กองทุนรวม มักจะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่นักลงทุนมือใหม่จะเลือกลงทุน เนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์การลงทุนมากนัก จึงไม่กล้าที่จะเลือกลงทุนในหุ้นเอง หรือ ไม่มีเวลาตามข่าวสารตลาด การที่มีผู้จัดการกองทุนนำเงินไปบริหารการลงทุนให้น่าจะดีกว่า แม้จะเป็นนักลงทุนมือใหม่ แต่มักจะเห็นว่าได้มีการศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมขึ้นมา มาดูกันว่าคำถาม 10 อันดับแรกที่พบเจอบ่อยเป็นคำถามอะไรกันบ้างค่ะ

เลือกซื้อกองทุนและเลือกรับของขวัญสุดพิเศษด้วยตัวคุณเอง กับโปรโมชั่น FINNOMENA FUND SHOPPING DAY เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ 9 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2565
👉 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://finno.me/campaign-carnival

อันดับ 10 ตอนเช้าตลาดหุ้นตกหนัก ซื้อเพิ่มเลยดีไหม

การคิดราคา หรือ NAV ของกองทุน จะใช้ราคาปิดของตลาดหุ้นในแต่ละวัน ดังนั้นการดูภาพรวมตลาดจะเหมาะกับนักลงทุนที่ซื้อกองทุนดัชนี หากตอนเช้าตลาดเป็นขาลง แต่ตอนตลาดปิดพลิกกลับมาเป็นขาขึ้น จะทำให้ราคา NAV ของวันนี้จะสูงขึ้นกว่าเมื่อวาน

อันดับ 9 ยิ่งกระจายความเสี่ยงยิ่งดี งั้นซื้อหลายๆ กองดีไหม

ถ้าเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนคล้ายๆ กัน เช่น กองทุนรวมหุ้น การถือหลายๆ กอง อาจจะเกิดการลงทุนทับซ้อนกันได้ เพราะจะมีการถือหุ้นตัวเดียวกัน แบบนี้จะไม่ช่วยในเรื่องการกระจายความเสี่ยง หากต้องการเน้นลงทุนในหุ้นเป็นหลัก การกระจายการลงทุนไปในหุ้นประเทศอื่นๆ อาจจะช่วยลดความผันผวนได้ เนื่องจากเศรษฐกิจของแต่ละประเทศจะไม่ขึ้นและลงพร้อมๆ กัน ทำให้สามารถรักษาผลตอบแทนของพอร์ตได้

อันดับ 8 ซื้อกองทุน Passive หรือ Active ดีกว่ากัน

การจะเลือกแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละท่าน กองทุน Passive จะเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับตลาด สามารถรับความผันผวนได้บ้าง ส่วนกองทุน Active จะมีความผันผวนมากกว่า เนื่องจากจะมีโอกาสที่ผลตอบแทนจะสูงกว่าตลาดได้ แต่ก็มีโอกาสที่จะขาดทุนได้มากกว่าตลาดเช่นกัน ดังนั้นจึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง

อันดับ 7 ซื้อกองทุนวันปิดสมุดทะเบียนจะได้ปันผลไหม

วันปิดสมุดทะเบียน หรือ XD ย่อมาจาก Excluding Dividend ดังนั้นการซื้อวันปิดสมุดทะเบียน จะไม่ได้เงินปันผลแล้ว หากต้องการรับเงินปันผลในรอบนี้ นักลงทุนจะต้องซื้อก่อนวันปิดสมุดทะเบียน

อันดับ 6 ซื้อกองทุน IPO ดีไหม

การซื้อกองทุน IPO มีข้อดีตรงที่มีค่าธรรมเนียมตอนซื้อที่ต่ำกว่าช่วงหลัง IPO เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งค่าธรรมเนียมนั้นเป็นเพียงหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อกองทุน ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก คือ นโยบายการลงทุน การกระจายความเสี่ยง และผลตอบแทนที่ผ่านมา (กรณีเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund) หากนักลงทุนยังไม่มั่นใจนัก อาจจะรอดูผลตอบแทนระยะสั้นประมาณ 3-6 เดือนก่อน เพื่อดูว่าเทียบกับ Benchmark แล้ว ทำผลตอบแทนได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าไหม

อันดับ 5 ทำไมซื้อกองทุนแล้วได้ราคาไม่ตรงกับในเว็บ

ราคา หรือ NAV ที่แสดงในเว็บ จะเป็นราคาที่ไม่รวมค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของกองทุน ซึ่งค่าธรรมเนียมนี้จะไม่ได้หักจากเงินลงทุนที่เราซื้อกองทุนไป แต่จะหักอยู่ในราคา NAV เลย ทำให้เวลาที่เราเข้าซื้อ จะขึ้นราคา NAV ที่แพงกว่า และเวลาขายออก จะขายได้ราคา NAV ที่ต่ำกว่า

