ค่อนข้างชัดแล้วว่าตอนนี้ทุกอย่างกำลังเข้าทางหุ้นเติบโต (Growth Stock) ด้วยหลายเหตุผลที่เป็นลมหนุนหลัง ไม่ว่าจะเป็น…

• FED หยุดขึ้นดอกเบี้ยเป็นทางการ คงไว้ที่อัตรา 5.25-5.50% มองมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีหน้า วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุดลงแล้ว
• เงินเฟ้อมีทิศทางชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดย Headline CPI สหรัฐฯ เดือนพ.ย. +3.1% YoY ต่ำกว่าเดือนต.ค. ที่ +3.2%
• หนุนให้ US Bond Yield ร่วงต่ำกว่า 4% เข้าสู่ช่วง Powerful decrease ซึ่งดีต่อหุ้น

FINNOMENA FUNDS ให้คุณได้ลงทุนในกองทุนรวมชั้นนำของประเทศไทยจากหลากหลาย บลจ.
ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะลงกองเดี่ยว จัดพอร์ต วางแผนลงทุน หรือลดหย่อนภาษี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://finno.me/get-started-ws?ct_id=afmoat-trend-following-investor/

Source: FINNOMENA FUNDS, Macrobond, Russell Investment Group as of 22/11/2023

สถิติในอดีตยังบอกเราว่าหุ้นสหรัฐฯ ขนาดใหญ่-กลางใน Russell 1000 คือหุ้นใหญ่ที่สุด 1 พันตัวแรก (คล้าย ๆ S&P500 แต่เพิ่มเป็นหนึ่งพัน) มักกลับมาเติบโต Outperform หลัง Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ย

แต่ความแตกต่างของรอบนี้ก็คือหุ้น Growth ที่ไม่ใช่กลุ่ม 7 นางฟ้า (Magnificent-7 ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, META, Tesla และ Nvidia ) ราคายังคง Laggard

Source: FINNOMENA FUNDS as of 27/11/2023

แปลว่าหุ้น Big/Mid Cap Growth ยังมีโอกาสไปต่อได้อีก ด้วย Valuations ที่น่าสนใจ สังเกตได้จากกราฟข้างบน จะเห็นว่าพอเทียบ “แท่งสีเทา” ซึ่งเป็นหุ้น Russell 1000 ที่ตัด Magnificent-7 ทิ้งไป ถือว่ามี Discount ที่ถูกกว่า “แท่งสีดำ” ซึ่งเป็นกลุ่ม Magnificent-7 ล้วน ๆ

ขณะที่ภาพของการเติบโตในอีก 1-2 ปีข้างหน้า หุ้นขนาดกลางก็ถือว่าไม่แย่ จาก EPS Growth ที่ระดับ 16-17% แม้จะไม่ได้แกร่งที่สุด แต่ก็มีโอกาสรออยู่ข้างหน้า

 Source: Bloomberg, FINNOMENA FUNDS as of 13/12/2023

เมื่อดูความเคลื่อนไหวของราคาในปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าหุ้น 7 นางฟ้าปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 80% ขณะที่่หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ตัวอื่น ๆ ใน Russel 1000 เพิ่งปรับขึ้นเพียงกว่า 20% เท่านั้น  

จัดกลุ่มกองทุนหุ้น Growth

คำถามคือแล้วควรเลือกกองทุนหุ้น Growth อะไรดี? เพราะในตลาดนั้นมีหลากสาย หลายสไตล์ เช่น 

• MEGA-10-A: ที่โดดเด่นเรื่องลงทุนในบริษัท Brand ชั้นนำ
• B-INNOTECH: เน้นส่วนผสมของหุ้นเทคโนโลยีกระแสหลัก
• TMB-ES-GINNO, KFINNO-A: เน้นหุ้นเทคโนโลยีไซส์กลาง สายสวนกระแสจากค่าย Ark Invest
• ONE-UGG-RA, KFGG-A, KFUS-A: กลุ่มกองทุนของค่าย Baillie Gifford เน้นกลยุทธ์ระยะยาว และราคายังค่อนข้าง Laggard
• KKP SEMICON-H: กองทุนสายเซมิคอนดักเตอร์
• SCBKEQTG: กองทุนหุ้นเกาหลีใต้ สาย Country Growth

ถ้ามองแบบ The Contrarian Investor ที่ต้องการซื้อด้วย Discount แต่ก็ไม่ละทิ้งโอกาสเติบโตไปพร้อมปัจจัยเร่งเรื่องอัตราดอกเบี้ย วันนี้ผมขอจิ้มไปที่ KFUS-A: กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้-สะสมมูลค่า

ความน่าสนใจของ KFUS-A

KFUS-A มีกองทุนหลักคือ Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund ที่บริหารแบบเชิงรุก เน้นคัดหุ้นเติบโตที่เป็นอนาคตใหม่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ด้วยกลยุทธ์แบบ bottom-up หยิบหุ้นเข้าพอร์ตประมาณ 30-50 ตัว และมองเกมในระยะยาวมากกว่าโมเมนตัมระยะสั้น

