ESG Investing จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้เราได้จริงหรือ? I Alpha Pro EP.17

ย้อนกลับไปเมื่อตอนกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ที่ผมเขียนบทความแรกกับ Alpha Pro ผมได้ให้มุมมองถึงผลกระทบของวิกฤตการณ์โควิด-19 กับการลงทุน ขณะที่บทความชิ้นต่อมา ก็เขียนเกี่ยวกับธีมการลงทุนที่น่าสนใจในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มี ESG Investing ซึ่งย่อมาจาก Environmental, Social, and Governance บทความนี้ ผมขอขยายความภาพของ ESG Theme ให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นนะครับ

กลับไปที่ Basic Investment หรือ การลงทุนขั้นพื้นฐานที่ว่า เราทุกคนต้องการผลกำไรจากการลงทุน ในช่วงร้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่โลกของเราใช้ระบบทุนนิยมขับเคลื่อนมาจนถึงวันนี้ ดูเหมือนผลกำไรนี้ จะเป็นเป้าหมายสูงสุดและเป็นตัวขับเคลื่อนโลกเราจนมาถึงปัจจุบัน

แต่การคิดถึงเพียงแค่ด้านของผลกำไร (ในระยะสั้น) เพียงอย่างเดียว ดูเหมือนจะไม่เพียงพอและสร้างผลกระทบไม่ใช่แค่ต่อตัวบริษัทเอง แต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคมด้วย ดังที่เราเห็นตัวอย่างมากมาก

อย่างกรณี Electronic Waste หรือ ขยะอิเล็คทรอนิกส์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตขึ้นอย่างมหาศาลของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ขยะเหล่านี้ก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นโลหะหนัก ได้แก่ ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม นอกจากนี้ยังมีสารหนู กามะถัน จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

กรณี Food Waste จากอาหารที่กินเหลือในระดับครัวเรือน เศษอาหารและวัตถุดิบเหลือใช้จากกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมอาหาร หรือแม้แต่อาหารที่เหลือจากการจำหน่ายตามห้างร้าน ตัวอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ละปีจะมีคนอเมริกันทิ้งอาหารประมาณ 40 ล้านตัน ด้วยจำนวนนี้ หากจัดสรรอย่างดี สามารถนำไปเลี้ยงผู้คนที่ขาดแลคนอาหารได้ถึง 1 พันล้านคนทีเดียว

หรือ การที่นโยบายรัฐฯ สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่กลับทิ้งคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่โตมากขึ้นในชุมชนเมือง ปัญหาที่ตามมาก็คือ ความไม่เท่าเทียมกันของคนในสังคม (Inequality) ทั้งในแง่ฐานะทางสังคม ความมั่งคั่งทางการเงิน หรือ รวมไปถึง โอกาสในสังคม

สิ่งที่ผมยกตัวอย่างมานี้ จริง ๆ แล้ว ก็มีคนจำนวนหนึ่ง (แต่จำนวนน้อยเหลือเกิน) ที่พยายามจะผลักดันแนวคิดและรณรงค์ให้เราใส่ใจต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเพียงแค่ผลกำไรในไตรมาสถัดไป

แสงสว่างที่เริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นก็คือ คนรุ่นใหม่อย่าง Gen Y (Millennial) และ Gen Z ที่รับข้อมูลข่าวสารมากมายอย่างรวดเร็ว ทันโลกและวิเคราะห์สถิติเรื่องต่าง ๆ ผ่านทางสื่อในโลกอินเตอร์เน็ต เขาคาดการณ์อนาคตได้เร็ว ตัดสินใจทำอะไรอย่างรวดเร็ว ไม่ชอบรอคอย แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ Gen Z เป็นรุ่นที่กลัวอนาคต จึงมักเปรียบเทียบ หาข้อมูลเยอะ คิดเยอะ และสิ่งใดที่เห็นว่าควรเปลี่ยนแปลง ก็จะเป็นกระบอกเสียงในโลกโซเชียลกลุ่มแรก ๆ ในบางเรื่องด้วยเหมือนกัน

