จดหมายจาก “Warren Buffett” ถึงนักลงทุนเน้นคุณค่า ในปี 2023

“หลายปีที่ผ่านมา ผมทำผิดพลาดไปหลายครั้ง”

วอร์เรน บัฟเฟตต์ อุทิศเนื้อที่ส่วนแรก ๆ บนจดหมายให้กับความถ่อมตัวของเขา

“เราจึงมีธุรกิจที่มีผลงานน่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ อยู่ในมือน้อยตัวนัก” เขาอธิบายต่อ “หลาย ๆ ธุรกิจในมือก็มีผลงานที่ดีใช้ได้ แต่กลุ่มใหญ่ ๆ เลยกลับร่อแร่จนเกือบขาดทุน”

แทบจะเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้วที่เราจะได้เห็นหัวเรือใหญ่ของ Berkshire Hathaway เริ่มต้นจดหมายจากปลายปากกาของเขาด้วยความผิดพลาดของเขาเอง ทั้งนี้ ‘จดหมายจากบัฟเฟตต์’ คือส่วนหนึ่งในรายงานประจำปีของบริษัทและเป็นเหมือนคัมภีร์ไบเบิลฉบับรายปีที่นักลงทุนทั่วโลกตั้งตารอคอย

‘การยอมรับความผิดพลาด’ ซึ่งเป็นเรื่องแรก ๆ ที่เขาสื่อสารออกมาในข้อเขียนถึงนักลงทุนทั่วโลก จึงเป็นคำสำคัญที่นักลงทุนน่าหยิบไปคิดต่อ เพราะจากเนื้อความที่เขาจะอธิบายต่อจากนี้ จะเห็นได้ชัดว่า การพูดถึงก้าวที่พลาดพลั้ง ไม่ใช่การถ่อมตนจนเกินเลยของพ่อมดแห่งโอมาฮา แต่กลับเป็นแก่นสารของการสร้างพอร์ตการลงทุนระยะยาวที่ดลบันดาลผลตอบแทนให้เขาได้ราวกับเวทมนตร์ในอัตราทบต้น 19.8% ต่อปี ติดต่อกัน 58 ปี

พลั้งบ้างก็ได้

บัฟเฟตต์พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายปีว่า หุ้นเพียงไม่กี่ตัวก็สามารถพลิกการลงทุนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดังนั้น การยอมให้กับการลงทุนที่ผิดพลาดบ้างในบางครั้งจึงเป็นเรื่องที่ทำได้

เขายกตัวอย่างการลงทุนของตัวเองเพื่อเน้นย้ำถึงเรื่องสำคัญเรื่องนี้ในจดหมายฉบับล่าสุดว่า “การบริหารงานของผมตลอด 58 ปี ที่ Berkshire การตัดสินใจส่วนใหญ่เข้าข่ายธรรมดา ๆ” บัฟเฟตต์ยืนยันว่า ผลลัพธ์อันน่าประทับใจของเรา “มาจากการตัดสินใจที่ดีเยี่ยมจริง ๆ ซึ่ง 5 ปี จะมีมาให้เห็นสักครั้ง”

เพื่ออธิบายเรื่องนี้ให้เห็นภาพชัด ๆ บัฟเฟตต์พาเราไปยังเมืองโอมาฮา ในปี 1994 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของมหากาพย์ 7 ปีของ Berkshire Hathaway ในการทุ่มซื้อหุ้น Coca-Cola จำนวน 400 ล้านหุ้น ที่มูลค่ารวม 1,300 ล้านเหรียญ และต่อมาเพียงหนึ่งปี พวกเขาก็ทุ่มซื้อหุ้น American Express ในมูลค่าเท่ากัน

กลับมายังปัจจุบัน การลงทุนในหุ้นน้ำอัดลมของเขาทะยานขึ้นมามีมูลค่า 25,000 ล้านเหรียญ ส่วนหุ้นบัตรเครดิตก็เติบโตไม่แพ้กัน โดยมีมูลค่าปัจจุบัน 22,000 ล้านเหรียญ ซึ่งรวม ๆ หุ้นทั้งสองจะมูลค่ารวมกันราว 1 ใน 10 ของการลงทุนทั้งหมดที่ Berkshire ปี 2022