ปรัชญาการลงทุนของกองทุน Baillie Gifford

1. We are long term in our investment decisions ลงทุนในบริษัทที่มีความสามารถการแข่งขันในระยะยาว วัดผลการดำเนินงานจาก 10 ปี ไม่ใช่เพียงแค่ในระดับไตรมาส พร้อมประเมินผลการดำเนินงานเมื่อผ่านไป 5 ปี
2. Our approach to investment is global and purely stock driven บริหารเชิงรุกโดยไม่มีดัชนีอ้างอิงมาเป็นข้อกำหนด เน้นลงทุนแบบ High conviction style สัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับ Potential upside และ Level of conviction
3. We are growth investors เฟ้นหาบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตหลายเท่าตัวจากขนาดปัจจุบัน อย่างน้อย 5 ปีต้องเติบโตได้ 2 เท่าตัว ลงทุนในหุ้นที่ราคาแพงได้ หากมองว่าราคาในอนาคตยังสามารถไปต่อได้

Source: Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund Fact Sheet as of 31/10/2023

หุ้นในพอร์ต KFUS-A แน่นอนว่าส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจําวันชัดเจน และได้แรงส่งจากการใช้ AI ที่หนุนการเติบโตได้อีกมหาศาล 

แต่ก็ไม่ใช่กองทุนที่ลงทุนกระจุกแค่หุ้นเทคโนโลยีอย่างเดียว ยังคงมีส่วนผสมของหุ้น Growth จากอุตสาหกรรมอื่น ๆ เข้ามาด้วย

และถ้ามองไปที่ Top Holding พบว่ามีหุ้นบิ๊กเทค Magnificent-7 อยู่บ้าง คือ Amazon, Nvidia, Tesla แต่ส่วนใหญ่จะเห็นว่า Baillie Gifford พยายามเข้าไปลงทุนในหุ้น Mid Cap Growth ซึ่งตรงคอนเซปต์ที่เรากำลังตามหาหุ้นเติบโตขนาดกลางที่ Valuations น่าสนใจ และยังเติบโตได้ดี

หมายเหตุ: ข้อมูลสัดส่วนการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต และการลงทุนของกองทุน KFUS-A มิได้ลงทุนใน 10 บริษัทข้างต้นนี้เสมอไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทใดจะเข้าเงื่อนไขตรงกับนโยบายของกองทุน

สัญญาณซื้อ CDC Action Zone กลับมายืนยันอีกครั้ง

เมื่อประกอบกับการดูสัญญาณทางเทคนิค CDC Action Zone ซึ่งใช้เส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 วัน กับ EMA 26 วัน เพื่อหาสัญญาณการซื้อขายตามแนวโน้มในแต่ละช่วงเวลา ผมเจอสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

Source: TradingView as of 07/12/2023

ย้อนไปเมื่อปี 2020 ในช่วงหลังโควิด ได้เกิดสัญญาณซื้อจาก CDC Action Zone กราฟ week (EMA 12 วัน เส้นสีแดง ตัดขึ้นเหนือเส้น EMA 26 วัน เส้นสีน้ำเงิน) พร้อมกับเป็นช่วงที่ FED ลดดอกเบี้ยพอดี จากนั้น KFUS-A ปรับตัวขึ้นถึง 300% ในรอบที่แล้ว

ปลายปี 2023 นี้ เหตุการณ์คล้าย ๆ กัน กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง! เมื่อสัญญาณซื้อ CDC Action Zone เริ่มกลับมา ประกอบกับการเตรียมลดดอกเบี้ยของ FED ในปีหน้า จังหวะแบบนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ ครับ

ความเคลื่อนไหวของกองทุน KFUS-A ตั้งแต่ต้นปี 2023

Source: FINNOMENA FUNDS as of 14/12/2023
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/KFUS-A

แนะนำนักลงทุนอาจจะใช้โอกาสนี้ พิจารณาทยอยสะสมกองทุนหุ้นกลุ่ม Growth ผ่าน KFUS-A ได้ครับ หรือใครที่มีแผนต้องลดหย่อนภาษีอยู่แล้ว ก็มีประเภท KFUSRMF และ KFUSSSF ให้เลือกด้วยเช่นกัน 

และสุดท้ายคือคำถามยอดฮิตสำหรับท่านที่มีกองทุน ONE-UGG-RA หรือ KFGG-A ถ้าไม่อยากลงเพิ่มใน KFUS-A แต่สนใจถัวสองกองข้างต้นแทนเนื่องจากติดดอยอยู่ก็เป็นโอกาสที่น่าสนใจมากเช่นกันครับเพราะมีพอร์ตการลงทุนที่ค่อนข้างคล้ายกัน

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/ 

FundTalk – The Contrarian

คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF และ RMF | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”