ความที่คนรุ่นใหม่ กำลังจะเข้ามามีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ความคิดเห็นของเขาจึงมีอิทธิพลต่อสังคมมากขึ้น ทำให้การทำธุรกิจในวิถีเดิม ๆ โดยไม่สนใจ Stakeholders รอบด้าน สนใจเพียงแค่ผลกำไรของบริษัท จะไม่ได้รับการยอมรับจากคนรุ่นใหม่เหล่านี้ ส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กร และสุดท้ายก็วกกลับเข้ามาส่งผลต่อผลประกอบการในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เราได้เห็นอย่างตัว กรณีคดีที่มีชื่อเสียงในสังคมไทยหลายคดี หลายเหตุการณ์ ที่ถึงแม้บางเหตุการณ์จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวบุคคล ไม่ได้เป็นการกระทำในนามบริษัท ก็สามารถโดนกระแสสังคมกดดันจนทำให้บริษัทต้องออกมารับมือกับสถานการณ์ในยามวิกฤตนั้นด้วย

มาถึงคำถามสำคัญว่า เราในฐานะนักลงทุนเราจะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในธีม ESG Investing ได้มีนัยสำคัญจริงหรือ?

ผมคิดว่า ก่อนจะไปตอบคำถามนั้น เราควรถามตัวเองก่อนว่า เราจะสนับสนุนหรือเข้าลงทุนในธุรกิจใด ๆ เพียงแค่เพื่อผลตอบแทนระยะสั้น ๆ ? ถึงแม้บริษัทหรือธุรกิจนั้นจะไม่ได้แคร์ ไม่ได้ใส่ใจกับผลกระทบต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ครับถ้าเราเลือกได้ เราก็คงไม่อยากสนับสนุน และมันคงจะดีมาก ๆ หากการสนับสนุนบริษัทที่มีกระบวนการกำกับดูแลให้เกิดความยั่งยืน (Sustainable Company) ที่เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย สามารถเข้าร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุยทำความเข้าใจระหว่างกัน รับฟังความคิดเห็นและความต้องการ

เพื่อค้นหาประเด็นที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นที่ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่องค์กรคาดการณ์หรือประเมินไว้เกี่ยวกับผู้มีส่วนได้เสียไม่ได้เกิดจากองค์กรคิดเองอยู่คนเดียว

ในอดีตได้เคยมีการทำสถิติว่า ESG Investing หรือ การลงทุนในหลักทรัพย์ที่คำนึงถึงการกำกับดูแลตาม ESG Process นั้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีหรือไม่ หากเทียบกับการเลือกลงทุนในดัชนีตลาดหุ้น ก็พบว่า ยังไม่เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

ESG Investing จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้เราได้จริงหรือ? I Alpha Pro EP.17

จนกระทั่งล่าสุด รายงานล่าสุดของ PricewaterhouseCoopers เมื่อเดือนมิ.ย. 2020 ที่ผ่านมา พบว่า หากลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่มี ESG Score สูงสุด 20% แรก นับตั้งแต่ต้นปี และผ่านช่วงวิกฤตโควิด-19 เมื่อเดือนมี.ค.-เม.ย. ที่ผ่านมาที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการ Lockdown และ Social Distancing พบว่าการลงทุนด้วยธีม ESG  สามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในดัชนี S&P 500 ในช่วงเวลาเดียวกัน

อาจจะสั้นไปหน่อยในการวัดผลตอบแทนเพื่อการตัดสินใจ แต่เราก็เริ่มเห็นว่า การลงทุนอย่างยั่งยืน (ESG) จะทำให้เรามั่นใจในการลงทุน และส่งเสริมให้องค์กรต่าง ๆ เห็นความสำคัญของเสียงเล็ก ๆ รวมถึงผลกระทบอื่น ๆ ที่เขาอาจไม่เคยใส่ใจมาก่อนนะครับ

Mr.Messenger

อ่านบทความอื่น ๆ จากคอลัมน์ Alpha Pro ได้ที่ https://www.finnomena.com/alphapro/

ที่มาบทความ: https://adaybulletin.com/know-alpha-pro-esg-investing/

iran-israel-war