บัฟเฟตต์สมมติขึ้นมาว่า ถ้าบังเอิญในทศวรรษ 1990 เขาได้ตัดสินใจลงทุนในหุ้นตัวที่ 3 ในมูลค่า 1,300 ล้านเหรียญ เท่ากับ Coca-Cola และ American Express แต่การลงทุนเจ้ากรรมตัวนี้ดัน ‘ผิดพลาด’ และราคาไม่เพิ่มเลยในเวลา 30 ปี ซึ่งทำให้มูลค่าปัจจุบันของหุ้นนี้อยู่ที่ 1,300 ล้านเหรียญเท่าเดิม

ความผิดพลาดก้อนนี้ก็จะเป็นเศษเสี้ยวเพียง 0.03 ใน 10 ของการลงทุนทั้งหมด (เทียบกับ Coca-Cola บวกกับ American Express ที่มีมูลค่า 1 ใน 10) เพราะการตัดสินใจดี ๆ บางตัว (บวกกับการลงทุนระยะยาว) เข้ามาชดเชยการลงทุนแย่ ๆ นิทานของบัฟเฟตต์เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “วัชพืชจะเฉาตายเมื่อมวลไม้ใหญ่ผลิบาน”

เล่นหุ้น? ที่นี่เราไม่ทำกันแบบนี้

“ชาร์ลีและผมไม่ใช่นักเลือกหุ้น เราเป็นนักเลือกธุรกิจต่างหาก”

บัฟเฟตต์อธิบายถึงสิ่งที่ตัวเขา ชาร์ลี มังเกอร์ คู่หูของเขา รวมถึงทีมงานทุกคน ทำกันที่ Berkshire นี่คือประโยคที่อธิบายปรัชญาการลงทุนของเขาได้ดีที่สุด และยังเป็นเรื่องราวอันดับหนึ่งที่เขาย้ำนักย้ำหนากับนักลงทุน

เรื่องนี้ช่วยเติมเต็มเรื่องราวที่เล่าไปก่อนหน้าได้เป็นอย่างดีว่าเราจะหา ‘การลงทุนที่ดี’ เพื่อลบล้างการตัดสินใจแย่ ๆ ได้อย่างไรในระยะยาว ซึ่งบัฟเฟตต์อธิบายว่าเราจะต้องหา “ธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตที่ยั่งยืนและทีมบริหารที่วางใจได้” และลงทุนในธุรกิจเหล่านั้น

เป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าการลงทุนที่ดีต้องมีศักยภาพเติบโต แต่อีกคำที่น่าสนใจในคำพูดของบัฟเฟตต์คือการมองหาผู้บริหารที่ดี และเขาก็พูดเอาไว้ชัดเจนว่า “ถ้าธุรกิจจะผิดพลาดบ้างเราเข้าใจ แต่ถ้าผู้บริหารประพฤติไม่เหมาะสมเรื่องนี้เราจะไม่ทนเด็ดขาด”

คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนอย่างยิ่งว่า เมื่อ Berkshire จะลงทุน พวกเขาลงทุนไปกับ ‘ธุรกิจทั้งกระบวน’ ไล่ไปตั้งแต่ทีมผู้บริหารไปจนถึงพนักงานที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจขึ้น ไม่ใช่ลงทุนในหุ้นและอาศัยการขึ้นลงของราคาหลักทรัพย์ตามความคาดหวังตลาดเพื่อสร้างผลตอบแทน

จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมบัฟเฟตต์ถึงให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อของทีมบริหารในระดับที่ตัวเขาเองก็ยอมรับว่า “อาจสุดโต่งไปด้วยซ้ำหากมองจากมุมของคนอื่น”

ธุรกิจแสนวิเศษ ในราคาสุดโง่งม

ถ้าจะมีที่ไหนสักที่ที่จะมอบโอกาสอันหอมหวาน (และบางครั้งก็ขื่นขม) ในการเป็นเจ้าของธุรกิจสักตัวหนึ่ง บัฟเฟตต์บอกว่าที่แห่งนั้นก็คือ ตลาดหุ้น

“เรื่องนี้สำคัญมาก คุณต้องเข้าใจว่าหุ้นมักถูกซื้อขายในราคาแสนโง่งมอยู่บ่อยครั้ง บ้างก็แพงหูฉี่ บ้างก็ถูกเหลือเชื่อ” เขาอธิบาย “ทั้งหุ้นและพันธบัตรต่างก็ยุ่งเหยิงไปหมด พฤติกรรมในราคาของสิ่งเหล่านี้จะเป็นที่เข้าใจได้ก็ต่อเมื่อเรากลับมามองย้อนทีหลังเท่านั้นแหละ”

บัฟเฟตต์กล่าวถึงชาร์ลี มังเกอร์ คู่หูผู้เต็มไปด้วยวาจาโผงผางดุดัน ว่าครั้งหนึ่งชายผู้นี้เคยอธิบายถึงโลกการลงทุนเอาไว้ว่า “เต็มไปด้วยนักพนันจอมทึ่ม และคนเหล่านี้จะไม่มีวันทำได้ดีเท่านักลงทุนผู้อดทน”

“แต่เรื่องแบบนี้ก็มีประโยชน์อยู่บ้าง” บัฟเฟตต์พูดถึงข้อดีของตลาดหุ้นที่นักลงทุนเน้นคุณค่าสามารถฉกฉวยได้ “เพราะบางครั้ง มันก็เปิดโอกาสให้เราได้มีส่วนร่วมในธุรกิจแสนอัศจรรย์ในราคาอันน่าทึ่ง”

แล้วจะทำอย่างไรต่อกับธุรกิจแสนอัศจรรย์นั้น? คำตอบไม่ยาก ครั้งหนึ่ง มังเกอร์เคยกล่าวประโยคที่สะท้อนถึงแนวทางการลงทุนในแบบของ Berkshire เอาไว้ว่า “วอร์เรนกับผมขอเพิกเฉยกับตลาดที่ฟูฟ่อง สิ่งที่เรามองหาคือการลงทุนที่ดี และจะกอดมันเอาไว้อย่างดื้อดึงเป็นเวลานาน”

กำเงินสด และอดทน

“ความอดทนฝึกกันได้ สมาธิที่มั่นคงและความสามารถที่จะจดจ่อกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้อย่างยาวนานถือเป็นข้อได้เปรียบอันใหญ่หลวง” – ชาร์ลี มังเกอร์

นี่คือคำตอบของคำถามว่าควรทำอะไรเมื่อต้องเผชิญยามยากในโลกแห่งการลงทุน เพราะบัฟเฟตต์เชื่ออย่างแรงกล้าว่า “การคาดเดาเศรษฐกิจและตลาดในอนาคตอันใกล้เป็นเรื่องที่ยิ่งกว่าไร้ประโยชน์”

เขาอธิบายวิธีการที่ทำให้ Berkshire สามารถถือบริษัทที่ดีในตลาดที่แย่ได้ด้วยจิตใจที่ไม่สั่นไหวว่า “เราถือเงินสดแบบเต็มกระบุงพร้อมด้วยพันธบัตรรัฐบาลอีกไม่น้อย และเราจะเลี่ยงทุกพฤติกรรมที่ทำให้เงินสดขาดมือในยามยาก เช่น เมื่อตลาดตื่นตกใจ” เขาอธิบายต่อ “หน้าที่ของเราคือสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจเมื่อเวลาผ่านไป”

ส่องผลงาน Berkshire Hathaway เมื่อก้าวสู่ปี  2023

หลายปีที่ผ่านมา Berkshire เติบโตได้กลาง ๆ เมื่อเทียบกับตลาด แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในเวลาที่ผันผวนอย่างปี 2022 กลับเป็นเวลาที่หุ้นของ Berkshire เปล่งประกาย เพราะถูกซื้อขายอยู่ในจุดที่เกือบจะแตะจุดสูงสุดใหม่ สวนทางกับหุ้นร้อนแรงอย่างหุ้นเทคฯ ที่ทำผลงานได้ย่ำแย่

เมื่อสิ้นปี 2022 บริษัท Berkshire Hathaway นั่งตำแหน่งผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดใน 8 บริษัทชั้นนำ ได้แก่ American Express, Bank of America, Chevron, Coca-Cola, HP Inc., Moody’s, Occidental Petroleum และ Paramount Global

นอกเหนือจากรายงานประจำปีที่ Berkshire จะส่งถึงนักลงทุนเป็นประจำทุก ๆ ต้นปี แล้ว ในไตรมาส 2 ซึ่งในปีนี้คือวันที่ 5-6 พฤษภาคม Berkshire ก็จะมีอีกหนึ่งอีเวนต์สำคัญซึ่งก็คืองานประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ เมืองโอมาฮา และนี่จะเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่นักลงทุนตั้งตารอ

อ้างอิง 

FinSpace

ที่มาบทความ: https://www.finspace.co/warren-buffett-letter-2023/