คำถามยอดฮิตเพิ่มเติม: นอกจากคำถามว่าซื้อกองทุนแล้วได้ราคาไม่ตรงกับในเว็บเนื่องจากเรื่องค่าธรรมเนียมแล้ว หลายคนสงสัยว่า ซื้อกองทุนรวมวันนี้ จะได้ NAV วันไหน ในเมื่อ NAV ที่โชว์บนเว็บหรือในแอป ยังเป็น NAV เมื่อ 2-3 วันที่แล้วอยู่

คำตอบคือ จะได้รับ NAV ของวันที่ซื้อ (ก่อนเวลา cut-off time ของแต่ละกอง) ตัวอย่างเช่น ซื้อกองทุน xx วันที่ 26 ม.ค. 64 ก่อนเวลา cut-off time ก็จะได้ NAV กองทุนนั้นของวันที่ 26 ม.ค. 64 (หลังตลาดปิดแล้ว) อย่างไรก็ตาม การซื้อกองทุนรวมจะเป็นแบบ T+1 สำหรับกองในประเทศ และ T+2-3 สำหรับกองต่างประเทศ กล่าวคือ หลังจากซื้อกองทุนแล้ว ต้องรอประมาณ 2-3 วันทำการ NAV ถึงจะขึ้นโชว์บนพอร์ต (ถ้าซื้อ 26 ม.ค. Nav จะขึ้นโชว์บนพอร์ตเราประมาณ 28-29 ม.ค. เป็นต้น)

อันดับ 4 กองทุนปันผลกับไม่ปันผลแบบไหนดีกว่า

กองทุนปันผลจะเหมาะกับนักลงทุนต้องการกระแสเงินสดกลับมาใช้ในชีวิตประจำวัน และไม่ได้ต้องการกำไรจากส่วนต่างของราคามากนัก หากนักลงทุนต้องการกำไรจากส่วนต่างของราคา กองทุนปันผลอาจจะไม่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากเมื่อมีการจ่ายปันผลออกมา ราคา NAV ของกองทุนจะลดลง ทำให้ราคา NAV ของกองทุนปันผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

อันดับ 3 กองทุนที่ถืออยู่ขาดทุนทำอย่างไรดี

ส่วนใหญ่ก่อนที่นักลงทุนจะตัดสินใจซื้อกองทุน มักจะซื้อเพราะต้องการลงทุนในระยะยาว แต่เมื่อขาดทุนจะความกังวลใจ ดังนั้นอยากให้ย้อนกลับไปตอนที่ตัดสินใจซื้อ ว่าซื้อเพราะอะไร เมื่อขาดทุนแล้วกองทุนนี้ยังตอบโจทย์เป้าหมายในตอนแรกอยู่ไหม ถ้าพื้นฐานยังดีอยู่ จะเป็นช่วงที่เหมาะสมในการซื้อเพิ่ม แต่หากไม่ดีแล้วก็คงต้องจากลากันไป เลือกกองใหม่ที่ตอบโจทย์เป้าหมายดีกว่า

อันดับ 2 DCA วันไหนดี

การลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar Cost Average เป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยทุกเดือน ด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กัน นักลงทุนหลายๆ ท่านจะอยากเลือกวันที่ได้ราคาต่ำที่สุด แต่จริงๆ การลงทุนแบบ DCA นั้นเหมาะกับการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นควรเลือกวันที่เราสะดวกที่สุดดีกว่า เช่น เลือก DCA วันที่เงินเดือนออก จะได้เป็นการออมก่อนใช้ไปในตัว เนื่องจากราคา NAV ในหนึ่งเดือนไม่ได้มีความผันผวนมากเกินไป

อันดับ 1 กองทุนไหนดี

คำถามยอดฮิตอันดับ 1 เชื่อว่าผู้อ่านเองคงจะเคยเป็นฝ่ายถาม หรือ โดนถามมาบ้าง เป็นคำถามที่ตอบยากจริงๆ เพราะยังไม่ทราบว่าผู้ถามมีเป้าหมายการลงทุนอะไร ระยะเวลาการลงทุนนานเท่าไหร่ รับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน กองทุนที่ดีของคนหนึ่ง อาจจะไม่ดีต่ออีกคนก็ได้ เนื่องจากการมีเป้าหมายที่ต่างกัน ระยะการลงทุนและการยอมรับความเสี่ยงที่ต่างกัน ส่งผลต่อการเลือกกองทุนทั้งหมด ดังนั้นหากผู้ถามให้แนบคำตอบเหล่านี้มาด้วย จะทำให้ตอบได้ง่ายขึ้นค่ะ

จบไปแล้วสำหรับ 10 อันดับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม จะเห็นว่าหลักสำคัญของการลงทุนนั้น นักลงทุนควรจะเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยง เมื่อเกิดผลขาดทุนจะได้ไม่มีอาการกังวลใจเกินไป หรือ สามารถสับเปลี่ยนกองทุนใหม่ได้

สุดท้ายนี้อย่าลืมอ่านหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน แล้วเราจะ Get Wealth Soon ไปด้วยกัน นะคะ

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave