรายละเอียดเป้าหมายให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด เช่น เพิ่มเงิน เพิ่มระยะเวลาลงทุน เป็นต้น

สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกหลายคนก็ไม่ต้องห่วง เพราะ Goals Navigator สร้างแผนได้หลายเป้าหมายพร้อมกัน พร้อมส่งบุตรหลานของคุณทุกคนเรียนต่างประเทศได้สำเร็จ ตอบโจทย์ทุกชีวิตที่ต่างมีไลฟ์สไตล์ในฉบับของตนเอง


อ้างอิง

คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำควรเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”